อยากได้บิ๊กไบค์ แต่แฟนอยากได้รถบ้านธรรมดา เลยไม่พอใจผม

ตามหัวข้อเลยครับ
ผมอยากได้รถบิ๊กไบค์ แฟนเลยไม่พอใจเอามากๆ เพราะแฟนอยากได้รถธรรมดา

ขอแจ้งก่อนนะครับผมกับแฟนไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินเลย เราตกลงกันว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระกันและกัน และไม่เคยทะเลาะกันตลอดเวลาที่คบกัน(6ปี) อาจจะมีโกรธงอนกันบ้างแต่เราจะดีกันในทันที

ตอนนี้ผมอายุ25ปี เงินเดือน22,xxx - 3x,xxx฿
ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแบ่งเป็น
-ส่วนตัว ค่ากิน+ค่าเดินทาง 4,000-5,000฿ (50/50กับแฟน)
-มีเงินที่ต้องออมไว้สร้างอนาคต5,000-7,000฿(ขึ้นอยู่กับเงินเดือนแต่ละเดือน)
-ส่งให้ทางบ้าน3,500-4,000฿
-ค่าที่พัก1,700฿ (50/50กับแฟน)
*แน่ๆเลยคือรวมๆไม่เกิน20,000฿ครับ*

เข้าเรื่องกันครับ
คือตอนนี้ผมไม่ได้มีสิ่งของทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองเลย เลยอยากที่จะสร้างทรัพย์สินให้พอมีหน้ามีตาบ้าง ผมเลยคุยกับแฟนว่าอยากมีรถสักคันเอาไว้เดินทางไปไหนมาไหน เพราะปกติก็เดินทางกับรถประจำทางอย่างเดียวเลย อยากจะเอาค่าเดินทางส่วนนี้มาผ่อนรถเป็นของตัวเองดีมั้ย แฟนก็เห็นด้วยเช่นกันครับ
*และประเด็นหลักอยู่ตรงนี้ครับ ผมเสนอเป็นรถบิ๊กไบค์150-200ccนี่แหละ เพื่อเวลาขับไปรับแฟน แฟนจะได้ไม่อายสังคมที่ทำงาน (แฟนผมเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีการแข่งขันสูง สังคมแบบชนชั้นสูงหน่อยๆ *คคหสต.) เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เขาก็มีท่าทีที่ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เขาบอกว่านั่งไม่สบายหรือเปล่ามันดูลำบาก ไว้ดูรุ่นอื่นๆเผื่อไว้
และก็คุยๆกันประมาณ2-3วันครับ ก็เลือกๆรุ่นกัน ผมก็มีประมาณ2รุ่นที่สนใจ ส่วนแฟนมีแต่รุ่นเดียวแบบไม่อยากได้บิ๊กไบค์เลยสักนิด ก็คุยๆกันไปอีก1-2วัน ผมเลยบอกว่าอยากได้รุ่นนี้จริงๆ(บิ๊กไบค์) ผมก็โชว์ตารางผ่อน + ดอกเบี้ยอะไรให้ดู ผมก็บอกว่าสบายมากๆเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนนี้ (ค่ารถผมจะรับผิดชอบคนเดียวนะครับเผื่อมีใครเข้าใจผิด) หลังจากนั้นแฟนผมก็ขึ้นเสียงใส่พูดมาว่ามันเกินความจำเป็นเกินไป แค่จะเอามาขับไปไหนมาไหนเอง (T-T) ผมก็เสียใจมากๆ และก็ตอบแฟนไปว่าเค้าไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย ทำไมทรัพย์สินของเค้าตัวเองถึงมาเป็นคนกำหนดให้ล่ะ (ปกติพูดกับแฟนว่าเค้า-ตัวเองนะครับ) แฟนก็โกรธผม ละก็ทำท่าทีที่ทำให้ผมเสียใจอีกคือการมองหน้าผมแล้วส่ายหัว ผมก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย ผมรู้สึกผิดหวังแบบบอกไม่ถูก และไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรครับ คือก็คุยกันปกติมีการขอโทษกันที่ทำอะไรไม่ดี ปลอบใจกัน และผมก็บอกไปว่างั้นพักเรื่องนี้ไปก่อน ไว้หาทางออกด้วยกันอีก จบ...

ผมเลยอยากจะทราบว่ามีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบผมบ้างครับ ในมุมมองของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายผู้หญิง  

มีความคิดเห็นยังไงกันบ้างครับกับเรื่องนี้ (พึ่งเคยเขียน กท.ครั้งแรก อาจจะมั่วๆหน่อยนะครับ ขัดใจพี่ๆผมต้องขออภัยด้วยจริงๆครับ)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คือ รถคันแรกของคนสองคน แต่ดันเป็นรถที่ใช้งานคนเดียว ไม่ได้เอื้ออำนวยความสะดวกให้คู่ของเราเลยเนี่ยแหละครับ วันไหนแฟนอยากออกไปจ่ายกับข้าว เขาขับออกไปเองได้ไหม ไม่ได้ไงต้องรอคุณอย่างเดียว

ผมว่ามันจะไม่มีปัญหาเลยถ้าคุณสองคนมีรถเก๋งที่ใช้งานร่วมกันได้อยู่ก่อนแล้ว และปฏิบัติต่อบิ๊กไบค์ได้เหมือนงานอดิเรกที่ไม่กระทบอะไรการเงินหลักของการใช้ชีวิตร่วมกัน

การมีรถในชีวิตคู่ ในสถานะทางการเงินอย่างนี้ มันเรื่องใหญ่ครับ รองๆ จากเรื่องบ้านเรื่องเดียว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อยากที่จะสร้างทรัพย์สินให้พอมีหน้ามีตาบ้าง ...ระวังความคิดส่วนนี้ครับ คนจำนวนไม่น้อยมีชีวิตหน้าชื่นอกตรม เพราะการซื้อของเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับสังคม

ประการแรกที่ต้องเข้าใจคือ สิ่งที่คุณกำลังจะก่อไม่ใช่ทรัพย์สินแต่คือหนี้สิน

ประการที่สอง ถ้าจะก่อหนี้สินจริง ๆ อย่างน้อยควรใช้หลักประโยชน์ใช้สอยให้มาก ๆ

ระหว่าง บิ๊กไบค์ กับ รถยนต์ ...โหวตรถยนต์ครับ ในแง่การใช้สอยน่าจะครอบคลุมกว่าทั้งสะดวกสบาย ปลอดภัย การบรรทุกคน และสัมภาระ ฯลฯ

ไว้รวยมีเงินเป็นล้าน ค่อยกลับไปถอยบิ๊กไบค์ครับ
ความคิดเห็นที่ 2
รถยนต์ก่อนเถอะ

สะดวกสบายกว่ามอ.เยอะ
ฝนตกไม่เปียก
ตากแดดไม่ร้อน
หัวไม่ยุ่ง
เปิดแอร์เย็นสบาย

เหล็กหุ้มเนื้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่