"ชัยธวัช" มั่นใจ "ก้าวไกล" ถูกยุบ "แลนด์สไลด์" แน่ เลือกตั้งซ่อมเมืองคอน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2760442
“ต๋อม” ชัยธวัช หัวหน้าก้าวไกล บุก นครศรีธรรมราช โว พรรคใหม่ชื่ออะไรไม่รู้ เชื่อ แต่ถ้าก้าวไกลถูกยุบพรรค มั่นใจ "แลนด์สไลด์" แน่ ลั่นกลอง เลือกตั้งซ่อมเขต 8 ปลุก ประชาชนอย่าหวั่น ยัน สถานการณ์แตกต่าง "อนาคตใหม่"
เมื่อเวลา 09.30-12.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่หมู่บ้านหลังโรงแรมจินเฮง ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. นาย
สมชาย ฝั่งชลจิตร สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ภาคใต้ ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมทั้ง เช็กความพร้อมเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช มีสมาชิกพรรค และชาวบ้านเข้าร่วมอย่างคึกคัก
โดยนายชัยธวัช กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นเพราะพื้นที่แห่งการเปลี่ยนแปลง ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่พื้นที่ทางการเมืองแบบเก่าของผู้มีอำนาจ มันหดแคบลงเรื่อยๆ จนเขาต้องออกคำวินิจฉัยเพื่อสร้างกำแพง เพื่อจะสกัดกั้นการเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากนี้ เราต้องรวมตัวกันประกาศว่า เราไม่กลัวกำแพงนี้ และเราจะทำลายข้ามกำแพงนี้ไปด้วยกัน สถานการณ์ทำนองนี้ ปลายปี 2562-2563 เราเคยเจอมาแล้ว กับพรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่รู้สึกสิ้นหวังมืดมน วันนี้ข่าวตีบอกว่า ก้าวไกลจะถูกยุบ มีแต่คนบอกว่า ถ้ายิ่งยุบคราวหน้าก้าวไกล หรือชื่ออะไรไม่รู้ แ-่งแลนด์สไลด์แน่นอน นี่คือสถานการณ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหวั่นไหว มีแต่พวกเขาที่ต้องกลัวพวกเรา กลัวกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า ดังนั้นหลังจากนี้ไปแน่นอนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผู้บริหารพรรค แกนนำพรรค เราพร้อมรับทุกสถานการณ์ สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรค ต้องมัดกันให้แน่น ทำความเข้าใจสถานการณ์ พูดกันปากต่อปากว่า ไม่ต้องหวั่นไหวชัยชนะอยู่กับพวกเราในที่สุด การมัดกันแน่นนั้นคือ การที่สมาชิกพรรคผู้สนับสนุน โหวตเตอร์ แต่ละอำเภอ จับกลุ่มทำความเข้าใจ จังหวัดไหนยังไม่มีสมาชิกพรรคมากพอ บอกเลยในสถานการณ์แบบนี้ ใครโกรธแค้น ใครไม่พอใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แสดงออกโดยการสมัครสมาชิกเพิ่มสิครับ เพื่อยืนยันว่ากูยังอยู่กับก้าวไกล ใช่หรือไม่
นาย
ชัยธวัช กล่าวอีกว่า มีสมาชิกพรรคเสร็จปุ๊บ รวมตัวกันเลือกตั้งตัวแทนพรรคระดับอำเภอ ระดับตำบล ตั้งกรรมการระดับจังหวัด ทุกคนมีกลุ่มไลน์ มีคอนแท็กต์ ติดต่อกันให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ มัดรวมกันไปข้างหน้าเตรียมพร้อมทางการจัดตั้ง แล้วเดินหน้าไปด้วยกัน ตนอยากจะบอกพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช และภาคใต้ว่า เดินหน้าไปด้วยกันในกลางปีนี้ ศึกแรกเลือกตั้งซ่อมเขต 8 เราจะแสดงให้เห็นว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรต่อผู้มีอำนาจในประเทศนี้ รู้สึกอย่างไรว่าเรากลัว เราท้อเราถอยจริงหรือไม่ แสดงให้เห็นผ่านการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 ว่าเราไม่กลัว เราไม่หยุด เราจะผลักดันความคิด ความฝัน ความเชื่อ ของพวกเราต่อไปผ่านคูหาเลือกตั้งให้ได้ เอาชนะการเลือกตั้งเขต 8 ให้ได้
กป.อพช. วอน ‘ปธ.สภา’ ดึงปมนโยบาย 112 หารือ ปกป้องอำนาจประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4408111
กป.อพช. ร่อนจม.วอน ปธ.สภา ปกป้องอำนาจประชาชน ดึงปมนโยบาย 112 ก้าวไกล เข้าหารือ
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นาย
สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก ถึงประธานรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เรื่อง รัฐสภาต้องปกป้องอำนาจประชาชน และต้องนำเรื่องศาลรัฐธรรมนูญเข้าสู่การหารือในรัฐสภา โดยมีเนื้อหาความว่า
การที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ตามที่นายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษร ยื่นร้องให้พิจารณา การกระทำของพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่นั้น ซึ่งศาลมีการวินิจฉัยสรุปความว่า
“การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”
พวกข้าพเจ้าเห็นว่า การวินิจฉัยดังกล่าว ขัดกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยสร้างบรรทัดฐานใหม่ในทางการเมือง และกระบวนการบัญญัติบทกฏหมายของระบบรัฐสภาไทย ทำให้สังคมเข้าใจไปว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลที่มีการเสนออย่างชัดเจนว่าให้มีแก้ไขประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 มีเจตนาแฝงที่ต้องการยกเลิกมาตราดังกล่าว ผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์ของพรรคที่ต้องการใช้กระบวนการทางรัฐสภาเป็นทางออกเพื่อคลี่คลายความไม่เข้าใจต่อเรื่องนี้ของสังคมไทยโดยรวม
พวกข้าพเจ้า จึงขอเรียกร้องไปยังประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาทั้งหลาย ได้โปรดออกมาปกป้องสถาบันทางการเมืองที่มาจากอำนาจของประชาชน ด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาหารือในที่ประชุมรัฐสภา และขอให้มีการใช้กระบวนการรัฐสภาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งภายใต้เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจไว้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ถูกต้อง เป็นอิสระ ทั้งนี้ เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยฯ ที่แท้จริงต่อไป
ด้วยความเคารพ
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ค้ารับ ‘กางเกงช้าง’ เมดอินไชน่า โบ๊เบ๊-ประตูน้ำ 70% นำเข้า หวังรัฐล้อมกรอบลิขสิทธิ์ซอฟต์พาวเวอร์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4407641
เปิดใจผู้ค้าเสื้อผ้าไทย ชี้เหตุ “กางเกงช้าง” ทำไมจีนผลิตตีตลาด หวังรัฐล้อมกรอบลิขสิทธิ์กระแสซอฟต์พาวเวอร์
นาย
ณฐวัจน์ พุทธศิริวัฒน์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าในย่านประตูน้ำ กล่าวกับ มติชน ถึงสถานการณ์การค้าเสื้อผ้าในประเทศไทย และความกังวลอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอของไทยไม่ได้รับอานิสงส์ เมื่อมีกระแสความนิยมสินค้าไทย โดยเฉพาะเสื้อผ้าลายไทยหรือลวดลายที่ไทยเป็นผู้สร้างกระแส เช่น กางเกงช้าง ที่มีการนำเข้าจากจีนหรือประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าผลิตในไทย นั้นว่า ปกติการค้าเสื้อผ้าในทุกวันนี้ สินค้าที่ไทยได้รับความนิยมทั้งคนไทยเองหรือนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ พ่อค้าคนไทยหรือพ่อค้าจีนในไทย จะไปจ้างโรงงานในประเทศจีนหรือประเทศเพื่อนบ้านผลิต เนื่องจากมีโรงงานจำนวนมาก สามารถผลิตได้ในเวลาสั้นๆ ในจำนวนมากเพียงพอ ค่าแรงต่ำกว่าไทย ทำให้ขายได้ในราคาถูก เช่น กางเกงช้าง ต่ำกว่า 100 บาทก็มี ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ไม่แค่กางเกงช้าง สินค้าไทยอื่นๆ หากได้รับความนิยมหรือมีกระแสดังขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ ก็มักเป็นไปจ้างนอกประเทศโดยเฉพาะจีนเป็นผู้ผลิต หรือตรุษจีนปีนี้ เสื้อผ้าหรือสินค้าที่วางขายกันอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าผลิตในจีนและข้ามแดนมาทางประเทศเพื่อนบ้าน
“
เรื่องแบบนี้เป็นมานานแล้ว หลังจากกลุ่มผลิตในประเทศเจอปัญหาการปรับค่าแรงขั้นต่ำพรวดเป็น 300 บาท ส่งผลต่อต้นทุนและล้มหายไปของผู้ผลิตคนไทย บางส่วนต้องหันไปจ้างผลิตหรือนำเข้าแทน ทั้งจากจีน กัมพูชา เวียดนาม อย่างโรงงานผลิตกางเกงช้างที่ติดป้ายว่าเมดอินไทยแลนด์ ก็มีให้เห็นบ้างแต่ก็เป็นโรงงานในต่างจังหวัด ในส่วนกลางหรือเมืองใหญ่ไม่ค่อยเห็นเพราะต้นทุนสู้นำเข้าไม่ได้ และเป็นสินค้าตามกระแส อาจเสี่ยงต่อการจ้างผลิตในประเทศที่สินค้าออกช้ากว่าและต้นทุนราคาส่งสูงกว่าจีนมาก ตลาดเสื้อผ้าที่เราเห็นกันทุกวันไม่ว่าจะในย่านโบ๊เบ๊ หรือประตูน้ำ ผลิตในไทยเพียง 30% ที่เหลือ 70% เป็นการจ้างผลิตนอกประเทศหรือนำเข้า” นาย
ณฐวัจน์กล่าว
นาย
ณฐวัจน์กล่าวต่อว่า หากถามจะแก้ไขอย่างไรนั้น ส่วนตัวมองว่าการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย จะกลับมาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และทำเงินเข้าประเทศเหมือนในอดีตคงยากแล้ว รวมถึงการป้องกันการนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะต้องอาศัยการเอาจริงเอาจังของภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและสกัดการนำเข้าสำหรับสินค้าที่ไทยเป็นผู้ปลุกกระแสความนิยม ตอนนี้ผู้ประกอบการรายย่อยก็ยากลำบากมากขึ้น จากการแข่งขันราคากับทุนนอกไม่ได้ กำลังซื้อถดถอย คนไทยซื้อเสื้อผ้าลดลง
“
วันนี้การค้าทั่วไป ต้องอาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เพราะคนไทยระมัดระวังใช้จ่าย แม้กางเกงช้างหรือกางเกงแบบอื่นๆ ก็แค่ระยะหนึ่งก็ซาลง ดังนั้น เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยจะเร่งกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาไทย แต่หากจะคงรักษาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าหรือสินค้าไทย ที่จะได้อานิสงส์จากนโยบายซอต์พาวเวอร์ของรัฐบาล อย่างสงกรานต์ ที่จะมีเสื้อผ้าและของที่เกี่ยวข้องออกมามากมาย เป็นดีไซน์ของไทย ก็ควรใช้โอกาสนี้ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อการป้องกันการนำเข้าสินค้าทะลักจากชายแดน และรัฐเร่งเรื่องจดลิขสิทธิ์สินค้าต่างๆ เพื่อมีการปกป้องความคิดสร้างสรรค์ของไทย” นาย
ณฐวัจน์กล่าว
ศาลโลก รับพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รัสเซียรุกรานยูเครน บางส่วน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4407578
ศาลโลก รับพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รัสเซียรุกรานยูเครน บางส่วน
สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ได้ตัดสินว่าจะรับพิจารณาคดีที่ยูเครนยื่นต่อศาลโลกถึงการที่กองทัพรัสเซียได้เข้ารุกรานยูเครนในปี 2022 หลังตัดสินว่าศาลโลกมีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินคดีที่ยูเครนได้ขอให้ศาลโลกประกาศว่ายูเครนไม่ได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ตามที่รัสเซียใช้สร้างความชอบธรรมในการเข้ารุกราน แต่ปฏิเสธที่จะตัดสินบางข้อกล่าวหาที่ยูเครนหยิบยกขึ้นต่อศาลโลก
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้สั่งการให้กองทัพเข้ารุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 โดยให้เหตุผลว่าประชาชนที่ฝักใฝ่รัสเซียที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของยูเครนตกอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยยูเครน ทำให้ไม่กี่วันต่อมา ยูเครนได้ยื่นฟ้องรัสเซียต่อศาลโลก โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและโต้แย้งว่ารัสเซียใช้ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” เป็นข้ออ้างในการรุกราน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948
คำตัดสินเบื้องต้นของศาลโลกในเดือนมีนาคม 2022 ได้สั่งให้รัสเซียระงับการรุกรานยูเครนในทันที แต่รัสเซียออกมาปฏิเสธคำตัดสิน และให้เหตุผลว่าศาลโลกไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ การตัดสินของศาลโลกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ระบุว่าศาลโลกมีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินข้อโต้แย้งของยูเครนว่า ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ายูเครนทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม ศาลโลกระบุว่าไม่มีอำนาจที่จะตัดสินว่าการรุกรานของรัสเซียและการที่รัสเซียให้การยอมรับการแยกตัวของ 2 ภูมิภาคของยูเครน ได้แก่ โดเนตสค์และลูฮานสค์ ว่าเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่
ด้านหัวหน้าทนายความของยูเครนได้ประกาศให้คำตัดสินของศาลโลกในครั้งนี้เป็นชัยชนะของยูเครน และยินดีที่การพิจารณาคดีจะดำเนินต่อไป พร้อมกล่าวว่า เป็นความสำคัญที่ศาลโลกจะตัดสินในประเด็นว่ายูเครนไม่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างที่รัสเซียจินตนาการขึ้นมาเองและใช้กล่าวหาว่ายูเครนฆ่าล้างเผ่าพันธุ
JJNY : 5in1 "ชัยธวัช"มั่นใจถูกยุบ│กป.อพช.วอน‘ปธ.สภา’│‘กางเกงช้าง’เมดอินไชน่า│ศาลโลกรับพิจารณาคดี│ร้องอิสราเอลยุติรุกราน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2760442
“ต๋อม” ชัยธวัช หัวหน้าก้าวไกล บุก นครศรีธรรมราช โว พรรคใหม่ชื่ออะไรไม่รู้ เชื่อ แต่ถ้าก้าวไกลถูกยุบพรรค มั่นใจ "แลนด์สไลด์" แน่ ลั่นกลอง เลือกตั้งซ่อมเขต 8 ปลุก ประชาชนอย่าหวั่น ยัน สถานการณ์แตกต่าง "อนาคตใหม่"
เมื่อเวลา 09.30-12.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่หมู่บ้านหลังโรงแรมจินเฮง ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. นายสมชาย ฝั่งชลจิตร สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ภาคใต้ ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมทั้ง เช็กความพร้อมเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช มีสมาชิกพรรค และชาวบ้านเข้าร่วมอย่างคึกคัก
โดยนายชัยธวัช กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นเพราะพื้นที่แห่งการเปลี่ยนแปลง ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่พื้นที่ทางการเมืองแบบเก่าของผู้มีอำนาจ มันหดแคบลงเรื่อยๆ จนเขาต้องออกคำวินิจฉัยเพื่อสร้างกำแพง เพื่อจะสกัดกั้นการเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากนี้ เราต้องรวมตัวกันประกาศว่า เราไม่กลัวกำแพงนี้ และเราจะทำลายข้ามกำแพงนี้ไปด้วยกัน สถานการณ์ทำนองนี้ ปลายปี 2562-2563 เราเคยเจอมาแล้ว กับพรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่รู้สึกสิ้นหวังมืดมน วันนี้ข่าวตีบอกว่า ก้าวไกลจะถูกยุบ มีแต่คนบอกว่า ถ้ายิ่งยุบคราวหน้าก้าวไกล หรือชื่ออะไรไม่รู้ แ-่งแลนด์สไลด์แน่นอน นี่คือสถานการณ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหวั่นไหว มีแต่พวกเขาที่ต้องกลัวพวกเรา กลัวกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
นายชัยธวัช กล่าวว่า ดังนั้นหลังจากนี้ไปแน่นอนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผู้บริหารพรรค แกนนำพรรค เราพร้อมรับทุกสถานการณ์ สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรค ต้องมัดกันให้แน่น ทำความเข้าใจสถานการณ์ พูดกันปากต่อปากว่า ไม่ต้องหวั่นไหวชัยชนะอยู่กับพวกเราในที่สุด การมัดกันแน่นนั้นคือ การที่สมาชิกพรรคผู้สนับสนุน โหวตเตอร์ แต่ละอำเภอ จับกลุ่มทำความเข้าใจ จังหวัดไหนยังไม่มีสมาชิกพรรคมากพอ บอกเลยในสถานการณ์แบบนี้ ใครโกรธแค้น ใครไม่พอใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แสดงออกโดยการสมัครสมาชิกเพิ่มสิครับ เพื่อยืนยันว่ากูยังอยู่กับก้าวไกล ใช่หรือไม่
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า มีสมาชิกพรรคเสร็จปุ๊บ รวมตัวกันเลือกตั้งตัวแทนพรรคระดับอำเภอ ระดับตำบล ตั้งกรรมการระดับจังหวัด ทุกคนมีกลุ่มไลน์ มีคอนแท็กต์ ติดต่อกันให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ มัดรวมกันไปข้างหน้าเตรียมพร้อมทางการจัดตั้ง แล้วเดินหน้าไปด้วยกัน ตนอยากจะบอกพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช และภาคใต้ว่า เดินหน้าไปด้วยกันในกลางปีนี้ ศึกแรกเลือกตั้งซ่อมเขต 8 เราจะแสดงให้เห็นว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรต่อผู้มีอำนาจในประเทศนี้ รู้สึกอย่างไรว่าเรากลัว เราท้อเราถอยจริงหรือไม่ แสดงให้เห็นผ่านการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 ว่าเราไม่กลัว เราไม่หยุด เราจะผลักดันความคิด ความฝัน ความเชื่อ ของพวกเราต่อไปผ่านคูหาเลือกตั้งให้ได้ เอาชนะการเลือกตั้งเขต 8 ให้ได้
กป.อพช. วอน ‘ปธ.สภา’ ดึงปมนโยบาย 112 หารือ ปกป้องอำนาจประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4408111
กป.อพช. ร่อนจม.วอน ปธ.สภา ปกป้องอำนาจประชาชน ดึงปมนโยบาย 112 ก้าวไกล เข้าหารือ
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก ถึงประธานรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เรื่อง รัฐสภาต้องปกป้องอำนาจประชาชน และต้องนำเรื่องศาลรัฐธรรมนูญเข้าสู่การหารือในรัฐสภา โดยมีเนื้อหาความว่า
การที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ตามที่นายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษร ยื่นร้องให้พิจารณา การกระทำของพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่นั้น ซึ่งศาลมีการวินิจฉัยสรุปความว่า
“การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”
พวกข้าพเจ้าเห็นว่า การวินิจฉัยดังกล่าว ขัดกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยสร้างบรรทัดฐานใหม่ในทางการเมือง และกระบวนการบัญญัติบทกฏหมายของระบบรัฐสภาไทย ทำให้สังคมเข้าใจไปว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลที่มีการเสนออย่างชัดเจนว่าให้มีแก้ไขประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 มีเจตนาแฝงที่ต้องการยกเลิกมาตราดังกล่าว ผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์ของพรรคที่ต้องการใช้กระบวนการทางรัฐสภาเป็นทางออกเพื่อคลี่คลายความไม่เข้าใจต่อเรื่องนี้ของสังคมไทยโดยรวม
พวกข้าพเจ้า จึงขอเรียกร้องไปยังประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาทั้งหลาย ได้โปรดออกมาปกป้องสถาบันทางการเมืองที่มาจากอำนาจของประชาชน ด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาหารือในที่ประชุมรัฐสภา และขอให้มีการใช้กระบวนการรัฐสภาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งภายใต้เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจไว้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ถูกต้อง เป็นอิสระ ทั้งนี้ เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยฯ ที่แท้จริงต่อไป
ด้วยความเคารพ
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ค้ารับ ‘กางเกงช้าง’ เมดอินไชน่า โบ๊เบ๊-ประตูน้ำ 70% นำเข้า หวังรัฐล้อมกรอบลิขสิทธิ์ซอฟต์พาวเวอร์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4407641
เปิดใจผู้ค้าเสื้อผ้าไทย ชี้เหตุ “กางเกงช้าง” ทำไมจีนผลิตตีตลาด หวังรัฐล้อมกรอบลิขสิทธิ์กระแสซอฟต์พาวเวอร์
นายณฐวัจน์ พุทธศิริวัฒน์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าในย่านประตูน้ำ กล่าวกับ มติชน ถึงสถานการณ์การค้าเสื้อผ้าในประเทศไทย และความกังวลอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอของไทยไม่ได้รับอานิสงส์ เมื่อมีกระแสความนิยมสินค้าไทย โดยเฉพาะเสื้อผ้าลายไทยหรือลวดลายที่ไทยเป็นผู้สร้างกระแส เช่น กางเกงช้าง ที่มีการนำเข้าจากจีนหรือประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าผลิตในไทย นั้นว่า ปกติการค้าเสื้อผ้าในทุกวันนี้ สินค้าที่ไทยได้รับความนิยมทั้งคนไทยเองหรือนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ พ่อค้าคนไทยหรือพ่อค้าจีนในไทย จะไปจ้างโรงงานในประเทศจีนหรือประเทศเพื่อนบ้านผลิต เนื่องจากมีโรงงานจำนวนมาก สามารถผลิตได้ในเวลาสั้นๆ ในจำนวนมากเพียงพอ ค่าแรงต่ำกว่าไทย ทำให้ขายได้ในราคาถูก เช่น กางเกงช้าง ต่ำกว่า 100 บาทก็มี ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ไม่แค่กางเกงช้าง สินค้าไทยอื่นๆ หากได้รับความนิยมหรือมีกระแสดังขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ ก็มักเป็นไปจ้างนอกประเทศโดยเฉพาะจีนเป็นผู้ผลิต หรือตรุษจีนปีนี้ เสื้อผ้าหรือสินค้าที่วางขายกันอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าผลิตในจีนและข้ามแดนมาทางประเทศเพื่อนบ้าน
“เรื่องแบบนี้เป็นมานานแล้ว หลังจากกลุ่มผลิตในประเทศเจอปัญหาการปรับค่าแรงขั้นต่ำพรวดเป็น 300 บาท ส่งผลต่อต้นทุนและล้มหายไปของผู้ผลิตคนไทย บางส่วนต้องหันไปจ้างผลิตหรือนำเข้าแทน ทั้งจากจีน กัมพูชา เวียดนาม อย่างโรงงานผลิตกางเกงช้างที่ติดป้ายว่าเมดอินไทยแลนด์ ก็มีให้เห็นบ้างแต่ก็เป็นโรงงานในต่างจังหวัด ในส่วนกลางหรือเมืองใหญ่ไม่ค่อยเห็นเพราะต้นทุนสู้นำเข้าไม่ได้ และเป็นสินค้าตามกระแส อาจเสี่ยงต่อการจ้างผลิตในประเทศที่สินค้าออกช้ากว่าและต้นทุนราคาส่งสูงกว่าจีนมาก ตลาดเสื้อผ้าที่เราเห็นกันทุกวันไม่ว่าจะในย่านโบ๊เบ๊ หรือประตูน้ำ ผลิตในไทยเพียง 30% ที่เหลือ 70% เป็นการจ้างผลิตนอกประเทศหรือนำเข้า” นายณฐวัจน์กล่าว
นายณฐวัจน์กล่าวต่อว่า หากถามจะแก้ไขอย่างไรนั้น ส่วนตัวมองว่าการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย จะกลับมาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และทำเงินเข้าประเทศเหมือนในอดีตคงยากแล้ว รวมถึงการป้องกันการนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะต้องอาศัยการเอาจริงเอาจังของภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและสกัดการนำเข้าสำหรับสินค้าที่ไทยเป็นผู้ปลุกกระแสความนิยม ตอนนี้ผู้ประกอบการรายย่อยก็ยากลำบากมากขึ้น จากการแข่งขันราคากับทุนนอกไม่ได้ กำลังซื้อถดถอย คนไทยซื้อเสื้อผ้าลดลง
“วันนี้การค้าทั่วไป ต้องอาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เพราะคนไทยระมัดระวังใช้จ่าย แม้กางเกงช้างหรือกางเกงแบบอื่นๆ ก็แค่ระยะหนึ่งก็ซาลง ดังนั้น เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยจะเร่งกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาไทย แต่หากจะคงรักษาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าหรือสินค้าไทย ที่จะได้อานิสงส์จากนโยบายซอต์พาวเวอร์ของรัฐบาล อย่างสงกรานต์ ที่จะมีเสื้อผ้าและของที่เกี่ยวข้องออกมามากมาย เป็นดีไซน์ของไทย ก็ควรใช้โอกาสนี้ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อการป้องกันการนำเข้าสินค้าทะลักจากชายแดน และรัฐเร่งเรื่องจดลิขสิทธิ์สินค้าต่างๆ เพื่อมีการปกป้องความคิดสร้างสรรค์ของไทย” นายณฐวัจน์กล่าว
ศาลโลก รับพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รัสเซียรุกรานยูเครน บางส่วน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4407578
ศาลโลก รับพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รัสเซียรุกรานยูเครน บางส่วน
สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ได้ตัดสินว่าจะรับพิจารณาคดีที่ยูเครนยื่นต่อศาลโลกถึงการที่กองทัพรัสเซียได้เข้ารุกรานยูเครนในปี 2022 หลังตัดสินว่าศาลโลกมีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินคดีที่ยูเครนได้ขอให้ศาลโลกประกาศว่ายูเครนไม่ได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ตามที่รัสเซียใช้สร้างความชอบธรรมในการเข้ารุกราน แต่ปฏิเสธที่จะตัดสินบางข้อกล่าวหาที่ยูเครนหยิบยกขึ้นต่อศาลโลก
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้สั่งการให้กองทัพเข้ารุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 โดยให้เหตุผลว่าประชาชนที่ฝักใฝ่รัสเซียที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของยูเครนตกอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยยูเครน ทำให้ไม่กี่วันต่อมา ยูเครนได้ยื่นฟ้องรัสเซียต่อศาลโลก โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและโต้แย้งว่ารัสเซียใช้ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” เป็นข้ออ้างในการรุกราน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948
คำตัดสินเบื้องต้นของศาลโลกในเดือนมีนาคม 2022 ได้สั่งให้รัสเซียระงับการรุกรานยูเครนในทันที แต่รัสเซียออกมาปฏิเสธคำตัดสิน และให้เหตุผลว่าศาลโลกไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ การตัดสินของศาลโลกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ระบุว่าศาลโลกมีอำนาจทางกฎหมายที่จะตัดสินข้อโต้แย้งของยูเครนว่า ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ายูเครนทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม ศาลโลกระบุว่าไม่มีอำนาจที่จะตัดสินว่าการรุกรานของรัสเซียและการที่รัสเซียให้การยอมรับการแยกตัวของ 2 ภูมิภาคของยูเครน ได้แก่ โดเนตสค์และลูฮานสค์ ว่าเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่
ด้านหัวหน้าทนายความของยูเครนได้ประกาศให้คำตัดสินของศาลโลกในครั้งนี้เป็นชัยชนะของยูเครน และยินดีที่การพิจารณาคดีจะดำเนินต่อไป พร้อมกล่าวว่า เป็นความสำคัญที่ศาลโลกจะตัดสินในประเด็นว่ายูเครนไม่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างที่รัสเซียจินตนาการขึ้นมาเองและใช้กล่าวหาว่ายูเครนฆ่าล้างเผ่าพันธุ