บอย ถกลเกียรติ ปัดดีลลับ ‘ณเดชน์’ เบื้องหลังรับฟ้าจรดทราย ให้กำลังใจ ‘แก้ม’
https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_4406436
บอย ถกลเกียรติ ปัดดีลลับ เผยเบื้องหลัง ‘ณเดชน์’ รับบท ‘ชารีฟ’ ให้กำลังใจ ‘แก้ม’ ไม่ตรงปกนางเอก
เป็นละครเวทีที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่ “บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ผู้กำกับละครเวที เปิดภาพพระเอกของเรื่องเป็นซุปตาร์ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มารับบท “ชารีฟ”องครักษ์หนุ่มหล่อ ใน “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล”
หากกระนั้น ก็ไม่วายมีประประเด็น เมื่อนางเอกของเรื่อง ซึ่งได้ “แก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เมอร์นาร์ด” มารับบท “มิเชล” ซึ่งหลายคอมเมนต์มองว่า “ไม่ตรงปก” เพราะตามบทประพันธ์มิเชลต้องเป็นลูกครึ่งหน้าคมออกแขกๆ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก
งานนี้ “บอย-ถกลเกียรติ” จึงออกโรงมาเคลียร์ชัดทุกประเด็น รวมทั้งประเด็น “ดีลลับ” และการเปิดตัวนักแสดงในโปรเจ็กต์ยักษ์ครั้งนี้ ที่ชั้น 2 สตูดิโอ จีเอ็มเอ็น แกรมมี่
แค่เปิดภาพมาปุ๊บคนก็ฮือฮากันแล้ว?
“ผมก็มั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ที่เต็มอิ่มมากๆ และทรงพลังมากๆ จากที่เราเคยทำฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล เมื่อ 17 ปีที่แล้ว และก็ไม่ได้ทำอีกเลย ตอนนั้นเป็นละครเรื่องแรกที่เปิดโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย แล้วก็ได้กระแสตอบรับดีมากๆ”
ถ้าถามว่า 17 ปีกับความแตกต่างในครั้งนี้?
“17 ปีความแตกต่าง แตกต่างแน่นอน เพราะว่ายังไงวิถีชีวิตคนเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนอะไรต่างๆ และก็เทคโนโลยีก็เปลี่ยน เพราะฉะนั้นเราก็มีอะไรให้เล่นได้เยอะขึ้น และแน่นอนคนที่สำคัญที่เปลี่ยนได้เยอะก็คือ ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่จะมาร่วมแสดงกับเรา และเป็นละครเวทีเรื่องแรกของณเดชน์ อันนี้ก็ตื่นเต้นและดีใจมากๆ”
คนสงสัยว่าไปดีลกันยังไงถึงได้มา?
“ต้องบอกว่าณเดชน์เขามาดูละครเวทีของเราบ่อยในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา วันหนึ่งเหมือนกับได้ยินมาว่าณเดชน์อยากเล่นละครเวที จริงๆ เราก็บอกว่า จริงเหรอ? จะเป็นไปได้เหรอ? คือเชื่อไหม? เชื่อ แต่ว่าเขาจะมีเวลาเหรอ เพราะละครเวทีมันใช้เวลาซ้อมนานมาก เยอะมาก แต่พอได้ยินมาอีกว่าเขาอยากเล่น ก็เลยไหนลองติดต่อไปดูซิ”
นึกภาพเขาในหัวไหมตั้งแต่ตอนนั้นที่เขาอยากเล่น?
“คือพออยากเล่นเราก็กำลังจะทำฟ้าจรดทรายพอดี เราก็เลยแบบลองติดต่อไปดูซิว่าจะเป็นไปได้ไหม แต่จริงๆ ก็คิดว่าคงไม่ได้หรอก ปรากฏว่าเขาแฮปปี้มาก เขาตื่นเต้นมาก เขาบอกว่าอยากเล่นมาก และก็ไปเคลียร์ทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นคิว และกับช่อง 3 คือไม่มีการดีลลับ อันนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาต่อสัญญากับทางช่อง 3 ไปแล้ว แต่เขาก็ไปขอช่อง 3 ผมก็ต้องขอบคุณช่อง 3 มากๆ ที่อนุญาตให้ณเดชน์มาเล่นละครเวที ซึ่งพอติดต่อไปแล้วรู้ว่าเป็นฟ้าจรดทราย เป็นละครเวที เขาก็เคลียร์เลย”
เราเห็นภาพณเดชน์เป็นชารีฟ?
“ผมก็คิดว่า ณเดชน์จะเป็นชารีฟที่ลงตัวมากๆ ทีนี้พอเราได้ซูเปอร์สตาร์ระดับณเดชน์มาเล่นกับเราแล้ว ซึ่งเป็นละครเวทีเรื่องแรกของเขา และก็ใครที่ทำละครเวที เคยเล่นละครเวที จะรู้ว่ามันคนละศาสตร์กันกับละครโทรทัศน์หรือว่าภาพยนตร์ มันคนละแบบกัน สิ่งที่จะทำให้ละครเวทีครั้งนี้ลงตัวมากๆ และจะทำให้ณเดชน์เปล่งประกายได้มากที่สุด ผมก็ต้องทำให้เขาออกมาดูดีให้มากที่สุด และทำให้เรื่องมันลงตัวที่สุด โปรดักชั่นลงตัวที่สุด”
“สิ่งที่สำคัญมากๆ คนที่จะเล่นต้องเป็นคนที่เคยเล่นละครเวทีมาแล้วทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นมันไม่เกิดทีมเวิร์ค ใครที่เคยทำหรือเล่นละครเวทีจะรู้ว่าทีมเวิร์คสำคัญมากๆ เวลาทำละครเวที เวลาแสดงละครเวที ทั้งรับ ทั้งส่ง ทั้งนู้นนี่ คือมันเล่นสดทุกรอบ จะทำอย่างไร 30 กว่ารอบต่อเนื่องกันไป อาทิตย์หนึ่งประมาณ 6 วัน บางวัน 2 รอบ เวลาการซ้อม เวลาการฝึกอะไรต่างๆ มันต้องร่วมกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทั้ง 4 ตัวละครหลัก ที่นอกเหนือจากณเดชน์แล้ว ก็ต้องเป็นคนที่เคยเล่นละครเวทีมาแล้ว เพราะอย่างนั้นผมก็ต้องดูตัวท็อปของทุกๆ ส่วน”
นางเอกจึงเป็นแก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เมอร์นาร์ด?
“เราก็คิดอยู่ว่าจะเอาใครดี แต่ถึงอย่างไรแก้มเขาก็เป็นตัวท็อปของนางเอก ของมิวสิคัลในปีพ.ศ.นี้ อันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเสียงร้องของเขา ที่มีทั้งพลังเสียงและมีทั้งความหวาน เพราะเสียงเขามันใสกริ๊งขนาดนั้น และก็มีพลังด้วย ในขณะเดียวกัน ผมว่าเขาก็สวยและสง่ามากเวลาอยู่บนเวที อันนี้ใครที่เคยเห็นแก้มเล่นละครเวทีแล้วก็จะเข้าใจสิ่งนี้”
เปิดตัว “แก้ม” มา ก็ค่อนข้างถูกถล่มเยอะเหมือนกัน?
“ใช่ครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องบอกเลย ว่าผมต้องส่งแมสเสจไปหาแก้ม บอกว่าไม่ต้องสะท้าน ไม่ต้องอะไรเลย คือยังไงซะ เราต้องเข้าใจความเป็นจริงก่อน ว่าบทประพันธ์นี้ เป็นบทประพันธ์ที่ทุกคนรักมากๆ แล้ว ณเดชน์ คนก็รักมากๆ เพราะฉะนั้นยังไงซะมันก็จะมีโดน แต่ในขณะเดียวกันพอเป็นแก้ม ก็มีคนบอกว่าดีจังเลย เอางี้ดีกว่า ผมว่าหลายคนคงจำไม่ได้ 17 ปีที่แล้ว ตอนที่ฟ้าจรดทรายไม่เคยทำเป็นละครหรืออะไรมาก่อนเลย”
“มิวสิคัลเป็นครั้งแรก ที่ตัวละครต่างๆ เกิดขึ้นมา เปิดตัว มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) เป็นชารีฟ 99 เปอร์เซ็นต์มอสโดนด่าเละมาก บอกมอสไม่ใช่ชารีฟ มอสตัวเล็กไป จะเป็นองค์รักษ์ได้ยังไง แค่พอแสดงออกมาแล้วทุกคนชื่นชอบชื่นชม แล้วทุกวันนี้เขาก็เป็นหนึ่งในชารีฟที่อยู่ในใจคน หรือแม้แต่ นัท มีเรีย เล่นเป็นแม่นาคพระโขนง หน้าฝรั่งขนาดนั้นจะเล่นเป็นแม่นาคได้ยังไง…ก็เล่นได้ไง คนก็ชื่นชม ก็ออกมาแล้ว”
กระแสที่คนผิดหวัง “แก้ม” มีความรู้สึกบั่นทอนไหม?
“ผมยังไม่คุยอะไรขนาดนั้น แต่ผมเชื่อว่าในความเป็นมืออาชีพของเขา และความเป็นคนจิตใจดี ผมว่าเขาเข้าใจ และเขาก็จะทำให้ดีที่สุด ในวันที่ถ่ายโปสเตอร์กัน เขาก็น่ารักมาก ณเดชน์เองพอรู้ว่าเป็นแก้ม ก็ดีใจมาก บอกผมดีใจที่ผมจะได้เล่นละครเวทีกับคนเก่งๆ กับนางเอกละครเวทีที่เคยไปเล่นในต่างประเทศมาแล้ว ณเดชน์แฮปปี้มากที่เป็นแก้ม อันนี้บอกได้เลยครับ รวมถึงอีกหลายๆ คนด้วย เพราะเขาได้เล่นกับ พี่กบ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) เล่นกับ หนูนา (หนึ่งธิดา โสภณ) ก็คือเป็นสิ่งที่พอเรานำเสนอแบบนี้ แล้วเขาโอเคดี”
มีอะไรอยากพูดกับคนที่ดราม่าว่าไม่เหมาะ ดูไม่แมสไหม?
“ต้องบอกว่าละครแต่ละศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นละครเวที ละครทีวี หรือภาพยนตร์ มันคนละศาสตร์กันทั้งสิ้น การทำงาน เงื่อนไข และความต้องการมันก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าผมจะทำละครเวทีฟ้าจรดทราย เดอะ มิวสิคัล ที่แสดงสดๆ 30 กว่ารอบต่อเนื่อง อาทิตย์ละ 6 วัน บางวันวันละ 2 รอบ โดยมี ณเดชน์ คูกิมิยะ ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทย ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันดีที่สุด แล้วก็ลงตัวที่สุด แล้วณเดชน์ก็จะเปล่งประกายมากที่สุด”
“สิ่งที่ผมนำมาเสนอตรงนี้ ผมคิดว่ามันจะลงตัวที่สุด แน่นอนถ้าฟ้าจรดทราย ถ้าผมจะทำเป็นละครทีวี ก็คงไม่ใช่แคสนี้มั้ง เพราะฉะนั้นมันคนละศาสตร์กันนะครับ ถ้าจะทำเป็นภาพยนตร์ ก็คงไม่ใช่แคสนี้เหมือนกัน อย่างที่บอกว่าแต่ละศาสตร์ มันมีความต้องการ และมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป”
การเลือกนักแสดงแต่ละคนยากไหม “หนูนา” ก็โดนคนเอาไปเปรียบเทียบกับ “หญิง รฐา โพธิ์งาม”?
“ต้องบอกว่าไม่ห่วงเลย ทั้ง 5 คนนี้ไม่ห่วงเลย แล้วผมคิดว่ามันจะเป็นการทำงานที่สนุกมากๆ และเราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผมตื่นเต้นมาก ที่จะได้ทำงานกับณเดชน์ (หัวเราะ) ก็เป็นครั้งแรกของผมที่ร่วมงานณเดชน์ และเป็นครั้งแรกของณเดชน์ ที่จะได้ร่วมงานกับผม และได้แสดงละครเวที แต่ด้วยความเป็นณเดชน์ คือเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เขาเป็นคนจิตใจดีมากเลย เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงรักเขาขนาดนี้”
มีเริ่มซ้อมกันหรือยัง?
“ตอนนี้ณเดชน์เริ่มมาซ้อมเพลงแล้ว ก็ดี วันแรกเราก็มีปรับโน่นปรับนี่ พอวันที่ 2 มาเจอ เขาทำการบ้านมา มันเห็นพัฒนาการไปเรื่อยๆ (เราเซอร์ไพรส์เลย?) ใช่ คือเขาตั้งใจมาก”
หลายคนอยากทราบว่ามีเงื่อนไขไหม การที่ได้ “ณเดชน์” มาร่วมงานด้วย?
“คือในความแน่นอนคนละค่าย ช่องทีวีคนละช่อง ถ้าจะทำละครทีวีก็คงไม่ได้หรอก แต่นี่คือละครเวที มันไม่ใช่ช่อง เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ทางช่อง 3 ให้ความกรุณาให้ลูกรักของเขามาเล่น ผมถึงบอกว่าต้องทำให้ดีที่สุด ในการโปรโมตคงไมได้มายืนอยู่ตรงช่องทีวีขนาดนี้ แต่ในการโปรโมตไปถ่ายทำกันที่โรงละครก็ได้แหละครับ อย่างที่บอกว่าทุกสิ่งอย่างมีเงื่อนไขของมันในการทำงาน เราต้องทำให้ดีที่สุด”
“ณเดชน์” เป็นพระเอกแม่เหล็กของเขา ความกดดัน ความคาดหวังมาแล้ว?
“กดดัน กดดันทั้ง ฟ้าจรดทราย ที่คนก็ประทับใจกันมากเมื่อ 17 ปีที่แล้ว และรอคอยว่าเมื่อไหร่จะกลับมา อย่างที่สองคือ ณเดชน์ จะมาเล่นละครเวทีครั้งแรก ผมก็ต้องกดดันอยู่แล้ว ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดให้ได้ ด้วยแวดล้อมคนที่จะมาร่วมมือกับผม ผมก็ต้องเลือกสรรค์มาว่าเป็นคนที่ผมจะทำงานโปรดักชั่นนี้ได้อย่างดีและลงตัวที่สุด”
ท่ามกลางความกดดัน ความคาดหวัง บทประพันธ์ที่คนรัก “พี่บอย” เป็นพลังบวกให้ทุกคนอย่างไร?
“ตอนนี้ก็มีถ่ายโปสเตอร์และทีเซอร์ ณเดชน์มาซ้อมร้องเพลง ยังค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ยังไม่ได้กดดันอะไรมาก เดี๋ยวเดือนนี้ก็จะเริ่มมีการทำงานมากขึ้น ซ้อมมากขึ้น ผมว่ามันราบรื่น”
บอกทีมไหมอย่ากดดัน หลังมีการเปรียบเทียบเวอร์ชันเก่า?
“ผมว่าทุกคนเข้าใจได้หมด การทำงานอยู่ตรงนี้ ถ้าเผื่อเราไม่แข็งแรงพอในยุคนี้อยู่ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นสิ่งทีเราดูมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้คิดนะ ไม่ได้ว่าอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ อย่างที่บอกครับว่าพอเปิดตัวไปทั้ง 5 คน ก็มีทั้งคนที่บอกว่าชอบมาก ดีมาก ยิ่งทำให้อยากไปดูมากขึ้น แต่ก็มีบอกว่าไม่เอา ไม่ชอบ มันก็นานาจิตตัง อย่างที่บอกว่าแล้วแต่จินตนาการของแต่ละบุคคลกับบทประพันธ์ที่เป็นที่รัก คือในแต่ละศาสตร์ภาษามันไม่เหมือนกัน เงื่อนไขมันไม่เหมือนกัน วิธีการเล่าไม่เหมือนกัน ในการอ่านหนังสือก็อย่างนึง การที่จะดูละครทีวี 20-30 ชั่วโมง ก็ไม่เหมือนมาดูมิวสิคัล 3 ชั่วโมง แล้วก็มีการร้องเข้ามาอีก มันมีเสน่ห์ในแต่ละแบบ เงื่อนไขในแต่ละแบบ เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะดู ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ในละครเวที บนเวทีสดๆ โดยมี ณเดชน์ แสดงเป็น ชารีฟ และตัวท็อปละครเวทีของประเทศไทยมาร่วมแสดงด้วย คุณเต็มอิ่มแน่นอน”
การเตรียมเพลงในเวอร์ชันนี้?
“เพลงจะคล้ายๆ เดิม 80% แต่ว่าอาจจะมีการปรับอะไรบ้าง”
หลังจากได้ “ณเดชน์” มาร่วมงานแล้ว มีมองๆ ใครไว้อีกไหมที่อยากจะร่วมงานด้วยในอนาคต?
“เอาทีละเรื่องดีกว่าครับ (หัวเราะ) ผมว่าต้องแล้วแต่เรื่องครับว่าอะไรยังไง อย่างที่บอกว่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”
เรื่องนี้เรียกว่าเซอร์ไพรส์แบบสะใจจริงๆ?
“ครับ (หัวเราะ) ก็ฝากด้วยนะครับ ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล แสดงเดือนมิถุนายนนี้ สดเท่านั้น ไม่มีถ่ายทอดออกที่ไหน ต้องดูสดๆ เท่านั้น 14 กุมภาพันธ์นี้เปิดขายบัตรรอบพรีเซล มีจำนวนจำกัด ถ้าไม่ทันตรงนั้นต้องรอซื้อรอบทั่วไปวันที่ 19 กุมภาพันธ์ (วางแผนเพิ่มรอบ?) ขอดูก่อนครับว่าเป็นยังไง ตอนนี้วางไว้ 30 กว่ารอบ”
ฟังจากปากคุณบอยถกลเกียรติ ทำไมกล้าฉกตัว ณเดชน์ จากช่อง 3 มาลงละครเวที ฟ้าจรดทราย
เป็นละครเวทีที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่ “บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ผู้กำกับละครเวที เปิดภาพพระเอกของเรื่องเป็นซุปตาร์ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มารับบท “ชารีฟ”องครักษ์หนุ่มหล่อ ใน “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล”
หากกระนั้น ก็ไม่วายมีประประเด็น เมื่อนางเอกของเรื่อง ซึ่งได้ “แก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เมอร์นาร์ด” มารับบท “มิเชล” ซึ่งหลายคอมเมนต์มองว่า “ไม่ตรงปก” เพราะตามบทประพันธ์มิเชลต้องเป็นลูกครึ่งหน้าคมออกแขกๆ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก
งานนี้ “บอย-ถกลเกียรติ” จึงออกโรงมาเคลียร์ชัดทุกประเด็น รวมทั้งประเด็น “ดีลลับ” และการเปิดตัวนักแสดงในโปรเจ็กต์ยักษ์ครั้งนี้ ที่ชั้น 2 สตูดิโอ จีเอ็มเอ็น แกรมมี่
แค่เปิดภาพมาปุ๊บคนก็ฮือฮากันแล้ว?
“ผมก็มั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ที่เต็มอิ่มมากๆ และทรงพลังมากๆ จากที่เราเคยทำฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล เมื่อ 17 ปีที่แล้ว และก็ไม่ได้ทำอีกเลย ตอนนั้นเป็นละครเรื่องแรกที่เปิดโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย แล้วก็ได้กระแสตอบรับดีมากๆ”
ถ้าถามว่า 17 ปีกับความแตกต่างในครั้งนี้?
“17 ปีความแตกต่าง แตกต่างแน่นอน เพราะว่ายังไงวิถีชีวิตคนเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนอะไรต่างๆ และก็เทคโนโลยีก็เปลี่ยน เพราะฉะนั้นเราก็มีอะไรให้เล่นได้เยอะขึ้น และแน่นอนคนที่สำคัญที่เปลี่ยนได้เยอะก็คือ ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่จะมาร่วมแสดงกับเรา และเป็นละครเวทีเรื่องแรกของณเดชน์ อันนี้ก็ตื่นเต้นและดีใจมากๆ”
“ต้องบอกว่าณเดชน์เขามาดูละครเวทีของเราบ่อยในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา วันหนึ่งเหมือนกับได้ยินมาว่าณเดชน์อยากเล่นละครเวที จริงๆ เราก็บอกว่า จริงเหรอ? จะเป็นไปได้เหรอ? คือเชื่อไหม? เชื่อ แต่ว่าเขาจะมีเวลาเหรอ เพราะละครเวทีมันใช้เวลาซ้อมนานมาก เยอะมาก แต่พอได้ยินมาอีกว่าเขาอยากเล่น ก็เลยไหนลองติดต่อไปดูซิ”
นึกภาพเขาในหัวไหมตั้งแต่ตอนนั้นที่เขาอยากเล่น?
“คือพออยากเล่นเราก็กำลังจะทำฟ้าจรดทรายพอดี เราก็เลยแบบลองติดต่อไปดูซิว่าจะเป็นไปได้ไหม แต่จริงๆ ก็คิดว่าคงไม่ได้หรอก ปรากฏว่าเขาแฮปปี้มาก เขาตื่นเต้นมาก เขาบอกว่าอยากเล่นมาก และก็ไปเคลียร์ทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นคิว และกับช่อง 3 คือไม่มีการดีลลับ อันนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาต่อสัญญากับทางช่อง 3 ไปแล้ว แต่เขาก็ไปขอช่อง 3 ผมก็ต้องขอบคุณช่อง 3 มากๆ ที่อนุญาตให้ณเดชน์มาเล่นละครเวที ซึ่งพอติดต่อไปแล้วรู้ว่าเป็นฟ้าจรดทราย เป็นละครเวที เขาก็เคลียร์เลย”
เราเห็นภาพณเดชน์เป็นชารีฟ?
“ผมก็คิดว่า ณเดชน์จะเป็นชารีฟที่ลงตัวมากๆ ทีนี้พอเราได้ซูเปอร์สตาร์ระดับณเดชน์มาเล่นกับเราแล้ว ซึ่งเป็นละครเวทีเรื่องแรกของเขา และก็ใครที่ทำละครเวที เคยเล่นละครเวที จะรู้ว่ามันคนละศาสตร์กันกับละครโทรทัศน์หรือว่าภาพยนตร์ มันคนละแบบกัน สิ่งที่จะทำให้ละครเวทีครั้งนี้ลงตัวมากๆ และจะทำให้ณเดชน์เปล่งประกายได้มากที่สุด ผมก็ต้องทำให้เขาออกมาดูดีให้มากที่สุด และทำให้เรื่องมันลงตัวที่สุด โปรดักชั่นลงตัวที่สุด”
“สิ่งที่สำคัญมากๆ คนที่จะเล่นต้องเป็นคนที่เคยเล่นละครเวทีมาแล้วทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นมันไม่เกิดทีมเวิร์ค ใครที่เคยทำหรือเล่นละครเวทีจะรู้ว่าทีมเวิร์คสำคัญมากๆ เวลาทำละครเวที เวลาแสดงละครเวที ทั้งรับ ทั้งส่ง ทั้งนู้นนี่ คือมันเล่นสดทุกรอบ จะทำอย่างไร 30 กว่ารอบต่อเนื่องกันไป อาทิตย์หนึ่งประมาณ 6 วัน บางวัน 2 รอบ เวลาการซ้อม เวลาการฝึกอะไรต่างๆ มันต้องร่วมกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทั้ง 4 ตัวละครหลัก ที่นอกเหนือจากณเดชน์แล้ว ก็ต้องเป็นคนที่เคยเล่นละครเวทีมาแล้ว เพราะอย่างนั้นผมก็ต้องดูตัวท็อปของทุกๆ ส่วน”
นางเอกจึงเป็นแก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เมอร์นาร์ด?
“เราก็คิดอยู่ว่าจะเอาใครดี แต่ถึงอย่างไรแก้มเขาก็เป็นตัวท็อปของนางเอก ของมิวสิคัลในปีพ.ศ.นี้ อันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเสียงร้องของเขา ที่มีทั้งพลังเสียงและมีทั้งความหวาน เพราะเสียงเขามันใสกริ๊งขนาดนั้น และก็มีพลังด้วย ในขณะเดียวกัน ผมว่าเขาก็สวยและสง่ามากเวลาอยู่บนเวที อันนี้ใครที่เคยเห็นแก้มเล่นละครเวทีแล้วก็จะเข้าใจสิ่งนี้”
เปิดตัว “แก้ม” มา ก็ค่อนข้างถูกถล่มเยอะเหมือนกัน?
“ใช่ครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องบอกเลย ว่าผมต้องส่งแมสเสจไปหาแก้ม บอกว่าไม่ต้องสะท้าน ไม่ต้องอะไรเลย คือยังไงซะ เราต้องเข้าใจความเป็นจริงก่อน ว่าบทประพันธ์นี้ เป็นบทประพันธ์ที่ทุกคนรักมากๆ แล้ว ณเดชน์ คนก็รักมากๆ เพราะฉะนั้นยังไงซะมันก็จะมีโดน แต่ในขณะเดียวกันพอเป็นแก้ม ก็มีคนบอกว่าดีจังเลย เอางี้ดีกว่า ผมว่าหลายคนคงจำไม่ได้ 17 ปีที่แล้ว ตอนที่ฟ้าจรดทรายไม่เคยทำเป็นละครหรืออะไรมาก่อนเลย”
“มิวสิคัลเป็นครั้งแรก ที่ตัวละครต่างๆ เกิดขึ้นมา เปิดตัว มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) เป็นชารีฟ 99 เปอร์เซ็นต์มอสโดนด่าเละมาก บอกมอสไม่ใช่ชารีฟ มอสตัวเล็กไป จะเป็นองค์รักษ์ได้ยังไง แค่พอแสดงออกมาแล้วทุกคนชื่นชอบชื่นชม แล้วทุกวันนี้เขาก็เป็นหนึ่งในชารีฟที่อยู่ในใจคน หรือแม้แต่ นัท มีเรีย เล่นเป็นแม่นาคพระโขนง หน้าฝรั่งขนาดนั้นจะเล่นเป็นแม่นาคได้ยังไง…ก็เล่นได้ไง คนก็ชื่นชม ก็ออกมาแล้ว”
กระแสที่คนผิดหวัง “แก้ม” มีความรู้สึกบั่นทอนไหม?
“ผมยังไม่คุยอะไรขนาดนั้น แต่ผมเชื่อว่าในความเป็นมืออาชีพของเขา และความเป็นคนจิตใจดี ผมว่าเขาเข้าใจ และเขาก็จะทำให้ดีที่สุด ในวันที่ถ่ายโปสเตอร์กัน เขาก็น่ารักมาก ณเดชน์เองพอรู้ว่าเป็นแก้ม ก็ดีใจมาก บอกผมดีใจที่ผมจะได้เล่นละครเวทีกับคนเก่งๆ กับนางเอกละครเวทีที่เคยไปเล่นในต่างประเทศมาแล้ว ณเดชน์แฮปปี้มากที่เป็นแก้ม อันนี้บอกได้เลยครับ รวมถึงอีกหลายๆ คนด้วย เพราะเขาได้เล่นกับ พี่กบ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) เล่นกับ หนูนา (หนึ่งธิดา โสภณ) ก็คือเป็นสิ่งที่พอเรานำเสนอแบบนี้ แล้วเขาโอเคดี”
มีอะไรอยากพูดกับคนที่ดราม่าว่าไม่เหมาะ ดูไม่แมสไหม?
“ต้องบอกว่าละครแต่ละศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นละครเวที ละครทีวี หรือภาพยนตร์ มันคนละศาสตร์กันทั้งสิ้น การทำงาน เงื่อนไข และความต้องการมันก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าผมจะทำละครเวทีฟ้าจรดทราย เดอะ มิวสิคัล ที่แสดงสดๆ 30 กว่ารอบต่อเนื่อง อาทิตย์ละ 6 วัน บางวันวันละ 2 รอบ โดยมี ณเดชน์ คูกิมิยะ ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทย ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันดีที่สุด แล้วก็ลงตัวที่สุด แล้วณเดชน์ก็จะเปล่งประกายมากที่สุด”
“สิ่งที่ผมนำมาเสนอตรงนี้ ผมคิดว่ามันจะลงตัวที่สุด แน่นอนถ้าฟ้าจรดทราย ถ้าผมจะทำเป็นละครทีวี ก็คงไม่ใช่แคสนี้มั้ง เพราะฉะนั้นมันคนละศาสตร์กันนะครับ ถ้าจะทำเป็นภาพยนตร์ ก็คงไม่ใช่แคสนี้เหมือนกัน อย่างที่บอกว่าแต่ละศาสตร์ มันมีความต้องการ และมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป”
การเลือกนักแสดงแต่ละคนยากไหม “หนูนา” ก็โดนคนเอาไปเปรียบเทียบกับ “หญิง รฐา โพธิ์งาม”?
“ต้องบอกว่าไม่ห่วงเลย ทั้ง 5 คนนี้ไม่ห่วงเลย แล้วผมคิดว่ามันจะเป็นการทำงานที่สนุกมากๆ และเราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผมตื่นเต้นมาก ที่จะได้ทำงานกับณเดชน์ (หัวเราะ) ก็เป็นครั้งแรกของผมที่ร่วมงานณเดชน์ และเป็นครั้งแรกของณเดชน์ ที่จะได้ร่วมงานกับผม และได้แสดงละครเวที แต่ด้วยความเป็นณเดชน์ คือเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เขาเป็นคนจิตใจดีมากเลย เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงรักเขาขนาดนี้”
มีเริ่มซ้อมกันหรือยัง?
“ตอนนี้ณเดชน์เริ่มมาซ้อมเพลงแล้ว ก็ดี วันแรกเราก็มีปรับโน่นปรับนี่ พอวันที่ 2 มาเจอ เขาทำการบ้านมา มันเห็นพัฒนาการไปเรื่อยๆ (เราเซอร์ไพรส์เลย?) ใช่ คือเขาตั้งใจมาก”
หลายคนอยากทราบว่ามีเงื่อนไขไหม การที่ได้ “ณเดชน์” มาร่วมงานด้วย?
“คือในความแน่นอนคนละค่าย ช่องทีวีคนละช่อง ถ้าจะทำละครทีวีก็คงไม่ได้หรอก แต่นี่คือละครเวที มันไม่ใช่ช่อง เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ทางช่อง 3 ให้ความกรุณาให้ลูกรักของเขามาเล่น ผมถึงบอกว่าต้องทำให้ดีที่สุด ในการโปรโมตคงไมได้มายืนอยู่ตรงช่องทีวีขนาดนี้ แต่ในการโปรโมตไปถ่ายทำกันที่โรงละครก็ได้แหละครับ อย่างที่บอกว่าทุกสิ่งอย่างมีเงื่อนไขของมันในการทำงาน เราต้องทำให้ดีที่สุด”
“ณเดชน์” เป็นพระเอกแม่เหล็กของเขา ความกดดัน ความคาดหวังมาแล้ว?
“กดดัน กดดันทั้ง ฟ้าจรดทราย ที่คนก็ประทับใจกันมากเมื่อ 17 ปีที่แล้ว และรอคอยว่าเมื่อไหร่จะกลับมา อย่างที่สองคือ ณเดชน์ จะมาเล่นละครเวทีครั้งแรก ผมก็ต้องกดดันอยู่แล้ว ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดให้ได้ ด้วยแวดล้อมคนที่จะมาร่วมมือกับผม ผมก็ต้องเลือกสรรค์มาว่าเป็นคนที่ผมจะทำงานโปรดักชั่นนี้ได้อย่างดีและลงตัวที่สุด”
ท่ามกลางความกดดัน ความคาดหวัง บทประพันธ์ที่คนรัก “พี่บอย” เป็นพลังบวกให้ทุกคนอย่างไร?
“ตอนนี้ก็มีถ่ายโปสเตอร์และทีเซอร์ ณเดชน์มาซ้อมร้องเพลง ยังค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ยังไม่ได้กดดันอะไรมาก เดี๋ยวเดือนนี้ก็จะเริ่มมีการทำงานมากขึ้น ซ้อมมากขึ้น ผมว่ามันราบรื่น”
บอกทีมไหมอย่ากดดัน หลังมีการเปรียบเทียบเวอร์ชันเก่า?
“ผมว่าทุกคนเข้าใจได้หมด การทำงานอยู่ตรงนี้ ถ้าเผื่อเราไม่แข็งแรงพอในยุคนี้อยู่ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นสิ่งทีเราดูมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้คิดนะ ไม่ได้ว่าอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ อย่างที่บอกครับว่าพอเปิดตัวไปทั้ง 5 คน ก็มีทั้งคนที่บอกว่าชอบมาก ดีมาก ยิ่งทำให้อยากไปดูมากขึ้น แต่ก็มีบอกว่าไม่เอา ไม่ชอบ มันก็นานาจิตตัง อย่างที่บอกว่าแล้วแต่จินตนาการของแต่ละบุคคลกับบทประพันธ์ที่เป็นที่รัก คือในแต่ละศาสตร์ภาษามันไม่เหมือนกัน เงื่อนไขมันไม่เหมือนกัน วิธีการเล่าไม่เหมือนกัน ในการอ่านหนังสือก็อย่างนึง การที่จะดูละครทีวี 20-30 ชั่วโมง ก็ไม่เหมือนมาดูมิวสิคัล 3 ชั่วโมง แล้วก็มีการร้องเข้ามาอีก มันมีเสน่ห์ในแต่ละแบบ เงื่อนไขในแต่ละแบบ เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะดู ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ในละครเวที บนเวทีสดๆ โดยมี ณเดชน์ แสดงเป็น ชารีฟ และตัวท็อปละครเวทีของประเทศไทยมาร่วมแสดงด้วย คุณเต็มอิ่มแน่นอน”
การเตรียมเพลงในเวอร์ชันนี้?
“เพลงจะคล้ายๆ เดิม 80% แต่ว่าอาจจะมีการปรับอะไรบ้าง”
หลังจากได้ “ณเดชน์” มาร่วมงานแล้ว มีมองๆ ใครไว้อีกไหมที่อยากจะร่วมงานด้วยในอนาคต?
“เอาทีละเรื่องดีกว่าครับ (หัวเราะ) ผมว่าต้องแล้วแต่เรื่องครับว่าอะไรยังไง อย่างที่บอกว่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”
เรื่องนี้เรียกว่าเซอร์ไพรส์แบบสะใจจริงๆ?
“ครับ (หัวเราะ) ก็ฝากด้วยนะครับ ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล แสดงเดือนมิถุนายนนี้ สดเท่านั้น ไม่มีถ่ายทอดออกที่ไหน ต้องดูสดๆ เท่านั้น 14 กุมภาพันธ์นี้เปิดขายบัตรรอบพรีเซล มีจำนวนจำกัด ถ้าไม่ทันตรงนั้นต้องรอซื้อรอบทั่วไปวันที่ 19 กุมภาพันธ์ (วางแผนเพิ่มรอบ?) ขอดูก่อนครับว่าเป็นยังไง ตอนนี้วางไว้ 30 กว่ารอบ”