ข้อแรก น้องคนที่เจอศพ ไม่ใช่ฆาตกร หรือเกี่ยวพันกับการตายเลยแม้แต่น้อย (ปัจจุบันพยานหลักฐานยืนยันแล้ว ศาลออกหมายจับคนทำและคนทำสารภาพแล้ว) จึงไม่น่ามีเหตุให้โกหกกับเจ้าหน้าที่ ในเหตุที่ได้มาเจอศพ
ข้อต่อมา น้องไม่ได้รับผลประโยชน์หรือได้รับชื่อเสียง.เงิน ใด ๆ แอบแฝงจากการให้ข้อมูลลักษณะดังกล่าว
ข้อสาม ถ้าน้องพูดโกหกแต่งเรื่องขึ้นมาว่าเห็นคนโบกขอความช่วยเหลือ แล้วตัวเองดันไปเจอศพ ณ จุดนั้น มันจะมีผลร้ายกลับมาหาตัวเองเสียมากกว่า คือ มันจะเป็นการให้ปากคำที่เลื่อนลอยมากในทางคดี และทำให้คนที่ไม่เชื่อมองน้องว่าเพ้อเจ้อเสียสติมากกว่า
ยังนึกเหตุผลไม่ออกว่าน้องจะโกหกเรื่องสาเหตุที่ได้พบศพทำไม ครั้นจะบอกว่าเป็นภาพลวงตา ทำไมมันถึงลวงตาได้ตรงกับจุดเกิดเหตุ
ซึ่งเคสนี้มันดูคล้ายกับหลายปีก่อนมาก ที่มีคนนั่งสมาธิอยู่ที่นึง แล้วดันไปรู้ว่ามีศพอยู่อีกที่นึง
กรณีแบบนี้ มีตำอธิบายที่กระจ่างแบบวิทยาศาสตร์บ้างไหม
ขอทีมงานอย่าเอาแทควิทยาศาสตร์ออกนะครับ อยากให้เรื่องนี้มันสามารถอธิบายได้ ไม่งั้นมันก็จะอยู่ในมุมของมันแบบนั้นตลอดไป
กรณีฆ่าหนุ่มโรงงานที่มีน้องนักเรียนไปเจอคนโบกเรียกข้างถนน แต่พแขับกลับมาดูกลายเป็นศพ อธิบายทาง "วิทยาศาสตร์" ยังไง
ข้อต่อมา น้องไม่ได้รับผลประโยชน์หรือได้รับชื่อเสียง.เงิน ใด ๆ แอบแฝงจากการให้ข้อมูลลักษณะดังกล่าว
ข้อสาม ถ้าน้องพูดโกหกแต่งเรื่องขึ้นมาว่าเห็นคนโบกขอความช่วยเหลือ แล้วตัวเองดันไปเจอศพ ณ จุดนั้น มันจะมีผลร้ายกลับมาหาตัวเองเสียมากกว่า คือ มันจะเป็นการให้ปากคำที่เลื่อนลอยมากในทางคดี และทำให้คนที่ไม่เชื่อมองน้องว่าเพ้อเจ้อเสียสติมากกว่า
ยังนึกเหตุผลไม่ออกว่าน้องจะโกหกเรื่องสาเหตุที่ได้พบศพทำไม ครั้นจะบอกว่าเป็นภาพลวงตา ทำไมมันถึงลวงตาได้ตรงกับจุดเกิดเหตุ
ซึ่งเคสนี้มันดูคล้ายกับหลายปีก่อนมาก ที่มีคนนั่งสมาธิอยู่ที่นึง แล้วดันไปรู้ว่ามีศพอยู่อีกที่นึง
กรณีแบบนี้ มีตำอธิบายที่กระจ่างแบบวิทยาศาสตร์บ้างไหม
ขอทีมงานอย่าเอาแทควิทยาศาสตร์ออกนะครับ อยากให้เรื่องนี้มันสามารถอธิบายได้ ไม่งั้นมันก็จะอยู่ในมุมของมันแบบนั้นตลอดไป