ทริปนี้เกิดจากความฝันวัยเด็กกะPostcard ใบนึงที่ซื้อมาจากร้านขายหนังสือแถวบ้านบอกตัวเองว่าสักวันจะต้องไปที่นี่


หลังจากไปอเมริกาใต้ครั้งนึงเมื่อหลายปีก่อน เอาน่าต้องได้สิ ด้วยอายุที่มากขึ้นโรคภัยไข้เจ็บถามหามากข้นรอดการติดโควิดมาได้อย่างไรไม่รู้ และ เสียเวลาชีวิตสามปีติดแหงกไป เอาละเรามาเริ่มจากการจองตั๋วตั้งแต่ พฤศจิกายนปี 2566 เดินทาง มกราคม 2567
โดยใช้สายการบินดังนี้
1.จองขาไปด้วยสายการบินqantas จาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังซานติเอโก ประเทศชิลี ใช้เวลาเดินทาง 27ชั่วโมงกว่าๆ
2.จองสายการบินไปกลับจาก Easter island ด้วยสายการบินLatam เดินทางขาละ 5 ชม ก่อนโควิดมี 3 เที่ยวบินต่อวันตอนนี้เหลือแค่เที่ยวเดียวต่อวัน อันนี้ต้องจองผ่านagent อื่นๆ เช่น expedia หรือtrip ลองจองผ่านเว็บและappของLatam ไม่สามารถจองได้ เพราะ error และเลือกภาษาอังกฤษไม่ได้
3.จองสายการบินจาก Santiago ไป Ezeiza บัวโนสไอเรส ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
4.ขากลับเดินทางด้วยTurkish airline จาก ท่าอากาศยาน Ezeiza บัวโนสไอเรส กลับมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 29 ชั่วโมง
หลังจากนั้นเราก็จองทัวร์One day trip 4ทัวร์
1. City tour santiago by Viator
2. Easter island by Easter island spirit
3.Rojo tango by Signature tour argentina
4.Iguzu one day trip by Signature tour argentina
5.City tour Buenos Aires by Viator
แล้วเราก็มาเริ่มเล่าเรื่องทริป ที่แก้ปัญหาทั้งทริปแบบลืมไม่ลง
Start
Day 1 สุวรรณภูมิ Transit at Sydney
อย่างที่คุณรู้ว่าแท็กซี่กทม นี่เรียกยากขนาดไหนจึงจัดสินใจใช้บริการ bolt ซึ่งหา eco ไม่ได้เลยจึงต้องเรียก bolt taxi rate ค่าโดยสาร ไม่ตรงตาม rate สูงสุดแล้วนะ มันแพงกว่านั้นบางทีเป็น 100 แต่ ช่างเหอะชินแล้ว
มาถึงสุวรรณภูมิลากกระเป๋า เข้าเช็คอินที่ counter qantas
เจอปัญหาแรก พนักงานถามเราว่ามีวีซ่า ออสเตรเลียไหม หน้าเสีย 1 ระดับ แต่โชคดีเราบอกว่าไม่ต้องใช้ถ้าอยู่ไม่ถึง 8 ชั่วโมง
คำถามที่2 มีวีซ่าชิลีไหม หืมที่2 เราก็บอกว่าชิลีไม่ต้องใช้
คำถามที่3 แล้วตั๋วออกจากชิลีล่ะ เราก็ต้องโชว์ให้ดู ว่าเราต่อเครื่องไปบัวโนสไอเรสใน 3วันต่อมา

เอาละขึ้นเครื่องก่อนขึ้นเครื่องน้ำและกาแฟที่ซื้อไว้หลัง
ผ่านเครื่องสแกนแล้วหน้าเกทยังตรวจอีกเลยต้องทิ้งทั้งหมด อันนี้ก็งงกะสายการบินที่จะบินไปออสซี่ว่าจะตรวจอะไรเยอะ แต่เอาเหอะกฏก็คือกฏ ขึ้นไปนั่งเครื่องบินไป 9ชั่วโมงครึ่งก็ไปถึงsydney





Day 2 จาก Sydney to Santiago

รอ transit 5 ชม สามารถ ซื้อ loungeเพิ่มได้ในราคา 50 AUD ได้ซื้อจาก app หรือwebsite qantas airway ภายใน สนามบินsydney มีช้อป แบรนด์เนมมากมายเช่น lv dior chanel prada loewe แต่ด้วยความง่วง และเพลียจึงขึ้นไปเลาจ์เลย ที่เลาจ์มีที่อาบน้ำให้ด้วย มีอาหาร เช้า ถึง10โมงและ 11โมงมีอาหารเที่ยง

หลังรอต่อเครื่อง5ชั่วโมงก็เดินมาที่เกท เพื่อไปSantiago เอาสิ ดีเลย์ จาก15นาทีไป30นาทีและในที่สุดก็1ชั่วโมง เนื่องจากเวลาน้อยและแพลนแน่นมาก ต้องมานั่งลุ้น ว่าจะไปถึง ทันบ่าย3ไหมเพราะซื้อone day tripเริ่มบ่าย3จากตารางการบินน่าจะถึงตั้งแต่11โมงสรุปไปถึงเกือบบ่าย ก่อนลงเครื่องลูกเรือเดินมาถามเราว่าเรามีไฟลท์ต่อเครื่องไป บัวโนสไอเรสเลยใช่ไหม เอาละสิยิ่งรีบๆกลัวกระเป๋าหายอยู่ จึงบอกว่าไม่ใช่ แล้ว ถามว่าจะมีปัญหาเรื่องกระเป๋าไหม (เพื่อนที่เคยบินกับสายการบินนี้เคยมีปัญหากระเป๋าไม่ได้รับ) เค้าก็บอก ไม่มีปัญหา
อาหารบนเครื่องประมาณนี้






ถึงsantiago ตอน12.50น ปัญหาที่ตามมาเรื่อง คือ
1. Ready to fly ของAIS สัญญาณเน็ทที่นี่แย่มาก จับสัญญาณได้ตั้งแต่3g ยัน5g แต่โทรและคุยไลน์ได้ตอนขึ้น4g เท่านั้น นอกนั้นคุยwhat app ได้อย่างเดียว
2.bookingรร คืนแรกก็ไม่ขึ้น ซึ่งจองผ่าน agoda ทำให้และไม่ส่ง confirmation ในemail ต้องจอง โรงแรมใหม่ เพราะตรวจคนเข้าเมืองต้องการหลักฐานยืนยันเพื่อผ่านตรวจคนเข้าเมือง

ผ่านตรวจคนเข้าเมือง  จะมีใบผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาให้เป็นบิลเหมือนใบเสร็จ อย่าให้หายเพราะ ใช้เข้าออกประเทศและยังใช้ในการจองโรงแรมอีกด้วย

ขั้นต่อไปคือไปแลกเงิน ระหว่าง รอกระเป๋า เจ้าหน้าที่รับแลกเงินบอกว่า ให้เก็บใบเสร็จแลกเงินไว้ด้วยเพราะค่าเงินชิลีผันผวนมากถ้ามีใบว่าแลกกับเขาจะได้ เรทเดิม

รับกระเป๋าเสร็จก็ ออกไปที่เคาเตอร์รถขนส่งสนามบิน จากสนามบินเข้าเมืองคิด 24000 เปโซ ชิลีราวๆ900บาทก็ไปถึงโรงแรม เอาของลงยังไม่หมด กะลังจะไปหยิบของข้างหน้าหลังเอากระเป๋าใหญ่ลงจากท้ายรถเสร็จ รถก็ขับออกไปเลย อ้าวยังไม่ได้หยิบกระเป๋าพาสปอรต์ลงมา จึงเข้าไปลอบบี้รร ให้เค้าโทรตามรถ กลับมา และพบกับปัญหาอันหนักเลยคือที่นี่พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องตามรถกลับมา แต่คนขับที่เอามาส่งก็รอรอ พยายามถามเราว่าครบไหมครบไหม สุดท้ายก็พอเข้าใจว่าต้องการทิปนั่นเอง เลยต้องให้ไป5000 เปโซชิลี
เข้าเช็คอินโรงแรม hotel Sommerlier boutique santiago ติด กับ santa lucia hill บ่ายครึ่ง เค้าพบว่าเรามี 2booking จะทำเรื่องยื่นเรื่องคืนเงินจากเว็บอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมา

ทัวร์เมืองซานติเอโก รถมารับบ่าย3 เรามีเวลาน้อยจึงตัดสินใจซื้อไพรเวททัวร์ จากviatorใน ราคา109.98 usdollar มีคนขับรถมารับ ตอน15.00ที่โรงแรม ปัญหาเรื่องสื่อสารอีกแล้ว เค้าบอกว่า ไปคนเดียวไม่ได้ ต้องรับอีก2คนเพิ่มเราก็ยืนยันว่าเราจองกับ viator แบบนี้เค้าก็โทรหาเจ้านาย ก็สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้หรือเราฟังไม่ออก สุดท้ายต้อง what app ไปร้องกับviator ระหว่างเค้าวนไปรอรับลูกค้าอีก2ท่าน จนสุดท้ายเจ้านายก็ยอมให้เราไปคนเดียวตามที่จอง ทำให้กว่าจะได้เริ่มจริงๆก็16.20 น คนพาเที่ยวก็พูดอังกฤษไม่ได้ ทั้งๆที่เลือกว่าให้อธิบายภาษาอังกฤษ ใช้วิธีการแจกsheet ภาษาอังกฤษ หืม?? และใช้appแปลภาษาในการคุย เอิ่ม!! ตามนั้น

ในที่แรกที่ไปคือ เขาซานต้าลูเซียเป็นภูเขากลางเมืองมีวิว180องศาและมีประตูโบราณ










จุดที่2 Palacio la Moneda ทำเนียบประธานาธิบดี



จุดที่ 3 Plaza de amas จตุรัสใหญ่กลางเมือง



จุดที่4 Cerro San Cristóbal
เป็นภูเขาสูงกลางเมืองอีกลูกขึ้นกระเช้าชมวิวราคา5 USD บนยอดเขามีรูปปั้นพระแม่มารีย์ เป็นที่เคารพของชาวชิลี


จบทริปประมาณ ทุ่มนึง ง่วงมาก jet lagหนักมากเพราะเวลาช้ากว่าไทย 10 ชั่วโมง แต่ก็พยายามหาของกินแถวที่พัก ไกด์บอกว่า เราไม่ควรออกไปไหนหลังพระอาทิตย์ตก คนชิลีอ่ะปลอดภัย แต่ ปัจจบันมีผู้อพยพจำนวนมากจากเวเนสุเอล่าและอุรุกวัย ซึ่งอันตรายมาก เพราะปล้นและล้วงกระเป๋าเยอะ (สื่อสารด้วยgoogle translateตลอดเวลาเพราะเค้าไม่ได้ภาษาอังกฤษเลย)
ส่งถึงที่พัก เราเดินออกไปร้าน kentucky ก็คือkfcบ้านเรานั่นแหละ ไก่ทอดที่นี่รสชาติเน้นพริกไทยหนักมาก จากนั้นจึงพักผ่อนที่โรงแรม
sommerlier



อ่านต่อความคิดเห็นที่7ครับ