ตอนนี้เราดรอปเรียน1ปี ตามความจริงเราควรจะได้เข้าเรียนมหาลัยพร้อมกับเพื่อนๆ แต่ด้วยความหัวแข็งของเราที่อยากเรียนคณะที่ชอบ นั้นคือนิเทศ แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย บางมันจะตกงานนู่นนี่นั้น อยากให้เราเรียนคณะสายวิทย์ เราที่เรียนม.ปลายสายวิทย์มา รู้ตัวดีว่าไม่ได้ชอบมัน เกรดเองก็แค่2.4กว่า ไม่อยากจะเรียนทางสายนี้ เลยบอกที่บ้านไป ที่บ้านกลับกดดันให้เลือกทางนี้ เราก็ยังหัวแข็งต่อไป พ่อเลยบอกว่าถ้าอยากเรียนก็หาเงินเอง เรายอม ไปทำงานโรงงาน เก็บเงินให้ได้สักก้อน ถ้าจะกู้กยศ.จากที่อ่านมา เทอม1มันต้องจ่ายไปก่อน ไหนจะค่าหออีก เราเลยไปทำ พอเราเริ่มเก็บเงินได้ แม่เรากลับมาขอยืมไปจ่ายค่าเทอมพี่สาวก่อน เราก็ให้ไป เห็นใจพ่อกับแม่คงหาไม่ทัน แต่พอนานไป ของที่พี่อยากได้มันก็เยอะขึ้น ไหนจะรถมอไซค์ โน๊ตบุ๊คใหม่ ทำให้เราหันกลับมามองตัวเอง ว่าเราก็อยากได้รถมอไซด์ไปทำงานบ้าง คิดจะเอาเงินไปดาวน์แล้วผ่อนเอา ตอนแรกแม่ก็โอเค ให้เราไปออกรถ สุดท้ายแม่กลับมาเอารถไปให้พี่สาวใช้ ส่วนเราต้องนั่งรถโดยสารไปทำงานแทน เราจะขอรถกลับมา แม่ก็ด่าอีก บอกพี่จำเป็นกว่า เราก็ต้องทำใจผ่อนต่อ รถก็ไม่ได้ใช้ จนมาถึงตอนนี้เรากำลังจะหาที่สอบเข้ามหาลัย เป็นเป็นในกรุงเทพ กะจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แม่กลับบอกให้เราเรียนคณะสายวิทย์ ขนญาติพี่น้องมาด่ากดดัน จนเราเครียดไปหมด พ่อเองก็ไม่พูดช่วยอะไร ทั้งทีสัญญากัลเรา ถ้าเก็บเงินได้จะให้ไปเรียน เรายอมทำทุกงาน ยอมเหนื่อยเก็บเงิน ในขณะที่พี่สาวอยากเรียนอะไรก็ได้ อยากได้อะไรก็ได้ ส่วนเราน้อยครั้งจะขอจากพ่อแม่ เพราะไม่รู้จะขออะไร ใช้ต่อจากพี่ตลอด พอเราทวงคำพูด พ่อแม่กลับบอกว่าที่ทำคิอเขารักเรา เราพยายามนิ่งเฉย จนวันนี้เราขอเงินที่เก็บจากทำงานทั้งหมดจากแม่ ทุกเดือนเงินออกจะให้แม่หมด เงินส่วนนี้กลับไม่มีเหลือเลย เราเพิ่งมารู้ทีหลังว่าแม่เอาไปให้พี่สาว และซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ ของแบรนด์ Apple เราร้องไห้หนักมาก เราเหนื่อยแทบตาย เฃินสักบาทก็ไม่ได้ใช้กลับไปตกอยู่กับพี่สาว เราถามกลับไปว่ารักเราเท่าพี่บ้างมั้ย แม่สวนกลับมา พ่อแม่เขาก็รักลูกเท่ากันทุกคน มันจริงเหรอ ทำไมเรารู้สึกว่าไม่ใช่
พ่อแม่รักลูกเท่ากันจริงๆเหรอ