สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ชอบชื่อ ล็อกอิน ของ จขกท ครับ
มีความหมาย และ สื่อถึงการใช้ชีวิต
1.การตั้งกระทู้ แสดงว่าคุณ เป็นคนใจดี ... มีใจต่อเขา
2.แกให้เราช่วยหักเงินเดือนเก็บให้แกเดือนละ 5,000 บาทจนตอนนี้มีอยู่ประมาณ 400,000 บาท....จากวรรคนี้ แสดงว่า เขามีใจให้คุณเช่นกัน
ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ หายาก ที่จะทำงาน แบบให้ใจต่อกัน แบบนี้
ภรรยาเขาเป็นแม่บ้าน...ถ้างานดี ก็ให้อยู่ไปด้วยกัน หากคุณไม่เดือดร้อนเรื่องสถานที่
คุยกับเขาตรงๆ มีใจต่อกันมา17ปี คิดว่าไม่ยาก คุยกันดีๆ รายรับลดลงเป็นเรื่องปกติ ลองหาหน้าที่อื่นที่เขาพอทำไหวครับ
...เวลาจะเป็นตัวช่วยที่ดี ให้ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนผ่านไปทีละนิด จนเข้าที่เข้าทางในรูปแบบใหม่ๆ
มีความหมาย และ สื่อถึงการใช้ชีวิต
1.การตั้งกระทู้ แสดงว่าคุณ เป็นคนใจดี ... มีใจต่อเขา
2.แกให้เราช่วยหักเงินเดือนเก็บให้แกเดือนละ 5,000 บาทจนตอนนี้มีอยู่ประมาณ 400,000 บาท....จากวรรคนี้ แสดงว่า เขามีใจให้คุณเช่นกัน
ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ หายาก ที่จะทำงาน แบบให้ใจต่อกัน แบบนี้
ภรรยาเขาเป็นแม่บ้าน...ถ้างานดี ก็ให้อยู่ไปด้วยกัน หากคุณไม่เดือดร้อนเรื่องสถานที่
คุยกับเขาตรงๆ มีใจต่อกันมา17ปี คิดว่าไม่ยาก คุยกันดีๆ รายรับลดลงเป็นเรื่องปกติ ลองหาหน้าที่อื่นที่เขาพอทำไหวครับ
...เวลาจะเป็นตัวช่วยที่ดี ให้ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนผ่านไปทีละนิด จนเข้าที่เข้าทางในรูปแบบใหม่ๆ
ความคิดเห็นที่ 13
จริง ๆ ผมว่าคุณทำดีมากเลยนะครับ ดูแลได้ดีมาก
ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกแกเอาแกไป ประการแรก ลุงมีเงินเก็บ ถ้าเอาลุงไปเงินก็ไปด้วย
ซึ่งก็แน่นอนล่ะว่า พอได้เงินลุงไปแล้ว ลุงก็น่าจะถูกลอยแพ แน่ๆ
ส่วนภรรยาซึ่งเป็นคุณป้าแม่บ้าน ก็ยังทำอยู่ด้วยได้ ยังมีแรงทำไหว ก็ให้ทำไปครับ
ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณลุงทำงานน้อยลง จะลดเงินเดือนก็ไม่ผิดอะไร
เพราะตามจริงแล้วจะให้แกหยุดทำงานเลยก็ได้ เพราะร่างกายน่าจะไม่ไหวแล้ว
ถ้าให้ลุงทำงานในเวลาปกติแทนจะดีกว่าไหมครับ คนเราอดนอนในยามวิกาล ร่างกายทรุดเหมือนกันนะครับ
อันนี้พูดเพราะเคยทำงานกะดึก แค่ 3 เดือน น้ำหนักผมหายไปเกือบ 10 กก
รบกวนพิจารณาจุดนี้ดูครับ อาจจะให้ทำวันจัน-พุธ เวลาธรรมดาแทน เพราะถ้าเป็นเวลาดึกก็จะกวนเวลาคุณป้าแม่บ้านหรือเปล่า
เรียกคุณลุงและคุณป้ามาคุยพร้อมกันครับ ว่า ยังอยู่ต่อไปได้นะ จะดูแลต่อแบบนี้นั่นแหละ
แต่จำเป็นนะที่จะต้องลดเวลาลุงลงไป ให้ ชม ทำงานน้อยลง ดังนั้นเงินก็ได้น้อยด้วยนะ
แต่ถ้าไม่ไหว ก็ต้องไม่ไหว เพราะทางเราก็จำเป็นต้องจ้างคนมาเพิ่มเหมือนกัน อธิบายให้คุณลุงคุณป้าเข้าใจ
ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องเงินเก็บให้ใครฟัง ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนดีมากพอ ที่จะดูแลเงินก้อนนี้ได้ด้วย
วันนึงถ้าคุณลุงไม่อยู่แล้ว มันก็จะเป็นเงินที่คุณป้าเอาไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเองต่อไปได้
บุญรักษานะครับ
ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกแกเอาแกไป ประการแรก ลุงมีเงินเก็บ ถ้าเอาลุงไปเงินก็ไปด้วย
ซึ่งก็แน่นอนล่ะว่า พอได้เงินลุงไปแล้ว ลุงก็น่าจะถูกลอยแพ แน่ๆ
ส่วนภรรยาซึ่งเป็นคุณป้าแม่บ้าน ก็ยังทำอยู่ด้วยได้ ยังมีแรงทำไหว ก็ให้ทำไปครับ
ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณลุงทำงานน้อยลง จะลดเงินเดือนก็ไม่ผิดอะไร
เพราะตามจริงแล้วจะให้แกหยุดทำงานเลยก็ได้ เพราะร่างกายน่าจะไม่ไหวแล้ว
ถ้าให้ลุงทำงานในเวลาปกติแทนจะดีกว่าไหมครับ คนเราอดนอนในยามวิกาล ร่างกายทรุดเหมือนกันนะครับ
อันนี้พูดเพราะเคยทำงานกะดึก แค่ 3 เดือน น้ำหนักผมหายไปเกือบ 10 กก
รบกวนพิจารณาจุดนี้ดูครับ อาจจะให้ทำวันจัน-พุธ เวลาธรรมดาแทน เพราะถ้าเป็นเวลาดึกก็จะกวนเวลาคุณป้าแม่บ้านหรือเปล่า
เรียกคุณลุงและคุณป้ามาคุยพร้อมกันครับ ว่า ยังอยู่ต่อไปได้นะ จะดูแลต่อแบบนี้นั่นแหละ
แต่จำเป็นนะที่จะต้องลดเวลาลุงลงไป ให้ ชม ทำงานน้อยลง ดังนั้นเงินก็ได้น้อยด้วยนะ
แต่ถ้าไม่ไหว ก็ต้องไม่ไหว เพราะทางเราก็จำเป็นต้องจ้างคนมาเพิ่มเหมือนกัน อธิบายให้คุณลุงคุณป้าเข้าใจ
ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องเงินเก็บให้ใครฟัง ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนดีมากพอ ที่จะดูแลเงินก้อนนี้ได้ด้วย
วันนึงถ้าคุณลุงไม่อยู่แล้ว มันก็จะเป็นเงินที่คุณป้าเอาไว้ใช้จ่ายดูแลตัวเองต่อไปได้
บุญรักษานะครับ
ความคิดเห็นที่ 4
จากอดีต คุณให้เขา ประมาณ เดือนละ 10000 หรือ 9 พันปลายๆ ถ้านับ ทำงาน 6 วัน หยุด 1 อายุ 60
ปัจจุบันอายุ 77 คุณยังให้เขาทำเป็น รปภ อ่านแล้วก็แปลกใจ ถ้ามีเหตุ คุณว่า เขาจะทำอะไรได้ ห้ามโจร วี่ง ตะโกน ล้วนทำลำบาก
รปภ ไม่ควรมากกว่า 65 ด้วยซ้ำ จึงจะพอมีกำลังกาย แต่ ถ้าคุณจ้างแบบ ช่วยเหลือครอบครัวแม่บ้าน มาจนถึงวันนี้ คุณก็น่าจะต้องรับความเสี่ยงมาตลอด กว่า 10 ปีแล้ว ถูกไหม เพราะถ้าคุณเน้น คุณภาพ คุณไม่น่าจะจ้างเขานานขนาดนี้ หรือ ว่า จ้างคนอื่น แพงกว่า ?
สรุปว่า เขาต้องลดงานลงเหลือ 1 วัน ก็โอเค บอกเขาตรงๆ ง่ายๆ ไม่มีทางอื่น รายได้เขาลดลง แต่ เขายังอยู่ฟรี กับคุณไม่ใช่หรือ ?
มีบัตรทอง มีตังค์เก็บ 4 แสน ก็ให้เป็นไปตามนั้นก่อน ส่วน ถ้าแกลำบากตังค์หมด คุณค่อยมองว่า จะช่วยเขาไหม เท่าไหร่ว่ากันไปตาม วาระ ไม่ต้องไปมองไกลมาก ตอนนี้ ก็ทำตามนี้ ในฐานะ เขาก็ทำงานกับคุณมานาน ดูแลเขาอีกหน่อยอายุ 77 ไม่รู้จะอยู่อีกกี่ปี ทำบุญไว้หน่อย ถ้าไหว ก็ไม่น่าเสียหายอะไร เหมือนเลี้ยงข้าวคนแก่ ให้ที่อาศัย ดีกว่า ไล่ออกไปอยู่ที่อื่น
ปัจจุบันอายุ 77 คุณยังให้เขาทำเป็น รปภ อ่านแล้วก็แปลกใจ ถ้ามีเหตุ คุณว่า เขาจะทำอะไรได้ ห้ามโจร วี่ง ตะโกน ล้วนทำลำบาก
รปภ ไม่ควรมากกว่า 65 ด้วยซ้ำ จึงจะพอมีกำลังกาย แต่ ถ้าคุณจ้างแบบ ช่วยเหลือครอบครัวแม่บ้าน มาจนถึงวันนี้ คุณก็น่าจะต้องรับความเสี่ยงมาตลอด กว่า 10 ปีแล้ว ถูกไหม เพราะถ้าคุณเน้น คุณภาพ คุณไม่น่าจะจ้างเขานานขนาดนี้ หรือ ว่า จ้างคนอื่น แพงกว่า ?
สรุปว่า เขาต้องลดงานลงเหลือ 1 วัน ก็โอเค บอกเขาตรงๆ ง่ายๆ ไม่มีทางอื่น รายได้เขาลดลง แต่ เขายังอยู่ฟรี กับคุณไม่ใช่หรือ ?
มีบัตรทอง มีตังค์เก็บ 4 แสน ก็ให้เป็นไปตามนั้นก่อน ส่วน ถ้าแกลำบากตังค์หมด คุณค่อยมองว่า จะช่วยเขาไหม เท่าไหร่ว่ากันไปตาม วาระ ไม่ต้องไปมองไกลมาก ตอนนี้ ก็ทำตามนี้ ในฐานะ เขาก็ทำงานกับคุณมานาน ดูแลเขาอีกหน่อยอายุ 77 ไม่รู้จะอยู่อีกกี่ปี ทำบุญไว้หน่อย ถ้าไหว ก็ไม่น่าเสียหายอะไร เหมือนเลี้ยงข้าวคนแก่ ให้ที่อาศัย ดีกว่า ไล่ออกไปอยู่ที่อื่น
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยมีประสบการณ์จ้างลูกจ้างมาเป็นเวลานานจนเขาอายุมากและทำงานไม่ค่อยไหวแล้วบ้างคะ
แกเริ่มทำรปภกับเราตอนอายุ 60 จนปัจจุบันแกอายุ 77 ปีแล้วค่ะ มีโรคประจำตัวคือโรคหอบอันเนื่องมาจากสูบบุหรี่หนัก
ตอนแกอายุ 60-70 ให้แกเข้ากะ 20:00 - 6:00
พอหลัง 70 ให้แกเข้ากะ 22:00 - 6:00
ให้วันละ 460- มีที่พักให้ และให้หยุดอาทิตย์ละ 1 วัน โดยจะมีรปภที่อื่นมาแทน
เราสังเกตว่าช่วงปลายปึที่แล้ว แกเริ่มไม่ค่อยออกมานั่ง อาจจะเป็นเพราะโรคหอบที่กำเริบในบางวัน
แต่ส่วนใหญ่จะเดินออกมาปิดประตูรั้วตอนเที่ยงคืนและนั่งสักพัก และเข้าไปนอนตอนตี 1 ตอนเช้าจะเห็นแม่บ้านที่เป็นเมียเดินมาเปิดประตูรั้วเอง
พอเป็นแบบนี้เรารู้สึกไม่สบายใจเพราะที่ตึกเรามีรถเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์
เราเลยจะสับเปลี่ยนโดยให้แกทำเหลืออาทิตย์ละ 1 วันและให้รปภที่เคยมาช่วยอาทิตย์ละวันมาทำแทนแกค่ะ
ส่วนรายได้แกต้องลดลงแน่นอนซึ่งเราคิดตัวเลขไว้ว่าจะให้เดือนละ 5,000 บาทและให้พักอยู่เหมือนเดิมค่ะ
(แกให้เราช่วยหักเงินเดือนเก็บให้แกเดือนละ 5,000 บาทจนตอนนี้มีอยู่ประมาณ 400,000 บาท)
ปล1 ตั้งแต่เราเปิดตึกมามีของหายอย่างเดียวคือองค์พระพิฆเนศ
แต่เมื่อ 2 วันก่อนมีคนเดินเข้ามาหยิบหมวกกันน็อคของลูกค้าตอนช่วง 22:30 นี่เป็นจุดที่ทำให้เราต้องตัดสินใจเรื่องรปภค่ะ
ปล2 เราเคยคุยกับลูกแก ลูกแกบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะรับไปเลี้ยง
แต่ถ้าแกอยู่ที่นี่แกจะอยู่กับเมียใหม่ซึ่งเป็นแม่บ้านของเราเอง สามารถดูแลแกได้ค่ะ
คำถามและปัญหาคือเราไม่รู้จะเริ่มบอกแกยังไงค่ะ เพราะรายรับแกจะลดลง แต่ก็คิดว่าจะให้แกเอาเงินเก็บมาใช้เดือนละ 2,000 บาทแล้วจะบอกให้ลูกแกส่งเงินมาให้แกใช้บ้างเดือนละ 1,000 บาทค่ะ
เพิ่มเติม รายจ่ายแกที่เราเคยถาม น่าจะเป็นค่ากับข้าวที่ต้องออกให้เมียแม่บ้าน
ค่ายาพ่น
ส่วนเวลาไปหาหมอแกจะใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาฟรีค่ะ