กลอน โดยทั่วไป มักยึด ขนบนิยม
วรรคหนึ่ง ๆ จะมี ๔, ๖, ๗, ๘ และ ๙ คำ
มีผู้ถามว่า จะแต่งให้ แตกต่าง ได้ไหม ?
ก็ตอบไปว่า ไม่ผิดแต่ประการใด
(ดูหัวข้อ "กลอน" ใน wiki ได้ครับ)
วารี ลดหลั่นริน (สอง สาม สี่)
@ ค่ำเช้า
เฝ้าฝัน
แบ่งปัน
พลันจริง
@ ลดละ"กู"
ผู้ผีสิง
ธรรมเจิดจริง
เหนือสิ่งใด
@ เมตตารักผอง
ปองปฏิบัติไสว
เที่ยงธรรมจริงใจ
ไป่เลือกรักชัง
และ แจ้งไปว่า
กลอน มีลักษณะ "ต่าง" จาก กาพย์, ฉันท์
ในการใช้ "คำท้ายวรรค"
เพื่อการนำไป ขับร้องทำนองเสนาะ ดังนี้
[ มีบังคับไตรยางศในที่สุดของ"กลอนรับ"
ให้ใช้แต่อักษรสูง อย่าให้ใช้อักษรกลาง
แลอักษรต่ำที่เป็นสุภาพ
ในที่สุดของ"กลอนรอง" แล "กลอนส่ง"นั้นให้ใช้แต่
อักษรกลางแลอักษรต่ำ นอกนั้นไม่บังคับ
ประชุมลำนำ
รองอำมาตย์เอก หลวงธรรมาภิมณฑ์
(ถึก จิตรกถึก) (พ.ศ. 2401 - 2471) ]
ว่าด้วย กลอน toshare
วรรคหนึ่ง ๆ จะมี ๔, ๖, ๗, ๘ และ ๙ คำ
มีผู้ถามว่า จะแต่งให้ แตกต่าง ได้ไหม ?
ก็ตอบไปว่า ไม่ผิดแต่ประการใด
(ดูหัวข้อ "กลอน" ใน wiki ได้ครับ)
วารี ลดหลั่นริน (สอง สาม สี่)
@ ค่ำเช้า
เฝ้าฝัน
แบ่งปัน
พลันจริง
@ ลดละ"กู"
ผู้ผีสิง
ธรรมเจิดจริง
เหนือสิ่งใด
@ เมตตารักผอง
ปองปฏิบัติไสว
เที่ยงธรรมจริงใจ
ไป่เลือกรักชัง
และ แจ้งไปว่า
กลอน มีลักษณะ "ต่าง" จาก กาพย์, ฉันท์
ในการใช้ "คำท้ายวรรค"
เพื่อการนำไป ขับร้องทำนองเสนาะ ดังนี้
[ มีบังคับไตรยางศในที่สุดของ"กลอนรับ"
ให้ใช้แต่อักษรสูง อย่าให้ใช้อักษรกลาง
แลอักษรต่ำที่เป็นสุภาพ
ในที่สุดของ"กลอนรอง" แล "กลอนส่ง"นั้นให้ใช้แต่
อักษรกลางแลอักษรต่ำ นอกนั้นไม่บังคับ
ประชุมลำนำ
รองอำมาตย์เอก หลวงธรรมาภิมณฑ์
(ถึก จิตรกถึก) (พ.ศ. 2401 - 2471) ]