คืองี้ค่ะเป็นเรื่องที่เกิดเมื่อปีที่แล้วเดือนเมษายนหลังจากมีงานบวชเณรภาคฤดูร้อนแล้วน้องเราก็บวชด้วยหลังจากสึกจากเณรน้องเราก็ได้กลับมาอยู่บ้านได้สองสามวันแล้วที่นี้ก็เกิดเรื่องราวแปลกๆคือเริ่มมีเสียงเคาะประตูซึ่งเกิดตอนกลางคืนไฟหน้าบ้านดับเอง(ไม่ใช่โซล่าเซลล์นะคะ)จนนานๆไปน้องสาวกับเราก็เริ่มทนไม่ไหวเพราะเสียงเคาะที่ดังอยู่ทุกคืนแล้วก็ดังเฉพาะหน้าห้องเราซึ่งเราแปลกใจมากเราเลยสงสัยว่าอาจจะเป็นกุมารที่บ้านพ่อเพราะว่าเราชอบพูดเหมือนชวนคนนู้นคนนี้กลับบ้านและนั่นแหละค่ะมันเลยทำให้เราพูดออกไปก่อนปิดประตูห้องว่า "ถ้าเป็นจริงๆ.....อย่ามาแกล้งกูเพราะกูไม่ชอบ" พอเราพูดจบไฟหน้าบ้านก็ดับพรึ่บตามหลังเราตอนนั้นเรากลัวจนต้องสวดมนต์ก่อนนอนแต่มันก็ยังมีเสียงเคาะประตูอยู่เกือบทั้งคืน จนเราทนไม่ไหวเลยบอกกับพ่อซึ่งพ่อก็กับเรามาว่า "พ่อกลัวว่าน้องจะไปเข้าห้องน้ำที่พระเขาเคยผูกคอต/ย" ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้สึกแปลกและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นพระเราเลยบอกกับพ่อไป "หนูว่าไม่ใช่เขาเป็นพระนะพ่อ" เราพูดไปแบบติดตลกพ่อเลยเอายันต์ให้เราและติดไว้ที่หน้าห้องเรากับชวด(เราอยู่บ้านกับน้องชายน้องสาวและก็ชวดพ่ออยู่อีกบ้าน) ตกตอนกลางคืนก็มีเสียง
เคาะเหมือนเดิมแต่ไม่ใช่หน้าห้องแต่เป็นข้างห้องเสียงเคาะจากข้างห้องดังอยู่ประมาณสองวันได้จนเริ่มทนไม่ไหวเราเลยเข้าไปในห้องที่มีเสียงเคาะเพื่อหาสาเหตุและเราก็พบต้นเหตุเสียงมันเป็นพีวีซีอันหนึ่งวางพาดกับกำแพงห้องซึ่งถ้าไม่มีอะไรไปโดนมันจะไปขยับเราเลยพูดออกไปว่า "กูว่าล่ะ ไ-้สั- " เราดึงท่อออกและเอาไปวางไว้ที่อื่นตอนนั้นเรารู้สึกโล่งใจมากๆแบบสุดแต่พอตกกลางคืนอีกครั้งคราวนี้ไม่ได้มีเสียงเคาะแต่มีเสียงกระชากถุงแรงมากและเสียงก็ดังมาจากทางฝั่งปลายเท้าเรา ตอนนั้นรู้สึกกลัวแต่ก็รู้สึกโมโหเราเลยด่าในใจไปหลายอย่าง เสียงเดินเริ่มดังขึ้นในบ้าน(เสียงดังมากเพราะบ้านปูเสื่อน้ำมัน)ตอนนั้นเรากลัวเลยใส่หูฟังคลุมโป้งแล้วหลับไป

ตื่นเช้ามาเลยเล่าให้พ่อฟังพ่อก็เลยไปหาหมอดูสรุปหมอดูบอกว่าที่บ้านเราสร้างทับร่างคนตายซึ่งมันไปทับขาเขาเอาไว้เลยเกิดเสียงแบบนั้นตอนกลางพ่อเลยถามว่า "เขาอยากได้อะไรไหม" หมอดูส่ายหน้าบอกว่าเขาหันหลังไม่บอกแต่เขาชอบฟังเพลงเพราะตรงที่เขาต/ยคือโรงหนังเก่าหมอดูเลยให้น้ำมนต์มาให้อาบและก็พรมทั่วบ้าน
หลังจากนั้นพ่อก็มาบ้านพรมน้ำมนต์ทั่วบ้านสาวนเราก็เปิดเพลงให้เขาฟังเกือบทุกวันและหลังจากนั้นเสียงก็หายๆตลอดจนถึงทุกวันนี้