สิ่งหนึ่งที่จะชอบมากๆในช่วงหลังๆคือการไม่ตั้งคำถาม แล้วปล่อยให้มันเป็นเพียงให้ไพ่เล่าเรื่องมาแทน หรือที่น่าจะเคยได้ยินเป็น Content ประมาณว่า"แล้วแต่ไพ่จะบอก"

สิ่งหนึ่งที่ทดลองทริคนี้ตั้งแต่ประมาณปี 64 ตัวแพรเองเวลาจะได้เจอหนุ่มๆหรือกลุ่มสังคมแบบไหนเลยลองใช้ทริคแบบนี้ดูค่ะ โดยไม่ได้คาดหวังด้านการคบหาปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ แล้วเปลี่ยนเป็นให้เราได้ฝึกทดลองอ่านไพ่ซึ่งทริคพวกนี้จริงๆแถบดูเกือบทุกวันนะคะฮ่าๆๆ มันก็เลยทำให้มีเรื่องมาเล่าในวันนี้นั่นเองค่ะ

ปี 65
- จะขึ้นไพ่นักดนตรีบ่อย = ผลลัพธ์ที่ได้จากปีนั้นก็ได้เจอเพื่อนที่เป็นนักดนตรี , คนเขียนเพลง , คนทำงานอยู่ในค่ายดนตรี , คนดูแลศิลปิน

ปี 66
- ขึ้นไพ่นักฟุตบอลบ่อย บวกกับเคยจับไพ่ได้ประมาณว่าคนที่เราจะได้คุยได้เดทด้วยอยู่ในชุดยูนิฟอร์ม ก็ค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์ขาดที่ปีที่แล้วมีเพื่อนเป็นนักบอลทีมชาติทางฝั่งพม่า และเป็นนักบอลทีมชาติของทางฝั่งไทยด้วย ซึ่งในวงโคจรของแพรไม่สามารถที่จะใกล้กับเค้าได้เลยแต่พอได้มารู้จักและได้เรียนรู้กัน ก็เลยทำให้เปิดใจในหลายๆมุมและรู้ว่ากลุ่มอาชีพตรงนี้จะมีเวลาค่อนข้างจำกัด ก็เลยทำให้เข้าใจสาวๆที่ต้องทำใจเวลามีแฟนเป็นอาชีพนี้ด้วยนะคะ

ปี 67
- ยังตอบอะไรได้ไม่มากค่ะ เพราะมันเพิ่งจะเดือนแรก(เขียนในเดือนมกราคม) แต่เริ่มสังเกตหน้าไพ่แบบนี้ได้ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน ธันวาคมของปี 66 

.
#แต่เค้าห้ามดูดวงทุกวันไม่ใช่หรอ? เค้าไหนก่อนนนน เอาจริงๆทริคเหล่านี้มีก็เพื่อป้องกันไม่ให้เราจิตตกหรือรู้สึกฟุ้งซ่านยึดติดกับคำทำนายจนลืมใช้ศักยภาพความเป็นมนุษย์ของตัวเอง แต่เอาจริงๆแล้วมันสามารถเก็บเป็น Case Study และในฐานะของการที่แพรเป็นครูสอนด้วย จึงได้เป็นการเก็บข้อมูลเพราะส่วนตัวเองเป็นคนที่ดูดวงแล้วก็ลืมค่ะ วางไพ่ปุ๊บก็ลืมไปแล้ว จึงเป็นเหตุที่มาที่เลยทำให้พอจะจำหน้าไพ่บางประเภทได้

#ทุกๆอย่างมีช่วงเวลาของมัน อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าปีที่แล้วแพรเจอเพื่อนนักฟุตบอล ซึ่งมันก็ขึ้นล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงประมาณสิ้นปี 65 แต่พอเรื่องราวต่างๆมันก็ใช้เวลาถึงแม้ไพ่จะบอกมาก่อนล่วงหน้าแล้วแน่นอนว่าเรื่องนี้เราไม่สามารถไปเร่งให้เกิดเวลาก่อนได้ แต่ยกเว้นถ้าเกิดว่าเรามีเป้าหมายโฟกัสชัดเจนว่าอยากได้กลุ่มอาชีพแบบไหนก็ต้องเอาตัวเองไปสู่บรรยากาศตรงนั้นอันนี้ใช้ได้ผลจริงค่ะ 

.
และในเมื่อเราสามารถดูดวงตัวเองได้บ่อยๆเพื่อการศึกษาและทดลองอะไรต่างๆมุมนี้จะบอกนักเรียนเสมอว่าเมื่อเรียนดูดวงไปแล้วอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง ส่วนใหญ่ feedback ที่ได้กลับมาทุกคนจะพูดถึงมิติเวลาเสมอว่าบางอย่างมันเร่งไม่ได้จริงๆ หรือต่อให้บางอย่างเรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ถ้ามันจะเกิดมันก็ทำได้แค่เพียงหลีกเลี่ยงให้น้อยลง ซึ่งมันก็ไม่มีผิดถูกในมุมมองค่ะว่าจริงๆแล้วเราสามารถแก้ไขในสิ่งที่ลิขิตได้แล้วหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆเลยไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับคุณ งาน เงิน ความรัก และอุบัติเหตุ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ถ้าจะสอนให้เรารู้จักวิธีที่จะรับมือหรืออยู่กับสถานการณ์ตรงนั้นกับมันยังไงต่างหาก ที่เราจะไม่พลาดซ้ำ ที่เราจะผ่านเรื่องต่างๆไปได้เพราะมีประสบการณ์มาก่อน

การอ่านไพ่เองก็เช่นเดียวกันค่ะประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมามันจะช่วยทำให้เราสื่อสารโดยใช้ไพ่เป็นเครื่องมือ ใช้เป็นคำทำนายหรือการเล่าเรื่องในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเอง ไม่ว่าจะใช้ทำ Content หรือใช้ในงานพยากรณ์ เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากๆเลยนะคะที่การที่ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะหรืออายุที่เพิ่มขึ้นมันก็ทำให้เป็นสีสันของการทายไพ่เหมือนกันค่ะ
อะ...ต่อ
ถ้าในมุมมองความรัก #ก็เพิ่งจะได้เข้าเรื่องจริงๆตรงนี้ล่ะ เราสามารถตั้งคำถามอะไรได้บ้างที่ไม่ใช่ว่าเราจะมีแฟนเมื่อไหร่หรือจะมีใครเข้ามาไหม
สามารถถามเกี่ยวกับตัวตนของเขาได้ค่ะ ถ้านอกจากปล่อยให้แล้วแต่ไพ่จะบอกอย่างเซตนี้ขอพูดตามตรงนะคะว่ามันอาจจะไม่ได้ขึ้นมา 100% แต่มันจะสลับกันเพียงแต่แค่มันเป็นไพ่นึงที่ตลอด 2-3 เดือนมานี้จับได้บ่อยๆ 

1- มันสามารถแทนนิสัยตัวตนของเขาได้หรือไลฟ์สไตล์บางอย่าง ที่เป็นกิจกรรมที่เขาชอบทำ
2- อาจจะเป็นสถานที่ที่ได้พบเจอถ้ามองจากในนี้จะเป็นสถานที่ที่มีดนตรี , จะเป็นงานคอนเสิร์ต , จะเป็นร้านเครื่องดนตรีก็ได้ หรือแม้แต่หัวข้อ topic ที่เราคุยกันเป็นเรื่องดนตรีหรือแนวเพลงที่ชอบก็ได้ค่ะ
3- มันอาจจะบอกอีกเช่นเดียวกันว่าเขาเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องเครียด เป็นคนมีความสามารถทางด้านดนตรี ซึ่งเบสิคคนเราก็มักจะเล่นกีต้าร์ได้เป็นอย่างแรกๆฮ่าๆ มันก็มีบ้างป้ะเอาไว้จีบผู้ชายงี้
4- เกี่ยวกับไพ่หมออันนี้จริงๆก็คิดมาสักพักเหมือนกันว่า อาจจะไปเจอกันตอนเจ็บป่วยหรือเปล่า , หรือว่าเจอแถวๆสถานที่โรงพยาบาล , หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าเราจะต้องมีการตีเยียวยาฮีลใจหรือเขาอาจจะเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวข้องกับวงการทางการแพทย์ก็ได้นะคะ
5- ส่วนสุดท้ายไพ่เด็ก เราจะเห็นว่ามีบ่อน้ำและมีสัตว์เลี้ยงอยู่ มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่าลูกคาแรคเตอร์เขาดูเด็กๆ , หรืออาจจะมีนิสัยความเป็นเด็ก , แวดล้อมเด็กๆ , หรือแม้แต่มันทำให้กลับมารู้สึกเป็นเด็กอีกครั้งก็ได้ที่ทำให้เราได้คุยกันได้เริ่มต้นกันก็ได้นะคะเพราะเด็กจากความหมายไพ่ไม่ว่าจะเป็น oracle หรือtarot จะแทนความหมายถึงการได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ 
6- หากการที่ได้ไพ่ประเภทนั้นบ่อยๆอาจจะต้องลองเปลี่ยนสำรับดูก่อน หรือทำการล้างพลังงานไพ่ค่ะ รวมไปถึงถ้าเป็นไปได้อาจจะต้องหยุดพักในการดูดวงไปก่อนหากไม่มั่นใจว่าสภาวะจิตเรามันหมกมุ่น หรือจริงจังกับมันเกินไปไหม
7- และลองถามต่อได้อีกค่ะว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไปแล้วหรือยัง ลองแยกออกเป็น 2 ฝั่ง
8- ถ้าพอจะรู้เรื่องราวแล้วก็ปล่อยไปค่ะ ปล่อยให้วันเวลามันเป็นการทำงานไปและเอาตัวเองไปใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแต่ว่าถ้าสำหรับการเรียนรู้ด้วยตัวเองหรือการฝึกอ่านก็ควรจะมีการจดเป็นบันทึกเอาไว้ว่าช่วงไหนจับได้ไพ่อะไร และมันเกิดเหตุการณ์อะไรกับเราไปนั่นเองค่ะ

.
ในเซตนี้เองถึงแม้จะเป็นแค่ไพ่ oracle เพียงจำนวนไม่ได้เยอะ ซึ่งอย่างที่บอกไปค่ะว่าแพรเองเป็นคนจับไพ่แล้วก็ลืมเลยเพิ่มโจทย์ต่อมา คือ 
- เราจะเจอบุคคลลักษณะนี้ในครึ่งปีแรกหรือครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะใช้ไพ่ออราเคิลหรือtarot ในการช่วยทำนายเอาแบบที่สะดวกเลยค่ะ
- จับต่อว่า First impression ระหว่างเขากับเราที่เจอกันเป็นแบบไหน หรือโมเมนต์ณตอนนั้นเจอกันแล้วมีความสุขไหมสบายใจหรือเปล่าหรือมันเป็นสถานการณ์แบบไหน
- เพิ่มโจทย์ต่อมาคือ พลังงานที่เรามีต่อกันมันเป็นเรื่องดีๆหรือเปล่า

เพราะเอาจริงๆมันไม่ใช่แค่ว่าพบเจอแล้วจะยังไงต่อแต่มันก็อาจจะเป็นเหตุให้เราหลีกเลี่ยงคนที่เราไม่ควรเจอด้วยก็ได้เช่นเดียวกันนะคะแต่เต็มที่อาจจะมีแยกย่อยไปอีกอย่างนึงว่าเป็นคนใหม่ที่เราไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อน หรือ เป็นคนที่เราเจอหรือเขาอยู่ในชีวิตเราแล้ว

.
ใครกำลังฝึกอ่านไพ่ หรือหามุมมองใหม่ๆลองเอาไปใช้ได้เลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆการอ่านการโหวตน้าาา