เรามีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังนะค่ะ แค่อยากระบายและขอคำแนะนำ
คือเราอายุ 31ปี แฟนอายุ 41 ปี และเราสองคนก็แต่งงานกันมาได้ประมาณ 1ปีกว่าแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ที่บ้านของเราและญาติพี่น้องก็ดีกับแฟนเรามากๆค่ะ เพราะแฟนเราเป็นคนใจกว้างมากๆค่ะ เวลาไปที่บ้านก็จะซื้อของกินของฝากให้พ่อแม่ และญาติพี่น้องเรากินกันจุกๆตลอด ตอนที่เราแต่งงานแฟนให้ค่าสินสอดเราเป็นเงินสด 350,000 บาท + ทอง 5 บาท ทางบ้านเราก็พอใจกับค่าสินสอดตรงนี้มาก เพราะว่าเราเป็นคนต่างจังหวัดการได้ค่าสินสอดประมาณนี้ถือว่าเยอะมากๆค่ะเป็นหน้าเป็นตาให้กับพ่อแม่ได้มาก บวกกับว่าเราเป็นลูกคนสุดท้อง การทำงานค่อนไปในทางที่ดีเลยค่ะ เราทำงานที่กรุงเทพ เงินที่หาได้ในแต่ละเดือนก็ราว 6หมื่นกว่า เราส่งเสียที่บ้านเป็นอย่างดี เงินค่าสินสอดพ่อแม่คืนให้เรามาบางส่วน เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานก็เอาเงินค่าสินสอดมาใช้ แต่ทองก็ให้เรากลับมาหมด ณ ตอนนั้นทุกคนมองว่าแฟนเราเป็นคนค่อนข้างฐานะดี ที่หาสินสอดมาให้เราได้ขนาดนี้ แต่ความจริงแล้ว ค่าสินสอดทั้งหมดเป็นของเราค่ะ เราเป็นคนออกให้แฟนก่อน เนื่องจากตอนนั้นแฟนทำธุระทางด้านขนส่ง แล้วทำให้ต้องใช้เงินที่มีอยู่นั้นลงทุนไปค่อนข้างเยอะ ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของแฟนไม่ค่อยจะดีนัก ก่อนแต่งงานเราพาแฟนไปที่บ้านสองครั้ง ทางบ้านก็ต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ด้วยความต่างจังหวัดละเนอะก็มีการนินทากันเกิดขึ้นแหละ พาผู้ชายมาบ้านไม่แต่งงานอะไรแบบนี้ พ่อแม่พี่น้องก็มาเค้นถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะแต่ง จนเราและแฟนไม่กล้าพากันกลับไปบ้านแล้ว แฟนเลยบอกว่า เราแต่งงานกันเถอะ เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ แฟนก็จัดการพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอแต่ทีนี้ทางบ้านเราก็ประมาณว่าไม่เรียกค่าสินสอดให้จัดมาเองตามความเหมาะสม แต่ก็พูดในลักษณะหน้าที่การทำงานของ นั่นนี่ แฟนเราก้รู้สึกกดดันหนักไปอีก เราสองคนก็มาคุยกัน โดยแม่แฟน ให้ทองมา 3 บาท แฟนบอกกับเราว่าจะไปกู้เงินจากเพื่อนเขามาก่อน แล้วค่อยผ่อนคืน เพราะเงินที่เอาไปลงทุนก็คาดว่าจะได้คืนกลับมาไม่น่าจะนาน เราเลยบอกแฟนว่า เอางี้ เอาเงินจากเราไปดีกว่า เรารู้กันอยู่แค่สองคน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แฟนก็ตกลง และสัญญาว่าจะทยอยคืนให้เราโดยเร็วที่สุด โดยแฟนบอกว่าจะคืนให้เราที่ 500,000 บาท หลังจากงานแต่งงานของเราผ่านไป ทุกอย่างก็ปกติดี ธุรกิจของแฟนก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ระยะเวลาหกเดือน แฟนคืนเงินให้เรามาแล้ว 3แสนบาท ในส่วนของเงินที่ยืมไป ไม่รวมกับที่ให้ใช้จ่ายรายเดือน ในระหว่างนี้แฟนก็ส่งเสียเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี ซื้อทองให้บ้างตามโอกาส แต่ล่าสุดเรากลับบ้านไปหลังปีใหม่ แฟนเราก็ซื้อของไปเหมือนเดิมเยอะแยะมากมาย แต่มีป้าคนนึงที่พ่อแม่ เรานับถือ เขาพูดขึ้นมาว่า ไม่ต้องซื้อของมาสร้างภาพให้ดูรวยหรอก เอาเงินที่ซื้อของมานี้มาคืนเราดีกว่า ของที่ซื้อมาเอาหน้านี้ ก็คือเงินเราอีกใช่ไหม แฟนเราตกใจมากกับคำพูดของป้าเรา โดยที่พ่อแม่เรา ก็นั่งนิ่งเฉย ไม่พูดอะไร ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นแสดงออกชัดเจนมากว่ามีความคิดเดียวกันกับป้าของเรา และอีกคนก็พูดเสริมขึ้นมาว่าทำเป็นให้สินสอดเยอะแยะมากมายสุดท้ายก็เกาะผู้หญิงกิน ซึ่งทุกคนไม่รู้เลยว่าแฟนเราทำงานอะไร เอาแต่พูดๆจนเราเองทนไม่ไหว ก็เลยสวนกลับพวกป้าๆไปหนักเหมือนกัน แต่เค้าก็พยายามโยนความผิดทุกอย่างมาที่แฟนเราว่าเราเปลี่ยนไปเพราะแฟน ปกติเราเป็นคนที่พูดน้อยมาก จะยิ้มอย่างเดียวไม่เคยด่าใคร แต่รอบนี้คือเราต้องปกป้องแฟนเรา เพราะเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย พ่อแม่เราเองก็เป็นไปกับญาติๆด้วย แต่ไม่ถึงขั้นด่าแฟนเรา เราไล่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นกลับไปหมดเลยค่ะ แล้วเราก็คุยกับพ่อแม่เราแทน อธิบายทุกอย่างให้เขาฟังถึงเรื่องทั้งหมด แต่เขาดูนิ่งเฉยมาก เหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เรากำลังอธิบาย เขาพูดแค่คำเดียวว่า เขาอายคนอื่นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว เราเลยบอกว่าไม่เป็นไรงั้นถ้าไม่สบายใจ เราจะได้มาอีกทีปีใหม่ปีหน้าก็ได้ เขาบอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ เรานี่แบบอะไรว้า คนอื่นสำคัญกว่าเรางั้นหรอที่เราทำดี ส่งเสียเลี้ยงดูเสมอมา มันไม่ได้ทำให้เขานึกถึงเลยหรอ เราเดินทางมามากกว่าพันกิโล เพื่อมาเจออะไรแบบนี้หรอ สงสารแฟนมากค่ะ สุดท้ายแล้วคนที่กระจายข่าวเรื่องนี้คือพี่สาวเราเอง เราไว้ใจเขาเล่าให้เขาฟังไม่คิดว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นแฟนเราเสียใจมาก เขาดูเศร้าตลอดเลยค่ะ เราจะทำยังไงดีค่ะ ให้แฟนรู้สึกดีขึ้นได้บ้าน นี่ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว เราพยายามปลอบเขา แต่เขาคงเสียความรู้สึกมากจริงๆ เราจะฮิลใจเขายังไงดีค่ะ เรารู้สึกไม่ดีเลย
ผิดด้วยหรอ ที่ผู้หญิงให้ผู้ชายยืมค่าสินสอด
คือเราอายุ 31ปี แฟนอายุ 41 ปี และเราสองคนก็แต่งงานกันมาได้ประมาณ 1ปีกว่าแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ที่บ้านของเราและญาติพี่น้องก็ดีกับแฟนเรามากๆค่ะ เพราะแฟนเราเป็นคนใจกว้างมากๆค่ะ เวลาไปที่บ้านก็จะซื้อของกินของฝากให้พ่อแม่ และญาติพี่น้องเรากินกันจุกๆตลอด ตอนที่เราแต่งงานแฟนให้ค่าสินสอดเราเป็นเงินสด 350,000 บาท + ทอง 5 บาท ทางบ้านเราก็พอใจกับค่าสินสอดตรงนี้มาก เพราะว่าเราเป็นคนต่างจังหวัดการได้ค่าสินสอดประมาณนี้ถือว่าเยอะมากๆค่ะเป็นหน้าเป็นตาให้กับพ่อแม่ได้มาก บวกกับว่าเราเป็นลูกคนสุดท้อง การทำงานค่อนไปในทางที่ดีเลยค่ะ เราทำงานที่กรุงเทพ เงินที่หาได้ในแต่ละเดือนก็ราว 6หมื่นกว่า เราส่งเสียที่บ้านเป็นอย่างดี เงินค่าสินสอดพ่อแม่คืนให้เรามาบางส่วน เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานก็เอาเงินค่าสินสอดมาใช้ แต่ทองก็ให้เรากลับมาหมด ณ ตอนนั้นทุกคนมองว่าแฟนเราเป็นคนค่อนข้างฐานะดี ที่หาสินสอดมาให้เราได้ขนาดนี้ แต่ความจริงแล้ว ค่าสินสอดทั้งหมดเป็นของเราค่ะ เราเป็นคนออกให้แฟนก่อน เนื่องจากตอนนั้นแฟนทำธุระทางด้านขนส่ง แล้วทำให้ต้องใช้เงินที่มีอยู่นั้นลงทุนไปค่อนข้างเยอะ ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของแฟนไม่ค่อยจะดีนัก ก่อนแต่งงานเราพาแฟนไปที่บ้านสองครั้ง ทางบ้านก็ต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ด้วยความต่างจังหวัดละเนอะก็มีการนินทากันเกิดขึ้นแหละ พาผู้ชายมาบ้านไม่แต่งงานอะไรแบบนี้ พ่อแม่พี่น้องก็มาเค้นถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะแต่ง จนเราและแฟนไม่กล้าพากันกลับไปบ้านแล้ว แฟนเลยบอกว่า เราแต่งงานกันเถอะ เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ แฟนก็จัดการพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอแต่ทีนี้ทางบ้านเราก็ประมาณว่าไม่เรียกค่าสินสอดให้จัดมาเองตามความเหมาะสม แต่ก็พูดในลักษณะหน้าที่การทำงานของ นั่นนี่ แฟนเราก้รู้สึกกดดันหนักไปอีก เราสองคนก็มาคุยกัน โดยแม่แฟน ให้ทองมา 3 บาท แฟนบอกกับเราว่าจะไปกู้เงินจากเพื่อนเขามาก่อน แล้วค่อยผ่อนคืน เพราะเงินที่เอาไปลงทุนก็คาดว่าจะได้คืนกลับมาไม่น่าจะนาน เราเลยบอกแฟนว่า เอางี้ เอาเงินจากเราไปดีกว่า เรารู้กันอยู่แค่สองคน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แฟนก็ตกลง และสัญญาว่าจะทยอยคืนให้เราโดยเร็วที่สุด โดยแฟนบอกว่าจะคืนให้เราที่ 500,000 บาท หลังจากงานแต่งงานของเราผ่านไป ทุกอย่างก็ปกติดี ธุรกิจของแฟนก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ระยะเวลาหกเดือน แฟนคืนเงินให้เรามาแล้ว 3แสนบาท ในส่วนของเงินที่ยืมไป ไม่รวมกับที่ให้ใช้จ่ายรายเดือน ในระหว่างนี้แฟนก็ส่งเสียเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี ซื้อทองให้บ้างตามโอกาส แต่ล่าสุดเรากลับบ้านไปหลังปีใหม่ แฟนเราก็ซื้อของไปเหมือนเดิมเยอะแยะมากมาย แต่มีป้าคนนึงที่พ่อแม่ เรานับถือ เขาพูดขึ้นมาว่า ไม่ต้องซื้อของมาสร้างภาพให้ดูรวยหรอก เอาเงินที่ซื้อของมานี้มาคืนเราดีกว่า ของที่ซื้อมาเอาหน้านี้ ก็คือเงินเราอีกใช่ไหม แฟนเราตกใจมากกับคำพูดของป้าเรา โดยที่พ่อแม่เรา ก็นั่งนิ่งเฉย ไม่พูดอะไร ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นแสดงออกชัดเจนมากว่ามีความคิดเดียวกันกับป้าของเรา และอีกคนก็พูดเสริมขึ้นมาว่าทำเป็นให้สินสอดเยอะแยะมากมายสุดท้ายก็เกาะผู้หญิงกิน ซึ่งทุกคนไม่รู้เลยว่าแฟนเราทำงานอะไร เอาแต่พูดๆจนเราเองทนไม่ไหว ก็เลยสวนกลับพวกป้าๆไปหนักเหมือนกัน แต่เค้าก็พยายามโยนความผิดทุกอย่างมาที่แฟนเราว่าเราเปลี่ยนไปเพราะแฟน ปกติเราเป็นคนที่พูดน้อยมาก จะยิ้มอย่างเดียวไม่เคยด่าใคร แต่รอบนี้คือเราต้องปกป้องแฟนเรา เพราะเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย พ่อแม่เราเองก็เป็นไปกับญาติๆด้วย แต่ไม่ถึงขั้นด่าแฟนเรา เราไล่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นกลับไปหมดเลยค่ะ แล้วเราก็คุยกับพ่อแม่เราแทน อธิบายทุกอย่างให้เขาฟังถึงเรื่องทั้งหมด แต่เขาดูนิ่งเฉยมาก เหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เรากำลังอธิบาย เขาพูดแค่คำเดียวว่า เขาอายคนอื่นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว เราเลยบอกว่าไม่เป็นไรงั้นถ้าไม่สบายใจ เราจะได้มาอีกทีปีใหม่ปีหน้าก็ได้ เขาบอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ เรานี่แบบอะไรว้า คนอื่นสำคัญกว่าเรางั้นหรอที่เราทำดี ส่งเสียเลี้ยงดูเสมอมา มันไม่ได้ทำให้เขานึกถึงเลยหรอ เราเดินทางมามากกว่าพันกิโล เพื่อมาเจออะไรแบบนี้หรอ สงสารแฟนมากค่ะ สุดท้ายแล้วคนที่กระจายข่าวเรื่องนี้คือพี่สาวเราเอง เราไว้ใจเขาเล่าให้เขาฟังไม่คิดว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นแฟนเราเสียใจมาก เขาดูเศร้าตลอดเลยค่ะ เราจะทำยังไงดีค่ะ ให้แฟนรู้สึกดีขึ้นได้บ้าน นี่ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว เราพยายามปลอบเขา แต่เขาคงเสียความรู้สึกมากจริงๆ เราจะฮิลใจเขายังไงดีค่ะ เรารู้สึกไม่ดีเลย