ผมกับแฟนคบกันได้เมื่อสิ้นเดือนกรกฏาคม ประมาณ2ปีที่เเล้ว เราผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้ว ก็ยังแฮปปี้กันดี ปรับจูนเข้าหากัน ผ่านอะไรร้ายๆมาด้วยกันเยอะ เเต่รอบนี้ทำผมอึ้งไปเลยครับ (ยาวหน่อยนะครับ)
คือปัญหาเรื่องซึมเศร้าของแฟนผมมันไม่ได้จู่ๆก็เป็นขึ้นมาครับ เหตุมันเกิดจากหลายๆอย่างแต่ส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องปัญหาภายในครอบครัวทางนั้นน่ะครับ ซึ่งในตอนเเรกผมถือตัวว่าผมเป็นคนนอกเลยไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของครอบครัวเขา ด้วยความที่เเฟนผมเติบโตมาโดยที่คุณแม่เค้าไม่ค่อยมอบความรักให้เท่าไหร่ครับ ออกไปทำงาน ฝากลูกไว้กับคนใช้ในบ้าน เเล้วพอเเต่งงานใหม่ ก็ไม่ยอมพาแฟนผมที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กไปด้วย เพราะบอกว่ากลัวครอบครัวทางนั้นไม่สบายใจ พอไปอยู่โรงเรียนประจำก็โดนบูลลี่จากเพื่อนและรุ่นพี่อีกเพราะชอบเเต่งตัวน่ารัก แล้วปัญหามันก็บานปลายมาถึงขั้นที่ปัจจุบันหลังจากแฟนผมไปหาหมอจิตแพทย์พบว่ามีอาการซึมเศร้าร้ายเเรง ผมก็พยายามให้กำลังใจเขา รับฟังเขา เเต่ก็มีเรื่องนึงที่ผมมักทำให้ไม่ค่อยได้ คือ ด้วยความที่ผมเนี่ยอายุ21ส่วนแฟน30 มันมีความห่างของอายุอยู่ ผมยังเป็นคนเรียนไม่จบ ผมมีขีดจำกัดในการเดินทงเอยอะไรเอยอยู่ เพราะผมก็ไม่ได้มีรถเป็นของตัวเอง ผมมีหมาตัวโตของผมที่ต้องรับผิดชอบ เลยออกจากบ้านไปนานๆไม่ได้นัก ถ้าจะค้างบ้านแฟนต้องฝากพ่อแม่ไว้ แล้วนั่งรถหลายๆต่อไปเองเพื่อประหยัดตัง แต่ดูเหมือนผมจะเติมเต็มความต้องการของเขาไม่ได้ เขาต้องการคนที่พร้อมซัพพอร์ตตัวเขาแบบ ถ้าเหนื่อยก็จะมารับไปส่งพาไปนู่นนี่นั่น หรือแบบอยากได้คนที่พร้อมอยู่เวลานั้นได้เลย แต่ผมเจ็บใจที่ผมทำให้แบบนั้นไม่ค่อยได้ เพราะผมตอนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากธีสิตเรียนจบที่กำลังทำอยู่กับรับเปิดcommission จนกระทั่งวันล่าสุดที่ผมกับเขา เขาบอกว่าวันที่เค้าทะเลากับครอบครัวหนักมากเเล้วเค้าเครียด เค้าเลยไปเมาข้างนอกแล้วดันไปมีอะไรกับคนอื่น(แต่ใส่ถุงยางนะครับ) เค้าเลยอยากบอกเลิกกับผม เพราะเค้ารับตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นในหัวผมขาวโพลนไปหมด ก่อนจะตั้งสติได้แล้วพยายามถามไถ่เค้าต่อโดยไม่ได้โวยวายอะไร
ไม่รู้ว่าแปลกไหมเเต่ผมอยากที่จะให้อภัยแฟนผม ผมเชื่อว่าคนเรามันต้องมีพลาดพลั้งไปทำเรื่องอะไรแย่ๆสักสองสามเรื่องในชีวิตกันบ้าง เเต่มันก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้เราเติบโตขึ้น แล้วไม่ไปทำมันอีก ผมเชื่อเเบบนั้น ผมเลยให้อภัยเค้าไป แต่ถ้าว่าโกรธไหม แวบแรกอะครับ ใช่ แต่ผมรู้ดีว่าเค้ามีปัญหารุมเร้า ผมเลยโกรธต่อไม่ลง และผมคุยกับเค้าว่า จะไม่ไปทำอะไรแบบนี้ ผมให้เค้าสัญญาแบบนั้น เพราะนางพึ่งเคยทำไปครั้งเเรกตอนเมาเมื่อไม่สัปดาห์ก่อน ส่วนเรื่องโรคซึมเศร้าที่ทำชีวิตเค้าพังตอนนี้ ผมและคนที่เป็นห่วงนางคนอื่นๆจะคอยซัพพอร์ตและผ่านมันไปด้วยกันเอง
สรุปจนจบ ผมไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ผมทำมันถูกต้องรึเปล่า มันดีเเล้วรึเปล่า ผมทำหน้าที่แฟนได้ดีพอไหม ตอนนี้ผมพยายามเตรียมพอร์ตที่จะหางานก่อนเรียนจบซะอีก เพราะ จะมีการมีงานและรับผิดชอบตัวเองแล้วสัตว์เลี้ยงของผมได้ แน่นอนว่าเอาไว้เเบ่งเบาภาระแฟนด้วย ผมพยายามที่จะเก็บตังซื้อบ้านเเถวไม่ใหญ่โตมากมาอยู่ด้วยกัน เพราะตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงจะไม่ได้ใหญ่อะไรมากเเต่มันก็ทำให้พวกเราอยู่ด้วยได้ ทุกคนคิดว่าสิ่งที่ผมทำลงไปและคิดจะทำต่อจากนี้ มันดีเเล้วรึเปล่าครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ
ขอคำปรึกษาครับ แฟนผมเป็นซึมเศร้าร้ายเเรง และนางสารภาพออกมาว่าพลาดไปมีอะไรกับคนอื่นเข้าครับ
คือปัญหาเรื่องซึมเศร้าของแฟนผมมันไม่ได้จู่ๆก็เป็นขึ้นมาครับ เหตุมันเกิดจากหลายๆอย่างแต่ส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องปัญหาภายในครอบครัวทางนั้นน่ะครับ ซึ่งในตอนเเรกผมถือตัวว่าผมเป็นคนนอกเลยไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของครอบครัวเขา ด้วยความที่เเฟนผมเติบโตมาโดยที่คุณแม่เค้าไม่ค่อยมอบความรักให้เท่าไหร่ครับ ออกไปทำงาน ฝากลูกไว้กับคนใช้ในบ้าน เเล้วพอเเต่งงานใหม่ ก็ไม่ยอมพาแฟนผมที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กไปด้วย เพราะบอกว่ากลัวครอบครัวทางนั้นไม่สบายใจ พอไปอยู่โรงเรียนประจำก็โดนบูลลี่จากเพื่อนและรุ่นพี่อีกเพราะชอบเเต่งตัวน่ารัก แล้วปัญหามันก็บานปลายมาถึงขั้นที่ปัจจุบันหลังจากแฟนผมไปหาหมอจิตแพทย์พบว่ามีอาการซึมเศร้าร้ายเเรง ผมก็พยายามให้กำลังใจเขา รับฟังเขา เเต่ก็มีเรื่องนึงที่ผมมักทำให้ไม่ค่อยได้ คือ ด้วยความที่ผมเนี่ยอายุ21ส่วนแฟน30 มันมีความห่างของอายุอยู่ ผมยังเป็นคนเรียนไม่จบ ผมมีขีดจำกัดในการเดินทงเอยอะไรเอยอยู่ เพราะผมก็ไม่ได้มีรถเป็นของตัวเอง ผมมีหมาตัวโตของผมที่ต้องรับผิดชอบ เลยออกจากบ้านไปนานๆไม่ได้นัก ถ้าจะค้างบ้านแฟนต้องฝากพ่อแม่ไว้ แล้วนั่งรถหลายๆต่อไปเองเพื่อประหยัดตัง แต่ดูเหมือนผมจะเติมเต็มความต้องการของเขาไม่ได้ เขาต้องการคนที่พร้อมซัพพอร์ตตัวเขาแบบ ถ้าเหนื่อยก็จะมารับไปส่งพาไปนู่นนี่นั่น หรือแบบอยากได้คนที่พร้อมอยู่เวลานั้นได้เลย แต่ผมเจ็บใจที่ผมทำให้แบบนั้นไม่ค่อยได้ เพราะผมตอนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากธีสิตเรียนจบที่กำลังทำอยู่กับรับเปิดcommission จนกระทั่งวันล่าสุดที่ผมกับเขา เขาบอกว่าวันที่เค้าทะเลากับครอบครัวหนักมากเเล้วเค้าเครียด เค้าเลยไปเมาข้างนอกแล้วดันไปมีอะไรกับคนอื่น(แต่ใส่ถุงยางนะครับ) เค้าเลยอยากบอกเลิกกับผม เพราะเค้ารับตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นในหัวผมขาวโพลนไปหมด ก่อนจะตั้งสติได้แล้วพยายามถามไถ่เค้าต่อโดยไม่ได้โวยวายอะไร
ไม่รู้ว่าแปลกไหมเเต่ผมอยากที่จะให้อภัยแฟนผม ผมเชื่อว่าคนเรามันต้องมีพลาดพลั้งไปทำเรื่องอะไรแย่ๆสักสองสามเรื่องในชีวิตกันบ้าง เเต่มันก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้เราเติบโตขึ้น แล้วไม่ไปทำมันอีก ผมเชื่อเเบบนั้น ผมเลยให้อภัยเค้าไป แต่ถ้าว่าโกรธไหม แวบแรกอะครับ ใช่ แต่ผมรู้ดีว่าเค้ามีปัญหารุมเร้า ผมเลยโกรธต่อไม่ลง และผมคุยกับเค้าว่า จะไม่ไปทำอะไรแบบนี้ ผมให้เค้าสัญญาแบบนั้น เพราะนางพึ่งเคยทำไปครั้งเเรกตอนเมาเมื่อไม่สัปดาห์ก่อน ส่วนเรื่องโรคซึมเศร้าที่ทำชีวิตเค้าพังตอนนี้ ผมและคนที่เป็นห่วงนางคนอื่นๆจะคอยซัพพอร์ตและผ่านมันไปด้วยกันเอง
สรุปจนจบ ผมไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ผมทำมันถูกต้องรึเปล่า มันดีเเล้วรึเปล่า ผมทำหน้าที่แฟนได้ดีพอไหม ตอนนี้ผมพยายามเตรียมพอร์ตที่จะหางานก่อนเรียนจบซะอีก เพราะ จะมีการมีงานและรับผิดชอบตัวเองแล้วสัตว์เลี้ยงของผมได้ แน่นอนว่าเอาไว้เเบ่งเบาภาระแฟนด้วย ผมพยายามที่จะเก็บตังซื้อบ้านเเถวไม่ใหญ่โตมากมาอยู่ด้วยกัน เพราะตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงจะไม่ได้ใหญ่อะไรมากเเต่มันก็ทำให้พวกเราอยู่ด้วยได้ ทุกคนคิดว่าสิ่งที่ผมทำลงไปและคิดจะทำต่อจากนี้ มันดีเเล้วรึเปล่าครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ