ตาต้าสุกี้
ร้านสุกี้สไตล์กวางตุ้งอันเก่าแก่บนถนนที่มุ่งสู่ชายหาดพัทยากลาง
ซึ่งเอ่อ พอเปิดประตูเข้าไปก็เก่าแก่จริง ๆ ตัวอาคารยังคงเอกลักษณ์ของตึกสมัย 30-40 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี
สุกี้ตาต้าแม้จะเป็นสุกี้สไตล์กวางตุ้ง แต่พอน้ำจิ้มสุกี้ยกมาเสริฟผมกลับมองไม่เห็นเมล็ดงา
และสีน้ำจิ้มก็เข้มกว่าน้ำจิ้มสุกี้สไตล์กวางตุ้งอื่น ๆ แบบที่ผมเคยกิน
มันดูแปลก ๆ แหะ ผมคิดในใจพร้อมกับหยิบตะเกียบในมือขึ้นมาจิ้มลงไปในถ้วนน้ำจิ้ม
อร่อยยยยยย ผมหลับตาพริ้มพร้อมกับจิตใจที่ปลดปล่อยและล่องลอยไปสู่สวรรค์ชั้นกามาพจร
นี้มันน้ำจิ้มสุกี้ในฝันของผม
เพราะน้ำจิ้มของตาต้าสุกี้แม้จะจัดหมวดอยู่ในน้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้ง
ที่ควรจะมีรสหวานและเปรี้ยวเป็นตัวนำและตามมาด้วยความเผ็ดเนื่องจากเบสหลักเป็นซอสพริกกับน้ำส้มสายชู
แต่กับน้ำจิ้มสุกี้ของตาต้ากับมีรสของเต้าหู้ยี้ตัดเข้ามาด้วยอย่างพอดี
แถมด้วยความเผ็ดที่มากกว่าน้ำจิ้มสุกี้ทั่วไปเล็กน้อย มันจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว
และกลายเป็นน้ำจิ้มที่ครบรส และเหมาะกับลิ้นของคนไทยยิ่งนัก
สำหรับน้ำซุปของสุกี้ตาต้านั้นก็ดีงาม ตัวซุปรสชาติเบสเป็นน้ำซุปผักกลิ่นหอมจาง ๆ รสหวานนิด ๆ
ใสและเคลียร์ ไม่เค็ม
จนรู้สึกว่านี้มันเป็นออนเซ็นแห่งวงการสุกี้ที่คุณจะสามารถใช้มันผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าหลังจากกรำงานหนักได้เป็นอย่างดี
สำหรับวัตถุดิบที่ใส่ลงในหม้อของสุกี้ของตาต้านั้น จัดว่าเป็นของดีและสด
ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก หรือ ปลาเก๋า สัมผัสได้ถึงความสดใหม่ และคุณภาพดี
ปลาหมึกที่ได้กลิ่นและรสของปลาหมึก ไม่ใช่ปลากหมึกบั้ง หรือ ปลาหมึกวง
ที่ได้เพียงความเหนียวและไร้รสชาติที่ไม่ต่างอะไรกับการเคี้ยวหมากฝรั่งที่หมดความหวานไปแล้ว
เนื้อวัวหมักของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้กัน ทางร้านหมักมาได้พอดีเนื้อวัวนุ่มแต่ยังคงกลิ่นและรสอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อเอาไว้
และเป็นวัตถุดิบที่คุณไม่ควรปล่อยมันทิ้งไว้ในหม้อให้เนิ่นนาน เพราะนอกจากจะทำให้เสียรสสัมผัสอันนุ่มนวลไป
แต่คุณอาจจะต้องเสียใจเพราะไอ้คนตรงข้ามมันคีบเนื้อตัดหน้าคุณไปต่อหน้าต่อตา
ที่ดีงามอีกอย่างหนึ่งคือ ลูกชิ้นหมูอร่อย ที่ผมดูตอนแรกก็ยังงง
อร่อยจริง ๆ หรือฟ่ะ เพราะตัวลูกชิ้นที่ถูกเสริฟมา
รูปลักษณะมันเหมือนหมูสับผสมหมูเด้งปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนจะไม่อร่อย
แต่กลายเป็นว่าหลังจากตักลูกชิ้นเข้าปากรสชาติกลมกล่อมที่มันถูกซ่อนเอาไว้ในตัวลูกชิ้นกลับทะลักทะล้นออกมาปะทะกับกระพุ้งแก้มของผม
จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจขอเพิ่มลูกชิ้นมาอีก 1 จาน
เนื่องจากทางร้านไม่ได้มีแต่เพียงสุกี้ แต่ยังมีอาหารจีนด้วย
ผมจึงลองสั่งเนื้อวัวผัดน้ำมันหอย กับปูจ๋า มาทดลองด้วยเช่นกัน
สำหรับเนื้อวัวผัดน้ำมันหอยนั้นผมให้ผ่าน เนื้อวัวถูกหมักมากก่อนผัดและเข้ากับได้ดีกับต้มหอม น้ำมันหอยและซีอิ้ว
แต่กับปูจ๋า รสของปูรวมถึงหมู ล้วนถูกกลบด้วยพริกไทย
จนผมไม่แน่ใจว่านี้ผมกินอะไรอยู่ มันเผ็ดพริกไทยจนผมนึกไปถึงก๊วยจับน้ำใสของนายอ้วนที่เยาราช
อย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับสุกี้ตาต้า ก็จัดว่าเป็นอาหารที่ดีสำหรับผม
แม้สนนราคาจะแพงเอาเรื่อง คิดหารเฉลี่ยแล้วก็ตกหัวละ 800
เรียกได้ว่าโชคดีที่มีคนหาร มองในแง่ดีก็อาจเป็นเพราะร้านเขาอยู่ใกล้ทะเลจนเกินไป
กับร้านเองตั้งอยู่กลางดงแหล่งท่องเที่ยว ค่าที่คงไม่ถูก
เอาน่ายังไงมื้อนี้มันก็คือความสุขละนะ
สรุปได้ว่ายังไงก็เป็นร้านที่ควรลอง แต่อาจต้องเตรียมตังค์ไปเยอะหน่อย
#กินข้าวกับอาเฮีย
#เหล็กไม่เอาถ่าน
ตาต้าสุกี้ พัทยา
ร้านสุกี้สไตล์กวางตุ้งอันเก่าแก่บนถนนที่มุ่งสู่ชายหาดพัทยากลาง
ซึ่งเอ่อ พอเปิดประตูเข้าไปก็เก่าแก่จริง ๆ ตัวอาคารยังคงเอกลักษณ์ของตึกสมัย 30-40 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี
สุกี้ตาต้าแม้จะเป็นสุกี้สไตล์กวางตุ้ง แต่พอน้ำจิ้มสุกี้ยกมาเสริฟผมกลับมองไม่เห็นเมล็ดงา
และสีน้ำจิ้มก็เข้มกว่าน้ำจิ้มสุกี้สไตล์กวางตุ้งอื่น ๆ แบบที่ผมเคยกิน
มันดูแปลก ๆ แหะ ผมคิดในใจพร้อมกับหยิบตะเกียบในมือขึ้นมาจิ้มลงไปในถ้วนน้ำจิ้ม
อร่อยยยยยย ผมหลับตาพริ้มพร้อมกับจิตใจที่ปลดปล่อยและล่องลอยไปสู่สวรรค์ชั้นกามาพจร
นี้มันน้ำจิ้มสุกี้ในฝันของผม
เพราะน้ำจิ้มของตาต้าสุกี้แม้จะจัดหมวดอยู่ในน้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้ง
ที่ควรจะมีรสหวานและเปรี้ยวเป็นตัวนำและตามมาด้วยความเผ็ดเนื่องจากเบสหลักเป็นซอสพริกกับน้ำส้มสายชู
แต่กับน้ำจิ้มสุกี้ของตาต้ากับมีรสของเต้าหู้ยี้ตัดเข้ามาด้วยอย่างพอดี
แถมด้วยความเผ็ดที่มากกว่าน้ำจิ้มสุกี้ทั่วไปเล็กน้อย มันจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว
และกลายเป็นน้ำจิ้มที่ครบรส และเหมาะกับลิ้นของคนไทยยิ่งนัก
สำหรับน้ำซุปของสุกี้ตาต้านั้นก็ดีงาม ตัวซุปรสชาติเบสเป็นน้ำซุปผักกลิ่นหอมจาง ๆ รสหวานนิด ๆ
ใสและเคลียร์ ไม่เค็ม
จนรู้สึกว่านี้มันเป็นออนเซ็นแห่งวงการสุกี้ที่คุณจะสามารถใช้มันผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าหลังจากกรำงานหนักได้เป็นอย่างดี
สำหรับวัตถุดิบที่ใส่ลงในหม้อของสุกี้ของตาต้านั้น จัดว่าเป็นของดีและสด
ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก หรือ ปลาเก๋า สัมผัสได้ถึงความสดใหม่ และคุณภาพดี
ปลาหมึกที่ได้กลิ่นและรสของปลาหมึก ไม่ใช่ปลากหมึกบั้ง หรือ ปลาหมึกวง
ที่ได้เพียงความเหนียวและไร้รสชาติที่ไม่ต่างอะไรกับการเคี้ยวหมากฝรั่งที่หมดความหวานไปแล้ว
เนื้อวัวหมักของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้กัน ทางร้านหมักมาได้พอดีเนื้อวัวนุ่มแต่ยังคงกลิ่นและรสอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อเอาไว้
และเป็นวัตถุดิบที่คุณไม่ควรปล่อยมันทิ้งไว้ในหม้อให้เนิ่นนาน เพราะนอกจากจะทำให้เสียรสสัมผัสอันนุ่มนวลไป
แต่คุณอาจจะต้องเสียใจเพราะไอ้คนตรงข้ามมันคีบเนื้อตัดหน้าคุณไปต่อหน้าต่อตา
ที่ดีงามอีกอย่างหนึ่งคือ ลูกชิ้นหมูอร่อย ที่ผมดูตอนแรกก็ยังงง
อร่อยจริง ๆ หรือฟ่ะ เพราะตัวลูกชิ้นที่ถูกเสริฟมา
รูปลักษณะมันเหมือนหมูสับผสมหมูเด้งปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนจะไม่อร่อย
แต่กลายเป็นว่าหลังจากตักลูกชิ้นเข้าปากรสชาติกลมกล่อมที่มันถูกซ่อนเอาไว้ในตัวลูกชิ้นกลับทะลักทะล้นออกมาปะทะกับกระพุ้งแก้มของผม
จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจขอเพิ่มลูกชิ้นมาอีก 1 จาน
เนื่องจากทางร้านไม่ได้มีแต่เพียงสุกี้ แต่ยังมีอาหารจีนด้วย
ผมจึงลองสั่งเนื้อวัวผัดน้ำมันหอย กับปูจ๋า มาทดลองด้วยเช่นกัน
สำหรับเนื้อวัวผัดน้ำมันหอยนั้นผมให้ผ่าน เนื้อวัวถูกหมักมากก่อนผัดและเข้ากับได้ดีกับต้มหอม น้ำมันหอยและซีอิ้ว
แต่กับปูจ๋า รสของปูรวมถึงหมู ล้วนถูกกลบด้วยพริกไทย
จนผมไม่แน่ใจว่านี้ผมกินอะไรอยู่ มันเผ็ดพริกไทยจนผมนึกไปถึงก๊วยจับน้ำใสของนายอ้วนที่เยาราช
อย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับสุกี้ตาต้า ก็จัดว่าเป็นอาหารที่ดีสำหรับผม
แม้สนนราคาจะแพงเอาเรื่อง คิดหารเฉลี่ยแล้วก็ตกหัวละ 800
เรียกได้ว่าโชคดีที่มีคนหาร มองในแง่ดีก็อาจเป็นเพราะร้านเขาอยู่ใกล้ทะเลจนเกินไป
กับร้านเองตั้งอยู่กลางดงแหล่งท่องเที่ยว ค่าที่คงไม่ถูก
เอาน่ายังไงมื้อนี้มันก็คือความสุขละนะ
สรุปได้ว่ายังไงก็เป็นร้านที่ควรลอง แต่อาจต้องเตรียมตังค์ไปเยอะหน่อย
#กินข้าวกับอาเฮีย
#เหล็กไม่เอาถ่าน