เรากับแฟนคบกันมาได้ 4 ปี แฟนอายุ 45 ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้ บ นึงแบบจ้างฟรีแล้นซ์ ไม่ประจำ เงินเดือน 100k แต่มีภาระต่อเดือนก็เยอะ ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ส้งเงินเลี้ยงแม่กับพ่อ เฉลี่ยรวมๆกันประมาน 60k และมีหนี้ทางธุรกิจอยู่ 2ล้าน ที่ต้องผ่อนจ่ายไปเรื่อยๆ เพราะทำธุรกิจเจ๊ง ติดบูโรทุกธนาคาร แฟนเราจบ ม.6 ไม่ได้มีความสามารถใดๆ นอกจากเรื่องบริหาร
พื้นฐานทางบ้านเค้าค่อนไปทางลำบาก แต่เขาสร้างตัวเองได้
เราอายุ 32 เป็นฟรีแล้นเหมือนกัน ทำงานเกี่ยวกับความสวยงาม เจอคนเยอะ ทำงานเกี่ยวกับการพูด เราพูดได้ 3 ภาษา จบนอก เงินเดือนเฉลี่ยประมาน 80k. ไม่มีภาระทั้งบ้าน รถ ไม่มีหนี้ เพราะที่บ้านค่อนข้างมีฐานะปานกลาง และทางบ้านไม่มีหนี้เช่นกัน เรียกว่า ต้นทุนชีวิตเราดีแล้วกัน
ตอนแรกเราตัดสินใจคบเค้าเพราะว่าตอนนั้นเค้ามีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าที่การงาน และนิสัยเค้าเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่กินเหล้า ไม่ติดเพื่อน ดูแลเทกแคร์เราดีมาก แต่พอคบไปสักพักบริษัทเค้าเจ๊งแล้วเป็นหนี้แบบที่เล่าไปตอนต้น
นิสัยเค้าก็เริ่มเปลี่ยนกลายเป็นคนขี้โมโห ขี้น้อยใจ
ขี้ระแวงกลัวเราทิ้ง เลยกลายเป็นคนขี้หึงไปโดยปริยาย
และด้วยความที่งานเราต้องใช้เรื่องเกี่ยวกับหน้าตา การเข้าสังคม เราหน้าตาดีเลยมีคนมาเต๊าะประจำ แต่เราไม่ได้เล่นด้วย วางตัวปกติตามมารยาทสังคม แต่แฟนเราขี้หึงมาก ทำให้ทะเลาะเรื่องนี้เป็นประจำ ทำให้เราไม่สบายใจในการทำงานบ่อยๆ เลยรู้สึกว่ามันกระทบความสบายใจในการทำงานของเรา
เราเป็นคนผูกคุณค่าไว้กับงานค่ะ เพราะงาน= เงิน
เลยไม่ชอบให้เค้ามาก้าวก่ายงานเรา
และสำหรับเรา นิยามความรักของเราคือ ต้องมีเงินมากกว่าเรา และดูแลเราได้ดีกว่าเราดูแลตัวเอง ซึ่งตอนคบกันแรกๆ เค้าคือคนนั้นค่ะ แต่พอบ.เจ๊ง ก็รู้สึกว่าเค้าไม่ตอบโจทย์แล้ว แต่ก็ยังรักเลยให้โอกาสมาเรื่อยๆ
และที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราเกาะเค้าฝ่ายเดียวนะคะ ตอนเค้าล้มเราก็ให้ยืมเงิน และประคับประคองเค้าไปด้วย เพราะคิดว่าคงไม่นานก็ฟื้นตัวได้ ก็พยายามให้กำลังใจ ช่วยอะไรได้ก็ช่วย แต่พอนานๆไปถึงจุดนึง มันไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาดีเหมือนตอนแรกเลย ยิ่งนานไปยิ่งทะเลาะกันทั้งเรื่องเงิน
เพราะเราอยากแต่งงานสร้างครอบครัว อยากมีลูก แต่เค้าอายุนานวันก็เยอะขึ้น แรงก็น้อยลง เป็นหนี้แบบนี้เราก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นคงไม่มั่นใจ ทั้งอาชีพที่ไม่แน่นอนของเค้า ถ้ามีลูกเราทำงานไม่ได้จะหาเงินจากไหน
ณ ตอนนี้เรียกว่าเราได้เปรียบเค้าเยอะมากค่ะ
ทั้งสภาพคล่องทางการเงิน อายุ การงาน หน้าตา
บอกตรงๆ เรากลัวอนาคตเราเหนื่อยค่ะ ทั้งๆที่ชีวิตเราสามารถเลือกได้มากกว่านี้ เราผิดไหมคะ ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองคือการเลิกกับเค้า ไปใช้ชีวิตคนเดียว ไปในที่อยากไป ทำอะไรที่อยากทำ
ตัดสินใจแบบนี้เห็นแก่ตัวไหม ?
พื้นฐานทางบ้านเค้าค่อนไปทางลำบาก แต่เขาสร้างตัวเองได้
เราอายุ 32 เป็นฟรีแล้นเหมือนกัน ทำงานเกี่ยวกับความสวยงาม เจอคนเยอะ ทำงานเกี่ยวกับการพูด เราพูดได้ 3 ภาษา จบนอก เงินเดือนเฉลี่ยประมาน 80k. ไม่มีภาระทั้งบ้าน รถ ไม่มีหนี้ เพราะที่บ้านค่อนข้างมีฐานะปานกลาง และทางบ้านไม่มีหนี้เช่นกัน เรียกว่า ต้นทุนชีวิตเราดีแล้วกัน
ตอนแรกเราตัดสินใจคบเค้าเพราะว่าตอนนั้นเค้ามีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าที่การงาน และนิสัยเค้าเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่กินเหล้า ไม่ติดเพื่อน ดูแลเทกแคร์เราดีมาก แต่พอคบไปสักพักบริษัทเค้าเจ๊งแล้วเป็นหนี้แบบที่เล่าไปตอนต้น
นิสัยเค้าก็เริ่มเปลี่ยนกลายเป็นคนขี้โมโห ขี้น้อยใจ
ขี้ระแวงกลัวเราทิ้ง เลยกลายเป็นคนขี้หึงไปโดยปริยาย
และด้วยความที่งานเราต้องใช้เรื่องเกี่ยวกับหน้าตา การเข้าสังคม เราหน้าตาดีเลยมีคนมาเต๊าะประจำ แต่เราไม่ได้เล่นด้วย วางตัวปกติตามมารยาทสังคม แต่แฟนเราขี้หึงมาก ทำให้ทะเลาะเรื่องนี้เป็นประจำ ทำให้เราไม่สบายใจในการทำงานบ่อยๆ เลยรู้สึกว่ามันกระทบความสบายใจในการทำงานของเรา
เราเป็นคนผูกคุณค่าไว้กับงานค่ะ เพราะงาน= เงิน
เลยไม่ชอบให้เค้ามาก้าวก่ายงานเรา
และสำหรับเรา นิยามความรักของเราคือ ต้องมีเงินมากกว่าเรา และดูแลเราได้ดีกว่าเราดูแลตัวเอง ซึ่งตอนคบกันแรกๆ เค้าคือคนนั้นค่ะ แต่พอบ.เจ๊ง ก็รู้สึกว่าเค้าไม่ตอบโจทย์แล้ว แต่ก็ยังรักเลยให้โอกาสมาเรื่อยๆ
และที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราเกาะเค้าฝ่ายเดียวนะคะ ตอนเค้าล้มเราก็ให้ยืมเงิน และประคับประคองเค้าไปด้วย เพราะคิดว่าคงไม่นานก็ฟื้นตัวได้ ก็พยายามให้กำลังใจ ช่วยอะไรได้ก็ช่วย แต่พอนานๆไปถึงจุดนึง มันไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาดีเหมือนตอนแรกเลย ยิ่งนานไปยิ่งทะเลาะกันทั้งเรื่องเงิน
เพราะเราอยากแต่งงานสร้างครอบครัว อยากมีลูก แต่เค้าอายุนานวันก็เยอะขึ้น แรงก็น้อยลง เป็นหนี้แบบนี้เราก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นคงไม่มั่นใจ ทั้งอาชีพที่ไม่แน่นอนของเค้า ถ้ามีลูกเราทำงานไม่ได้จะหาเงินจากไหน
ณ ตอนนี้เรียกว่าเราได้เปรียบเค้าเยอะมากค่ะ
ทั้งสภาพคล่องทางการเงิน อายุ การงาน หน้าตา
บอกตรงๆ เรากลัวอนาคตเราเหนื่อยค่ะ ทั้งๆที่ชีวิตเราสามารถเลือกได้มากกว่านี้ เราผิดไหมคะ ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองคือการเลิกกับเค้า ไปใช้ชีวิตคนเดียว ไปในที่อยากไป ทำอะไรที่อยากทำ