คนดีผีคุ้ม ที่เขาว่ากันว่ามีจริงไหมคะ (มาแชร์ประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองค่ะ)

มาแชร์ประสบการณ์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเราเป็นนักศึกษา เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจเรามาตลอด
(ความรู้สึกที่มีอะไรไม่รู้กันเรา จากการโดนพ่อเลี้ยงทำร้าย)
และพยายามคิดว่า หรือเราคิดไปเอง แต่ไม่ว่ายังไงก็อดคิดไม่ได้จริงๆ
และสาเหตุที่เรายังไม่ลืมเรื่องนี้สักทีเพราะพื้นฐานเราเป็นคนที่ถ้าใครก็ตามช่วยเหลือเราไม่ว่าเค้าจะเป็นอะไร เป็นใครเราอยาก ตอบแทนเค้าและอยากแน่ใจว่า ใช่จริงๆ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราอุทิศบุญให้เขาตลอดไม่ว่า จะใช่หรือไม่ใช่ก็ตาม
เรื่องมีอยู่ว่า เราและครอบครัวมีพ่อเลี้ยง แม่ พี่สาว พี่ชาย เป็นต้น อาศัยอยู่ในบ้าน ของญาติ
เค้ามีศักดิ์เป็นยายของเรา แกมีบ้านหลายหลัง บ้านหลังนี้ มีตั้งแต่สมัยแกแต่งงาน
ตอนเรายังเล็กมากๆ4-5ขวบ เราเคย มานั่งเล่น ดูทีวี บ้านหลังนี้ และไม่คิดเหมือนกันว่า ตอนวัยรุ่นเราจะได้ มาอาศัยอยู่บ้านนี้ บ้านเก่าแก่มาก อายุมากกว่า 50 ปี
เราขออธิบาย สิ่งที่เราและครอบครัวพบเจอ ในบ้านหลังนี้ ก่อนนะคะ
บ้านนี้มีเสาตกน้ำมัน ผูกผ้า3 สี อยู่ชั้น 2 ของบ้าน บ้านเป็น ปูนด้านล่าง ด้านบนเป็นไม้ ตอนที่เราอยู่บ้านนี้ ก็เจอแล้วและไม่เคยไปยุ่งไปสนใจ หรือไปเอาออก แต่เคยไปยืน มองจ้อง ด้วยความ สงสัยอยู่แต่ไม่เคยไปจับเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร
ทุกคนในบ้าน มักจะเห็นผช.วัยประมาณ60 ปี ใส่ผ้าขาวม้าไม่ใส่เสื้อ ยืนหันข้างอยู่ในครัว เขาชอบมาปรากฎให้เห็นแวปๆ ไม่รู้ว่าคือใคร และไม่เคยถามคุณยายเจ้าของบ้าน แต่ในใจก็อยากรู้ค่ะ
บางครั้ง แม่ยืนอยู่ในครัว แต่เราเห็นเงาดำๆ มุดเข้าไปในซอกตรงตู้เย็น ตรงตู้เย็นจะเป็นปลายมุ้งที่นอนกัน เรานึกว่าแม่เข้าไปนอนแล้ว หันมาอีกที แม่ยังไม่ได้เข้าไป มักจะเจออะไรทำนองนี้ อยู่ เรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยมาก
เวลาเราที่เราอยากปลีกตัวออกจากความเหนื่อยล้าวุ่นวาย เราจะมานอนข้างบนที่มีเสาตกน้ำมันอยู่ เดินผ่านตลอดแต่ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ตอนกลางวัน หรือตอนกลางคืน ที่เคนอยู่คนเดียว เราก็ขึ้นไปนอนข้างบนได้ และถ้าเป็นข้างบนเรายังไม่เคยเจอ อะไรแปลกๆ
ตอนที่เรา นั่งหรือนอน คิดหรือทำอะไรอยู่ในมุ้ง เราอยู่เงียบๆไม่ได้เล่นอะไร ตอนที่อยู่คนเดียว เราได้ยินเสียงวัตถุที่มีน้ำหนักคล้ายกับผ้า ที่สากกึ่งแข็งๆ ที่เสียงดูใหญ่เราเดา ว่าคือเชือก ได้ยินเสียงมาตั้งแต่หัวบรรไดค่อยๆ ลากยาวลงมาทีละขั้นๆ ในความรู้สึกของเรา เรากลัวมากรีบวิ่ง ออกจากมุ้งตอนที่เราออกจากมุ้งเรามีแอบดูด้วยแต่ไม่เห็นว่ามีอะไร รีบวิ่งออกบ้านไป ใจดีสู้ยิ้มลับ เข้ามา ก็ไม่เจออะไรแล้ว

ทีนี้ขอเข้าเรื่องที่เรา รู้สึกคาใจมาตลอด
แต่ก็ต้องขอเล่าย้อนกลับไปนิดหน่อย โดยปกติ เรามักจะได้เดินกลับจากวิทยาลัย ที่ทางค่อนข้างไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินกลับประมาณ1ชม. กว่าได้ เป็นประจำเพราะไม่มีใครไปรับเรา และเราไม่ค่อยอยากโทรให้แม่ไปรับ เพราะแกปวดเข่า และบางทีเพื่อนเราชอบเอาโทรศัพท์เราไปโทรหาแหนจนเงินหมด จนเราไม่มีโทรหาใครให้มารับ
ส่วนพี่สาวก็ไม่สนใจอะไรเราเลยบอกไม่ใช่หน้าที่เค้าที่ต้องมารับเรา(อันนี้เราก็เสียใจมากเพราะพี่ใช้เราเลี้ยงลูกและงานบ้านทุกอย่างใช้เราทำคนเดียวเค้าไม่แตะต้องอะไรเลย)
เราเดินกลับบ้านเองเสมอและบ่อยมาก แต่การไปรับ ส่งเรา เป็นหน้าที่ของพ่อเลี้ยง ซึ่ง ถ้าช่วงไหน พ่อเลี้ยงเมา เราไม่ค่อยอยากให้เค้าไปรับ เรากลัวอะไรหลายๆ อย่าง และ เค้าเคยขี่มอไซค์ พาเราล้มด้วยแต่ โชคดีไม่เป็นอะไรแต่จากนั้นมารู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย
ที่ผ่านมา ไม่ว่า เพื่อนต่างห้อง ที่เป็นผช. จะขออยากมาส่ง เราบ้านยังไง หรือแม้แต่ครูผช. เราปฎิเสธหมด
เพราะที่บ้านดุมากๆ ไม่ให้ เรามีแฟน หรือคบ ใคร
หรือ ให้ผช.ที่ไหนมาส่ง ไม่ว่า คนนั้นจะเป็นใคร ยกเว้น ผญ.
แต่เพื่อน เราไม่เคยมีใคร อยากมาส่งเรา บอกว่าคนละทางหรือแม้แต่ติดรถ ทางผ่าน ก็บอก คนละทาง แต่เรื่องนี้ช่างมันเราไม่เคยคิดพึ่งพาใครอยู่แล้ว
วันนั้น เพื่อนผช.ต่างห้อง ที่ไม่ค่อย สนิท เราไม่ได้คุยกัน
แต่ผช. คนนี้ เค้าเคยบอกชอบเรา และเคยจีบเรา
แต่เราเคยปฎิเสธ
เค้า จอดซอไซค์เทียบเรา ตอนเราเดินข้าง ถนน บอก ว่าจะไปส่ง เราบอก ไม่เป็นไร
เค้าดูห่วงเรา เราเห็นถึงว่าเค้ามีน้ำใจและอย่างน้อย
เค้าก็เคยมีความรู้สึกดีๆ ให้เรา เราก็อยากรับความหวังดีเค้าไว้
เลยขึ้นรถไปกับเขา
เราบอก เพื่อนว่า เธอไปทางลัดได้ไหม
(เรารู้สึกว่าพ่อมารับช้าเพราะเมาแน่เลย)
เราไม่อยากให้พ่อผ่านมาเจอ ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่
เพื่อน รู้สึก งงๆ ที่เรา ให้ไปทางลัด
มันมีทางลัด ที่เลาะ ผ่านป่า ระยะสั้นๆ โซนนั้น ก็เป็นที่ ของญาติๆ เรา เรารู้ทาง
แต่เพื่อน ดูไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องหลบ ขนาดนี้ เราบอกพ่อแม่เราดุมาก
เราก็ไม่เซ้าซี้ เป็นไง ก็เป็นกัน อีกนิด จะถึง บ้านอยู่ละ
ขอให้ ผ่านไปด้วยดี
เราลุ้นมากๆ  บอกให้เพื่อนจอด ตรงนี้ล่ะ
เดี๋ยวแม่เห็น เพื่อนก็ บอกทำไมล่ะ
ในวินาที ที่เรากำลังคุยกับเพื่อน เรา เอา หน้า ไปใกล้ๆ หู เพราะเค้าไม่ค่อยได้ยิน และ หลบๆ หลังเพื่อนด้วย
กลัวพ่อเลี้ยง สวนทางมาเจอ
และก็เป็นอย่างนั้น เราเห็นพ่อเลี้ยง เมาขี่มอไซค์ หน้าแดง เมามาเลย แต่เมา ยังไม่ได้ที่
ขับเลย เราผ่านไป แต่เค้าอ่ะมองเห็นเราแล้ว
เราก็ขอลงตรงนั้นเลย บอกเพื่อนว่าขอบคุณมากนะ ส่งเราตรงนี้ล่ะ

จากนั้นเรา เดินเข้าบ้าน แม่ถาม มาแล้วหรอ
เราชิงบอกแม่ก่อนเลย เพื่อนมาส่ง แม่ถามว่าเพื่อนผญ.หรือชาย เราจำไม่ได้ว่าเรา ตอบว่า ผช. หรือ เราไม่ตอบ เพราะเราก็ช็อกๆ กับที่พ่อเลี้ยงเห็นอยู่
และบอกแม่ว่า เมื่อกี้เห็นพ่อเมาขับรถ ผ่านไปด้วย
แม่บอกคงไปรับเราแล้วไม่เจอเราหรอ เราตอบว่าเจอ
เราคิดใจใจ แต่ เค้ายังก็ขับรถผ่านไปแล้วนิ คงไม่มีไรแล้ว
ตอนนั้น เราทำงานบ้าน ทำอะไรไปใช้ชีวิตปกติ

แล้วนี่คือเหตุการณ์ที่ชุลมุล มากๆ
พ่อเลี้ยง ขับมอไซค์จอดหน้าบ้าน แล้ว วิ่งมากระโดด เตะ ถีบ ตีบเรา เราเห็นภาพ ทุกอย่าง ที่เขาทำ  เราเห็นภาพนั้นที่เค้าทำนานประมาณไม่เกิน7 วินาที
พ่อเลี้ยงด่าเรา ว่าไปหอมกอดจูบกับผู้ชาย (มโนไปเอง) ด่าเราเสียหาย ให้ผช.มาสั่งหรอ ด่าเราสารพัด
จากนั้น เราเห็นเค้ายืนนิ่งค้างอะไรอยู่ที่เดิม คงเมาหนักมาก
แต่ หัวใจเราแตกสลาย กลัว และ ขยะแขยงเค้ามาก ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
ในตอนที่เรารู้สึกแบบนั้น ความรู้สึกมันวุ่นวายไปหมด
ทั้งตอนที่ พ่อเลี้ยงตีเรา สิ่งที่ทำให้
ทำให้เรางง และแปลกใจมาก เรารู้สึกได้ชัดเจนมาก มั่นใจ100% ว่าไม่ได้คิดไปเอง
รู้สึกว่ามันมีอะไรเย็นๆ คลุมตัวเราไว้ เหมือน อากาศ ที่เราเปิดตู้เย็น เรามีสติทุกอย่าง
แต่พ่อเลี้ยงไม่ว่ามือหรือเท้า ที่ตีเรา ไม่ได้สำผัสโดนตัวเราเลยแม้แต่นิดเดียว และที่สำคัญ เราไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
เราทั้งงงๆ ทั้งตกใจ และ ดีใจที่ไม่เจ็บ
แม่พึ่งห้ามหลังจากพ่อเลี้ยงทำไปแล้ว
แม่เอายาหม่อง มาทาคอทาแขนให้เรา เพราะขนาดแม่ก็เห็นเหมือนกันว่าพ่อตีเรา ถึงเอายามาทาให้
เราบอกว่าไม่เป็นอะไร และพูดอะไรกับแม่ ไม่ออก
และพูดอะไรกับใครไม่ได้เลย
เรารู้แต่ว่าวินาที นั้น เราต้อง เข้มแข็ง เพราะ
เราอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด
ความเจ็บปวด ปัญหาอะไร เรา แบกไว้อยู่คนเดียว
แม่ก็ไม่กล้า ว่าหรือทำอะไรพ่อเลี้ยง เพราะเค้าเมามาก
และ ต่อให้ ส่างเมา ไม่มีใครพูดถึงเรื่อง ที่เค้าทำร้ายเรา เลย
และแม่ไม่เคยถามเราเลย ว่าเราเป็นยังไงบ้าง
และถึงเรา อยากจะเล่าเรื่องที่เราไม่เจ็บ เพราะอะไรให้แม่ฟัง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เค้าจะต้องรู้ เพราะเค้าไม่ได้แคร์เรา
พิมพ์ในตอนนี้ หรือนึกถึงทีไร เราก็น้ำตาไหล
มันเป็นความโชคร้าย ในความโชคดี หรือยังไง
เราเสียใจที่สุดในวันนั้น เราไม่เคยสบายเลย ซ้ำยังมาเจอแต่คนในครอบครัวทำร้ายและรังแก
แต่เหตุการณ์วันนั้นเราก็ยังสงสัยอยู่ทุกวันนี้ ทำไม เราโดนทำขนาดนั้นแต่ไม่เป็นอะไรเลย แต่ก็โชคดีแล้วแล้วมันเป็นไปได้ไหม ที่จะมีอะไรบางอย่างมาช่วยเราไว้จริงๆ  ไม่ได้มีห้อยพระหรือบูชาอะไรตอนเด็กจนถึงอายุ 21 มีแต่ความดีและจิตใจดีเท่านั้นเรามโนไปเองว่าคนดีผีคุ้ม
และเราก็อดคิดไม่ได้เลยว่าอาจจะเป็นคุณลุงคนนั้น ช่วยเราไว้รึป่าว
ถ้าหากว่าใช่หรือไม่ใช่ ยังไงซะเรายังคงทำบุญระลึกถึงให้เขาอย่างน้อยๆ คุณลุงก็น่าจะคือญาติของยายเจ้าของบ้านที่เราอยู่อาศัย

มีใครเคยมีประสบการณ์ โดนทำร้ายแล้ว รอดมาได้แบบงงๆ ไหมคะ มีอะไรให้รู้สึกแปลกใจหาคำตอบไม่ได้บ้างไหมคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่