ผมอุตส่าห์ย้ายสิทธิ์บัตรทองผ่านแอปมาที่รังสิต แต่เพิ่งรักษาจิตเวชที่ รพ.ปทุมธานี แต่ได้ยาที่ต่างจากของที่ จ.ชุมพร แต่มีปรับทั้งตัวยา ขนาดยา เพราะบางยาที่ รพ ชุมพรมี รพ ปทุมธานีไม่มี เลยใช้ยาอีกตัวแทนและปริมาณยามากกว่าเดิมนิดนึงครับ
ผมถูกคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุ ถ้าสอบไม่ผ่านหรือไม่สอบจะให้กลับบ้านที่ชุมพรครับ แต่ผมตัดสินใจกลับบ้านที่ชุมพรทั้งน้ำตาเพราะสอบไปก็ได้แค่ตำแหน่งธุรการ และถ้าได้เป็นธุรการผมจ่อจะเอาชุดครุย ใบปริญญา สายพาดเกียรตินิยมอันดับ 1 ตุ๊กตาและยาจิตเวชที่หมอให้มาไปเผาหรือทำลายทิ้งครับ และผมก็ร้องไห้ก่อนคนรอบข้างที่โทรมาจะวางสายครับ ผมเสียใจมากเลยที่คิดลบๆแบบนี้ครับ
ช่วงเวลาที่ผมเคยเป็นลูกจ้าง ช่วงแรกโดนกดดันสารพัด งานเอกสารอย่างเยอะ ยิ่งเอกสารเยอะยิ่งยุ่งยากซับซ้อน คนใหญ่คนโตยิ่งดุยิ่ง Toxic ใส่ ผมเกือบจะทะเลาะกับตำแหน่งสูงแล้วเพราะไม่พอใจที่ใช้ไป Toxic ไป งานยกเอกสาร ถ่ายเอกสารกองโต๊โต งานมัดเอกสาร งานตรวจเอกสาร งานเรียงเอกสาร แต่งานหน้าคอมก็ดูเหมือนจะน้อย ทำเสียสุขภาพจิต และสุขภาพจิตแย่ลงเรื่อยๆ ครับ ดีที่หมดสัญญาลูกจ้างเสียก่อน ไม่งั้นผมอาจสูญเสียตัวตนยากที่จะหวนคืนกลับมาเป็นคนเดิมได้ครับ
เมื่อวานผมร้องไห้ทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นครับ และเคร่งเครียดกระวนกระวายจนไม่สามารถฝึกฝนเขียนโปรแกรมสร้างระบบทำกราฟฟิกต่อไปได้ เสพคลิปแคสเกมส์หรือเล่นเกมส์ก็ไม่สนุกจนไม่เล่นต่อไม่ดูต่อ นอนแทบไม่หลับ เหมือนอาการซึมเศร้าเริ่มออกแล้วครับ ฝืนกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้วครับ
มาวันนี้ผมก็เกือบจะร้องไห้และคิดลบนึกภาพผมตอนที่ได้กลับไปอยู่ในจุดที่แย่เหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมจนกระทั่งเสียตัวตนไม่สามารถกลับกลายเป็นคนเดิมได้ครับ
ผมเคยสอบ กพ. แต่ไม่ผ่าน 2 รอบครับ และไม่คิดจะสอบต่อ จนบางทีคิดสอบครึ่งไม่คิดสอบครึ่ง เพราะสอบไปก็เป็นได้แค่ธุรการ
พวกงาน Programmer หรือ Developer เนี่ยผมพอจะไปได้เพราะมีใจรักในการเขียนโค้ดไม่แพ้การทำกราฟฟิก แต่อยากหาเวลามาฝึกแอนิเมชั่นและทำเกมส์ เพราะผมเสพคลิปแคสเกมส์และเล่นเกมส์ แต่ไม่ถึงขนาดติดเกมส์ขนาดนั้น แต่ทำไปเพื่อศึกษาโครงสร้างการทำงานของเกมส์ โครงสร้างเนื้อเรื่องของเกมส์ จนผมถึงขั้นแต่งเนื้อเรื่อง คิดคาแร็กเตอร์ใหม่พร้อมแต่งประวัติคาแรกเตอร์อีกด้วย
ผมผิดเองที่ไม่เริ่มฝึกเขียนโปรแกรมเริ่มทำฟรีแลนซ์ตั้งแต่เรียน ป ตรี หรือหลังเรียนจบมาครับ
ผมควรจะกลับบ้านชุมพรไปก่อน หรือ รับงานฟรีแลนซ์อย่างไรถึงได้งานมาทำรัวๆดีครับ
เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมลงขายงานฟรีแลนซ์ในแพลตฟอร์มๆนึง แต่ไม่กล้าเอาไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มอื่นๆได้ แต่อยากหาพื้นที่ประกาศขายงานฟรีแลนซ์ควรทำอย่างไรดีครับ
ถึงงานโปรแกรมเมอร์ เดเวล็อปเปอร์ กราฟฟิกดีไซเนอร์จะดูกดดันในสายตาคนอื่น สำหรับผมมีใจรัก ถนัดและชอบเลยไม่รู้สึกกดดันและหนักครับ
ที่รู้สึกกดดันและหนักจนทำต่อไม่ไหวคืองานธุรการ แนวคิดการทำงานแบบเดิมๆ งานเอกสารวนลูป ไม่ใช่ผมหนักไม่เอาเบาไม่สู้ แต่ผมไม่ชอบสังคมที่มีแรงกดดันสูงในสถานกรณ์เฉพาะเท่านั้นเอง เวลาพักผ่อนก็เหลือน้อยอยู่เต็มทนแล้ว หยุดยาวก็ต้องทำงาน ทำงานถึงดึกแทบทุกวัน Toxic ไม่เลิกรา
ปัญหาคือ ตอน ป.ตรี ผมไม่ได้ฝึกงานนอกสถานที่ครับเพราะช่วงนั้นโควิดระบาดครับ มีแต่ต้องทำงาน Assignments ที่ต้องกำหนดหัวข้อให้อาจารย์มอบหมายในรายวิชาฝึกงานในช่วงซัมเมอร์ครับ รู้สึกเหมือนผมไม่เคยฝึกงานเลยครับ แต่ไม่รู้ฝึกเขียนโปรแกรมจาก Workshop หลายๆตัวอย่างงานจะได้ผลงานและเชื่อมั่นในผลงานไหมครับ
ตอนนี้ผมเริ่มฝึกฝนเขียนโปรแกรมไปหลายภาษา เฟรมเวิร์กและไลบรารี่แล้วครับ เพียงแต่ไม่มีงานฟรีแลนซ์เข้ามาเท่านั้นเองครับ ส่วนเอนจิ้นไว้ตอนฝึกเขียนแอปหรือเกมส์เท่านั้นและตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาฝึกฝน
ผมอาจจะเตรียมสอบ TOEIC และ TOEFL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเผื่อขายงานอิสระให้ต่างชาติครับ
บางทีผมอยากรีบหาเงินมาช่วยคนรอบข้างจ่ายค่าเน็ต ค่าไฟและค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ครับ
ผมมีดีอย่างคือผมไม่คิดสั้นครับเพราะผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆครับ และรอดูเทคโนโลยียืดอายุขัยให้อยู่ยาวเป็นร้อยๆปีหรือพันๆปีครับ
นี่ผมไม่เหมาะกับงานประจำแบบนั้นจริงๆหรือครับช่วยชี้แจงหน่อยครับ ผมเหมาะกับฟรีแลนซ์ งานอิสระ เป็นนายตัวเองไหมครับ เพราะผมชอบอิสระมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ
ใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนผมช่วยแนะนำแนวทางหน่อยครับ
จะสอบถามว่าจะเริ่มทำงานอิสระด้านโปรแกรม ระบบและกราฟฟิกแต่โดนกดดันให้สอบบรรจุบ่อยมาก ควรทำอย่างไรดีครับ
ผมถูกคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุ ถ้าสอบไม่ผ่านหรือไม่สอบจะให้กลับบ้านที่ชุมพรครับ แต่ผมตัดสินใจกลับบ้านที่ชุมพรทั้งน้ำตาเพราะสอบไปก็ได้แค่ตำแหน่งธุรการ และถ้าได้เป็นธุรการผมจ่อจะเอาชุดครุย ใบปริญญา สายพาดเกียรตินิยมอันดับ 1 ตุ๊กตาและยาจิตเวชที่หมอให้มาไปเผาหรือทำลายทิ้งครับ และผมก็ร้องไห้ก่อนคนรอบข้างที่โทรมาจะวางสายครับ ผมเสียใจมากเลยที่คิดลบๆแบบนี้ครับ
ช่วงเวลาที่ผมเคยเป็นลูกจ้าง ช่วงแรกโดนกดดันสารพัด งานเอกสารอย่างเยอะ ยิ่งเอกสารเยอะยิ่งยุ่งยากซับซ้อน คนใหญ่คนโตยิ่งดุยิ่ง Toxic ใส่ ผมเกือบจะทะเลาะกับตำแหน่งสูงแล้วเพราะไม่พอใจที่ใช้ไป Toxic ไป งานยกเอกสาร ถ่ายเอกสารกองโต๊โต งานมัดเอกสาร งานตรวจเอกสาร งานเรียงเอกสาร แต่งานหน้าคอมก็ดูเหมือนจะน้อย ทำเสียสุขภาพจิต และสุขภาพจิตแย่ลงเรื่อยๆ ครับ ดีที่หมดสัญญาลูกจ้างเสียก่อน ไม่งั้นผมอาจสูญเสียตัวตนยากที่จะหวนคืนกลับมาเป็นคนเดิมได้ครับ
เมื่อวานผมร้องไห้ทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นครับ และเคร่งเครียดกระวนกระวายจนไม่สามารถฝึกฝนเขียนโปรแกรมสร้างระบบทำกราฟฟิกต่อไปได้ เสพคลิปแคสเกมส์หรือเล่นเกมส์ก็ไม่สนุกจนไม่เล่นต่อไม่ดูต่อ นอนแทบไม่หลับ เหมือนอาการซึมเศร้าเริ่มออกแล้วครับ ฝืนกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้วครับ
มาวันนี้ผมก็เกือบจะร้องไห้และคิดลบนึกภาพผมตอนที่ได้กลับไปอยู่ในจุดที่แย่เหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมจนกระทั่งเสียตัวตนไม่สามารถกลับกลายเป็นคนเดิมได้ครับ
ผมเคยสอบ กพ. แต่ไม่ผ่าน 2 รอบครับ และไม่คิดจะสอบต่อ จนบางทีคิดสอบครึ่งไม่คิดสอบครึ่ง เพราะสอบไปก็เป็นได้แค่ธุรการ
พวกงาน Programmer หรือ Developer เนี่ยผมพอจะไปได้เพราะมีใจรักในการเขียนโค้ดไม่แพ้การทำกราฟฟิก แต่อยากหาเวลามาฝึกแอนิเมชั่นและทำเกมส์ เพราะผมเสพคลิปแคสเกมส์และเล่นเกมส์ แต่ไม่ถึงขนาดติดเกมส์ขนาดนั้น แต่ทำไปเพื่อศึกษาโครงสร้างการทำงานของเกมส์ โครงสร้างเนื้อเรื่องของเกมส์ จนผมถึงขั้นแต่งเนื้อเรื่อง คิดคาแร็กเตอร์ใหม่พร้อมแต่งประวัติคาแรกเตอร์อีกด้วย
ผมผิดเองที่ไม่เริ่มฝึกเขียนโปรแกรมเริ่มทำฟรีแลนซ์ตั้งแต่เรียน ป ตรี หรือหลังเรียนจบมาครับ
ผมควรจะกลับบ้านชุมพรไปก่อน หรือ รับงานฟรีแลนซ์อย่างไรถึงได้งานมาทำรัวๆดีครับ
เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมลงขายงานฟรีแลนซ์ในแพลตฟอร์มๆนึง แต่ไม่กล้าเอาไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มอื่นๆได้ แต่อยากหาพื้นที่ประกาศขายงานฟรีแลนซ์ควรทำอย่างไรดีครับ
ถึงงานโปรแกรมเมอร์ เดเวล็อปเปอร์ กราฟฟิกดีไซเนอร์จะดูกดดันในสายตาคนอื่น สำหรับผมมีใจรัก ถนัดและชอบเลยไม่รู้สึกกดดันและหนักครับ
ที่รู้สึกกดดันและหนักจนทำต่อไม่ไหวคืองานธุรการ แนวคิดการทำงานแบบเดิมๆ งานเอกสารวนลูป ไม่ใช่ผมหนักไม่เอาเบาไม่สู้ แต่ผมไม่ชอบสังคมที่มีแรงกดดันสูงในสถานกรณ์เฉพาะเท่านั้นเอง เวลาพักผ่อนก็เหลือน้อยอยู่เต็มทนแล้ว หยุดยาวก็ต้องทำงาน ทำงานถึงดึกแทบทุกวัน Toxic ไม่เลิกรา
ปัญหาคือ ตอน ป.ตรี ผมไม่ได้ฝึกงานนอกสถานที่ครับเพราะช่วงนั้นโควิดระบาดครับ มีแต่ต้องทำงาน Assignments ที่ต้องกำหนดหัวข้อให้อาจารย์มอบหมายในรายวิชาฝึกงานในช่วงซัมเมอร์ครับ รู้สึกเหมือนผมไม่เคยฝึกงานเลยครับ แต่ไม่รู้ฝึกเขียนโปรแกรมจาก Workshop หลายๆตัวอย่างงานจะได้ผลงานและเชื่อมั่นในผลงานไหมครับ
ตอนนี้ผมเริ่มฝึกฝนเขียนโปรแกรมไปหลายภาษา เฟรมเวิร์กและไลบรารี่แล้วครับ เพียงแต่ไม่มีงานฟรีแลนซ์เข้ามาเท่านั้นเองครับ ส่วนเอนจิ้นไว้ตอนฝึกเขียนแอปหรือเกมส์เท่านั้นและตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาฝึกฝน
ผมอาจจะเตรียมสอบ TOEIC และ TOEFL เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเผื่อขายงานอิสระให้ต่างชาติครับ
บางทีผมอยากรีบหาเงินมาช่วยคนรอบข้างจ่ายค่าเน็ต ค่าไฟและค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ครับ
ผมมีดีอย่างคือผมไม่คิดสั้นครับเพราะผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆครับ และรอดูเทคโนโลยียืดอายุขัยให้อยู่ยาวเป็นร้อยๆปีหรือพันๆปีครับ
นี่ผมไม่เหมาะกับงานประจำแบบนั้นจริงๆหรือครับช่วยชี้แจงหน่อยครับ ผมเหมาะกับฟรีแลนซ์ งานอิสระ เป็นนายตัวเองไหมครับ เพราะผมชอบอิสระมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ
ใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนผมช่วยแนะนำแนวทางหน่อยครับ