โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 พบว่ามี ทรัพย์สินทั้งสิ้น 85,023,720 บาท
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 85,023,720 บาท ได้แก่
เงินสด 1,800,000 บาท
เงินฝาก 286,045 บาท ทั้งหมด 27 บัญชี
เงินลงทุน 65 รายการ 1,346,698 บาท ในจำนวนนี้เป็นกองทุน, หุ้นบริษัทไทยโรจน์ จำกัด 121 หุ้น, หุ้นบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรีจำกัด (มหาชน) 830 หุ้น และหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น
*หมายเหตุ ระบุ หุ้นไอทีวี และสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ผู้ยื่นในฐานะผู้จัดการมรดก ตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้คดีหมายเลขแดงที่ 1860,2550 ได้รับมอบหมายจากทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้เสียชีวิต ให้รับโอนหลักทรัพย์หุ้นนี้อันเป็นกองมรดกถือครองไว้แทนทายาทอื่น
เงินให้กู้ยืม 15,000,000 บาท
ที่ดิน 18,000,000 บาท
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15,000,000 บาท
เป็นห้องชุดในเขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ยานพาหนะ 2,140,000 บาท
รถยนต์ 1 คัน เป็นรุ่น Majesty
รถจักรยานยนต์ และจักรยานไฟฟ้ารวม 4 คัน
สิทธิและสัมปทาน 19,413,985 บาท
ประกันชีวิต
สมาชิกราชกรีฑาสโมสร
ลิขสิทธิ์หนังสือ
ใบจองรถ Tesla
ทรัพย์สินอื่น 12,036,990 บาท
โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง 166,700 บาท
สูท 16 ตัว 1,200,000 บาท
เสื่อ 28 ตัว 188,000 บาท
เนคไท 76 เส้น 228,000 บาท
รองเท้า 21 คู่ 150,000 บาท
อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ 28 รายการ 1,654,690 บาท
ชุดเฟอร์นิเจอร์ 1 รายการ 100,000 บาท
กล้อง 2 ตัว 641,700 บาท
นาฬิกา 10 เรือน 5,707,900 บาท
พระเครื่อง 8 องค์ 2,000,000 บาท
มีหนี้สิ้นทั้งหมด 20,740,176 บาท
เบิกเกินบัญชี 807,414 บาท
หนี้สินอื่น 19,932,762 บาท
หนี้จากการค้ำประกัน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2563
มีรายได้ต่อปี 5,123,024 บาท
เงินเดือน 1,362,720 บาท
ขายคอนโดปี 2563 13,673,506 บาท
ขายรถ 2 คัน ปี 2565 936,000 บาท
ขายหนังสือ 431,712 บาท
หมายเหตุ 1.รายได้ในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 3,418,376 บาทต่อปี 2.รายได้ในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 234,000 บาทต่อปี 3.รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 107,928 บาทต่อปี
รายจ่ายต่อปี 3,879,223 บาท
ค่าอุปโภคบริโภค 2,400,000 บาท
ค่าเบี้ยประกัน 80,973 บาท
ค่าท่องเที่ยว 100,000 บาท
เงินบริจาค 5,193,000 บาท
หมายเหตุ (3) รายจ่ายในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 1,298,250 บาทต่อปี
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีรายจ่ายต่อปี 561,985 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค ค่าเบี้ยประกัน และค่าเล่าเรียน
นายพิธา แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,362,720 บาท
นายพิธาแจ้งสถานภาพโสด โดยหย่าเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 และมีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 1 คน คือ ด.ญ.พิพิม ลิ้มเจริญรัตน์
นอกจากนี้ เรายังได้ตรวจสอบข้อมูลจาก Creden Data ที่รวบรวมรายชื่อบริษัทเกี่ยวข้องกับ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พบว่า ทิม พิธา เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท 1 แห่ง ปัจจุบันถือหุ้น 2 รายการ โดยมีมูลค่าหุ้นทั้งหมด 406,420 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2548 โดยมีรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานภาพกิจการเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2554 โดยที่ผ่านมาเคยแจ้งผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
ปี 2550 รายได้ 11,065,797 บาท ขาดทุน 939,660 บาท
ปี 2551 รายได้ 8,617,810 บาท ขาดทุน 1,123,746 บาท
ปี 2552 รายได้ 14,126 บาท ขาดทุน 42,388 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท 2 แห่ง ได้แก่
บริษัท พรพนา พลัส จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2550 ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น (10%) มูลค่าหุ้น 333,757 บาท
บริษัท ไทยโรจน์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2507 ดำเนินธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทและห้องชุด ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 121 หุ้น (6.05%) มูลค่าหุ้น 72,663 บาท
เปิดทรัพย์สิน "ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 85,023,720 บาท ได้แก่
เงินสด 1,800,000 บาท
เงินฝาก 286,045 บาท ทั้งหมด 27 บัญชี
เงินลงทุน 65 รายการ 1,346,698 บาท ในจำนวนนี้เป็นกองทุน, หุ้นบริษัทไทยโรจน์ จำกัด 121 หุ้น, หุ้นบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรีจำกัด (มหาชน) 830 หุ้น และหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น
*หมายเหตุ ระบุ หุ้นไอทีวี และสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ผู้ยื่นในฐานะผู้จัดการมรดก ตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้คดีหมายเลขแดงที่ 1860,2550 ได้รับมอบหมายจากทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้เสียชีวิต ให้รับโอนหลักทรัพย์หุ้นนี้อันเป็นกองมรดกถือครองไว้แทนทายาทอื่น
เงินให้กู้ยืม 15,000,000 บาท
ที่ดิน 18,000,000 บาท
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15,000,000 บาท
เป็นห้องชุดในเขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ยานพาหนะ 2,140,000 บาท
รถยนต์ 1 คัน เป็นรุ่น Majesty
รถจักรยานยนต์ และจักรยานไฟฟ้ารวม 4 คัน
สิทธิและสัมปทาน 19,413,985 บาท
ประกันชีวิต
สมาชิกราชกรีฑาสโมสร
ลิขสิทธิ์หนังสือ
ใบจองรถ Tesla
ทรัพย์สินอื่น 12,036,990 บาท
โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง 166,700 บาท
สูท 16 ตัว 1,200,000 บาท
เสื่อ 28 ตัว 188,000 บาท
เนคไท 76 เส้น 228,000 บาท
รองเท้า 21 คู่ 150,000 บาท
อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ 28 รายการ 1,654,690 บาท
ชุดเฟอร์นิเจอร์ 1 รายการ 100,000 บาท
กล้อง 2 ตัว 641,700 บาท
นาฬิกา 10 เรือน 5,707,900 บาท
พระเครื่อง 8 องค์ 2,000,000 บาท
มีหนี้สิ้นทั้งหมด 20,740,176 บาท
เบิกเกินบัญชี 807,414 บาท
หนี้สินอื่น 19,932,762 บาท
หนี้จากการค้ำประกัน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2563
มีรายได้ต่อปี 5,123,024 บาท
เงินเดือน 1,362,720 บาท
ขายคอนโดปี 2563 13,673,506 บาท
ขายรถ 2 คัน ปี 2565 936,000 บาท
ขายหนังสือ 431,712 บาท
หมายเหตุ 1.รายได้ในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 3,418,376 บาทต่อปี 2.รายได้ในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 234,000 บาทต่อปี 3.รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 107,928 บาทต่อปี
รายจ่ายต่อปี 3,879,223 บาท
ค่าอุปโภคบริโภค 2,400,000 บาท
ค่าเบี้ยประกัน 80,973 บาท
ค่าท่องเที่ยว 100,000 บาท
เงินบริจาค 5,193,000 บาท
หมายเหตุ (3) รายจ่ายในระหว่างดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 1,298,250 บาทต่อปี
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีรายจ่ายต่อปี 561,985 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค ค่าเบี้ยประกัน และค่าเล่าเรียน
นายพิธา แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,362,720 บาท
นายพิธาแจ้งสถานภาพโสด โดยหย่าเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 และมีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 1 คน คือ ด.ญ.พิพิม ลิ้มเจริญรัตน์
นอกจากนี้ เรายังได้ตรวจสอบข้อมูลจาก Creden Data ที่รวบรวมรายชื่อบริษัทเกี่ยวข้องกับ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พบว่า ทิม พิธา เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท 1 แห่ง ปัจจุบันถือหุ้น 2 รายการ โดยมีมูลค่าหุ้นทั้งหมด 406,420 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2548 โดยมีรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานภาพกิจการเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2554 โดยที่ผ่านมาเคยแจ้งผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
ปี 2550 รายได้ 11,065,797 บาท ขาดทุน 939,660 บาท
ปี 2551 รายได้ 8,617,810 บาท ขาดทุน 1,123,746 บาท
ปี 2552 รายได้ 14,126 บาท ขาดทุน 42,388 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท 2 แห่ง ได้แก่
บริษัท พรพนา พลัส จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2550 ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น (10%) มูลค่าหุ้น 333,757 บาท
บริษัท ไทยโรจน์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2507 ดำเนินธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทและห้องชุด ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 121 หุ้น (6.05%) มูลค่าหุ้น 72,663 บาท