เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน รถกระบะตู้ทึบได้ช่วยชีวิตผมไว้ในเหตุการณ์ที่หายาก

ปกติเรามักมองรถกระบะตู้ทึบในแง่ลบ เช่นการขับแบบโฉบเฉี่ยวน่าหวาดเสียว
แต่เมื่อสามสิบปีก่อน รถกระบะตู้ทึบเคยช่วยชีวิตผมไว้ในเหตุกาณ์ที่หายาก
มันเป็นเหตุการณ์ที่ผมประทับใจมาก เช่นผมกับแฟนยังพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆ
เหตุการณ์น่าจะเกิดประมาณปี 2532-2534
ในช่วงนั้นผมประสบความสำเร็จในการศึกษาต่อแต่ชีวิตผมพังเพราะซื้อรถผิด
ทำให้สูญเงินจากการซ่อมแซมไม่หยุด
สุดท้ายผมเลยต้องใช้กระบะคันเก่าซึ่งอายุประมาณแปดปี
สภาพรถภายนอกทรุดโทรมเพราะผมมีเวลาดูแลน้อย แต่ผมก็เช็คตามระยะตลอด
ตอนนั้นผมมีลูกคนหนึ่ง อายุราวๆ 3 ขวบ ผมชอบพาไปห้างตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ซึ่งถือว่าหรูแล้ว
จากนั้นก็จะกลับบ้านทางถนนกาญจนาภิเษกและออกพระรามสอง ซึ่งยังไม่มีทางต่างระดับ
กลางคืนเปลี่ยวและมืด เป็นถนนไปสองเลนกลับสองเลน สภาพถนนปริ่มน้ำและชื้นแฉะ และแน่นอน
แทบไม่มีรถเลย
ก่อนนั้นสักห้าปี ถึงกับมีการจี้รถสิบล้อจนขึ้นชื่อ

เหตุการณ์มันเกิดขึ้นในคืนหนึ่งที่ผมขับรถกระบะกลับจากตั้งฮั้วเส็ง โดยแฟนและลูกนั่งมาด้วยในเบาะหน้า
รถมีเบาะเดียว และเป็นเบาะแบบติดกันเป็นอันเดียว ไม่มีเข็มขัดนิรภัยฝั่งคนนั่ง
ฟังดูไม่ปลอดภัยเลยนะครับ แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
ผมขับรถผ่านพระรามสองไปทางสมุทรสาคร ท่ามกลางความมืด
มันเป็นเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง เกือบไม่มีรถบนถนนเลย
ไฟถนนมีห่างๆและสลัวๆ และน่าจะเป็นคืนเดือนมืด

อีกประมาณห้ากิโลจะถึงสะพานข้ามทางรถไฟ ผมแซงรถสองคันซึ่งขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คันหลังเป็นรถสิบล้อ ส่วนคันหน้าห่างออกไปประมาณ 100 เมตร เป็นรถกระบะทึบ ทั้งสองคันไม่มีอะไรน่าจดจำ
ผมขับไปถึงสะพานข้ามทางรถไฟ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นคือ เมื่อรถผมกระแทกกับรอยต่อของคอสะพาน
ไฟหน้ารถก็ดับลง ทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นความมืด ไม่เห็นอะไรเลย
ผมต้องเบรคกระทันหัน
เมื่อรถหยุดผมรีบออกมาสำรวจพบว่าผมจอดห่างจากขอบฟุตบาทของสะพานเพียงหกนิ้ว
ไฟดับทั้งไฟหน้าและไฟท้าย คือรถผมมืดสนิทแทบมองไม่เห็น ส่วนสะพานมีไฟสลัวๆที่อยู่ห่างมาก
ผมมองเห็นไฟหน้ารถทั้งสองคันนั้นกำลังมุ่งตรงมาที่รถผมอย่างรวดเร็ว ผมตกใจถึงขีดสุด
แฟนผมยังนั่งอุ้มลูกอยู่ในรถ ผมรีบบอกให้แฟนอุ้มลูกลงมายืนข้างรถ เพราะเห็นได้ชัดว่าชนแน่

ทันใดนั้นรถกระบะตู้ทึบ ก็เบรคอย่างแรงมาจอดอยู่ด้านหลังรถผม ห่างประมาณ 10 เมตร
และรถสิบล้อก็มาถึงทันที พร้อมกับแซงขวาเฉียดรถกระบะและรถผมไปอย่างเร็วและลับหายไป
ผมกำลังคิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากรถกระบะทึบ แต่สภาพการณ์แบบนั้นมันอันตรายมาก
และผมก็มองไม่เห็นว่าใครขับ
รถกระบะเปิดไฟกระพริบฉุกเฉิน และแซงรถผมขึ้นไป
ผมคิดว่าหมดหวัง แต่รถกระบะกลับมาจอดอยู่ข้างหน้า
ผมคิดว่าเอาแบบนี้แล้วกันจะลองขับตามไป
ผมรีบกลับขึ้นรถ รถกระบะก็ขับออกไปอย่างช้าๆ ผมขับตามไฟกระพริบโดยแทบไม่เห็นทาง
รถกระบะขับลงสะพานและขับช้ามาก บางครั้งก็หยุดรอผม
ผมขับตามไปแบบนั้นประมาณ 12 กิโล จนถึงสี่แยกกลางมหาชัยซึ่งมีไฟสว่างไสว
รถกระบะปิดไฟฉุกเฉินและเลี้ยวซ้ายจากไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผมก็ขับกลับบ้านในตัวเมือง
โดยผมไม่เห็นเลยว่าใครขับรถกระบะ และอารามตื่นเต้นก็ลืมจดทะเบียนรถ
ถ้าท่านมาเห็นบทความนี้ ผมขอขอบคุณสำหรับวันนั้นด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่