สวัสดีครับ ผมยืมแอคเคาท์เพื่อนมานะครับ ยาวหน่อย เพราะว่าอยากให้ทุกคนรู้ถึงที่มาที่ไป หากผิดพลาดประการใด หรืออ่านไม่เข้าใจต้องขออภัยด้วยนะครับ (จริงๆเรื่องนี้ผมเคยโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊คสักกลุ่มหนึ่งแล้วนะครับ แต่ตอนนี้ผมหาโพสต์นั้นไม่เจอแล้ว ไม่รู้ว่าผมหาไม่ดีเอง หรือถูกลบไปก็ไม่อาจทราบได้ครับ T^T)
ผมมีบ้านสองหลังครับ โดยปกติผมจะอยู่กับคุณแม่ที่กรุงเทพ ส่วนบ้านหลังนี้ซื้อไว้เพราะตอนแรกคิดว่าจะได้มาอยู่ แต่ด้วยจังหวะชีวิตและอะไรหลายๆอย่างทำให้ผมยังไม่สะดวกที่จะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็เลยแค่ได้แวะมาบ้างเป็นครั้งคราวครับ
บ้านหลังนี้เป็นทาวน์เฮ้าส์ หลังเกือบริมในสุดครับ ปกติผมกับคุณแม่จะแวะมาค้างช่วงเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดครับ (แต่ถ้าช่วงไหนไม่ว่างก็ไม่ได้มาครับ) บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะคุณแม่ผมไม่อยากปล่อยเช่า (แกกลัวคนเช่าจะสกปรก ไม่ดูแลบ้าน หรือทำบ้านเสียหายอะไรทำนองนั้นครับ) แรกๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ เพราะไม่มีใครจอดรถหน้าบ้านเลย (ยกเว้นบ้านหลังริมในสุด) ทุกคนจอดรถในบ้านหมดครับ หรือหากบ้านใครไม่สามารถจอดรถได้ เขาก็จะไปจอดถนนเมนกันครับ ซึ่งเวลาที่ผมไป ผมก็จะจอดรถในบ้านตลอดครับ
ทีนี้ปัญหามันเกิดก็ตอนที่บ้านตรงข้ามผมเขาซื้อรถครับ (ตอนแรกเขาไม่มีรถ) แต่ในบ้านเขาต่อเติมจนไม่สามารถจอดรถได้ เขาจึงจอดรถหน้าบ้านครับ (ความที่ผมไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้น ผมเลยไม่แน่ใจว่าเขาซื้อรถตั้งแต่เมื่อไหร่ และก่อนหน้านี้ได้มาจอดหน้าบ้านผมบ้างหรือไม่ แต่เห็นอีกทีก็คือเขามีรถแล้วครับ) ตอนแรกเขาก็จอดรถหน้าบ้านตัวเอง (พอเขาจอดหน้าบ้านตัวเอง ผมก็ถอยรถเข้าบ้านไม่ได้อะครับ คือมันไม่เหลือพื้นที่ให้โยกเดินหน้าถอยหลังอะไรแบบนี้อะครับ ผมก็เลยต้องจอดหน้าบ้านตัวเองเช่นกัน) ทีนี้พอเขาจอดหน้าบ้านตัวเอง บ้านหลังริมในสุดฝั่งเขาก็ออกไม่ได้ครับ (ซึ่งปกติบ้านนี้จะออกค่อนข้างเช้าครับ สักตี5-7โมงเช้า) เขาก็เลยต้องตื่นมาเลื่อนรถให้บ้านนี้
ทีนี้เขาเลยแก้ปัญหาโดยการเอารถมาจอดหน้าบ้านผมแทนครับ (ที่ผมรู้เพราะป้าในซอยแกชอบส่งรูปมาให้แม่ผมดูบ่อยๆ) เพราะบ้านหลังริมในสุดฝั่งผมเขาไม่ค่อยเอารถออก ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นหลักครับ
อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกนะครับ ว่าปกติผมจะไปเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุด ซึ่งช่วงนั้นเขาก็จะเอารถไปจอดหน้าบ้านเขาแหละครับ เพราะเขาก็คงคิดว่าผมจะไป ทีนี้มันจะมีอยู่ครั้งนึงครับที่ผมแวะไปวันธรรมดา เพราะต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี พอผมแวะไปก็ตามนั้นครับ เขาจอดรถหน้าบ้านผม ผมก็เลยจอดรถต่อท้ายเขาครับ (ผมไม่ได้บอกให้เขามาเลื่อนเพราะวันนั้นผมไม่ได้จะค้างครับ) พอผมกำลังจะกลับกรุงเทพ เขาก็เดินมาขอโทษผม แล้วบอกว่า "พอดีบ้านหลังในสุดเขาออกไม่ได้ แล้วเห็นว่าผมไม่ค่อยได้มาก็เลยเอามาจอดไว้" แล้วเขาก็ถามครับว่าผมจะมาอีกเมื่อไหร่ ผมก็บอกว่าไม่แน่ใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขานะครับตอนนั้น
ครั้งต่อมา ผมมากับคุณแม่ครับ วันธรรมดาเช่นกัน รถเขาจอดอยู่หน้าบ้านผมเช่นเดิม คุณแม่เลยบอกให้ผมเอารถไปจอดหน้าบ้านเขาครับ แล้วคุณแม่ก็ไปเรียกให้เขามาเลื่อนรถออกไป แต่คนที่ออกมาเป็นพี่หรือน้องเขาผมก็ไม่แน่ใจ เขาบอกว่า "เลื่อนรถให้ไม่ได้เพราะคนขับรถไม่อยู่" (เขาขับรถไม่เป็นครับ ปกติคนนี้จะขับมอเตอร์ไซค์ครับ) แล้วเขาก็บอกว่า "ไม่รู้ว่าวันนี้ผมจะมา เห็นปกติมาวันหยุด" แม่ผมก็หัวเสียนิดหน่อยครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาไป ส่วนรถผมก็จอดหน้าบ้านเขาไปอะครับ (พอตอนที่ผมกับคุณแม่จะกลับกรุงเทพ คนขับรถก็ยังไม่มาเลยครับ แถมยังเอามอเตอร์ไซค์มาจอดขวางท้ายรถผม ลำบากผมต้องเข็นออกเองอีก เพราะเรียกแล้วเขาไม่ออกมา แต่ก็พยายามจะเข้าใจนะครับว่าพอมีรถจอดหน้าบ้านแล้วเอามอเตอร์ไซค์เข้าบ้านลำบาก)
คุณแม่ผมไม่ค่อยพอใจนักครับ แต่แกก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ เพราะเราเองก็ไม่ค่อยได้มาจริงๆ คุณแม่ผมพูดว่า "บ้านเราแท้ๆ แต่เราต้องไปจอดที่อื่น แทนที่จะได้จอดในบ้านตัวเอง นี่ถ้าวันไหนเราต้องขนของเยอะๆ เราก็จะเหนื่อยกว่าเดิมอีก ไม่ใช่เรื่องเลย มีอย่างที่ไหน คนขับไม่อยู่แล้วยังกล้ามาจอดขวางหน้าบ้านคนอื่นเขา บอกว่าไม่รู้ว่าเราจะมา แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน" ผมเคยถามคุณแม่ครับว่า "เราลองแลกคอนแทคกับเขาดูไหม (ก่อนหน้านี้บ้านผมกับบ้านเขาไม่ได้คุยกันครับ เป็นแบบถ้าเจอหน้าก็ยิ้มให้ แต่ไม่ได้สนิทกันครับ ถ้าไม่นับเรื่องจอดรถ เขาก็เป็นเพื่อนบ้านที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ผมกับแม่ครับ) แล้ววันไหนเราจะมาเราก็บอกเขา เขาจะได้เลื่อนรถออก" คุณแม่ผมก็บอกว่า "บ้านเรา เรามีสิทธิ์ที่จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ แล้วเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์มาจอดหน้าบ้านเราด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่ก็เถอะ มีปัญญาซื้อรถก็ต้องมีปัญญาหาที่จอดเอง ไม่ใช่มาเบียดเบียนคนอื่นแบบนี้" ผมคิดตามก็เอ้อ ก็จริงของคุณแม่นะครับ (ถ้าถามว่าเขาจอดหน้าบ้านเรา แล้วทำไมเราไม่จอดหน้าบ้านเขา ก็เพราะว่าถ้าผมจอดหน้าบ้านเขา ผมก็จะต้องคอยเลื่อนรถให้บ้านหลังริมในสุดฝั่งเขาน่ะสิครับ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเลย ทำไมผมต้องยอมขนาดนั้น ไม่ใช่หน้าบ้านผมด้วยซ้ำ)
ผมกับคุณแม่ไม่อยากให้เขามาจอดรถหน้าบ้านผม เพราะช่วงนี้ผมกับแม่ค่อนข้างมาที่นี่ในวันธรรมดาอยู่บ้าง แล้วการที่จะบอกให้เขามาเลื่อนรถทุกครั้งที่ไปมันก็น่าเบื่ออะครับ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่นั่นแหละครับ ข้อนี้มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขายังสามารถหาเหตุผลที่จะจอดรถหน้าบ้านผมต่อไปได้
ป.ล. คุณแม่ผมเคยเตรียมน้ำปลาไป แล้วพูดว่า คอยดูนะ ถ้าวันนี้ยังมาจอดหน้าบ้านอีกก็เดี๋ยวเจอเลย สรุปพอไปถึง รถเขาไม่อยู่ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน พอมาอีกครั้งนึงเป็นชานมครับ แล้วพอไปถึงเขาก็ไม่อยู่เช่นกันครับ เหมือนเขารู้ล่วงหน้าเลยครับว่าจะเจออะไร ฮ่าาา แต่ถ้าวันไหนไม่ได้เตรียมอะไรไปก็ตามนั้นครับ จอดขวางเหมือนเดิม
เพื่อนบ้านชอบเอารถมาจอดหน้าบ้าน อ้างว่าเพราะเราไม่อยู่
ผมมีบ้านสองหลังครับ โดยปกติผมจะอยู่กับคุณแม่ที่กรุงเทพ ส่วนบ้านหลังนี้ซื้อไว้เพราะตอนแรกคิดว่าจะได้มาอยู่ แต่ด้วยจังหวะชีวิตและอะไรหลายๆอย่างทำให้ผมยังไม่สะดวกที่จะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็เลยแค่ได้แวะมาบ้างเป็นครั้งคราวครับ
บ้านหลังนี้เป็นทาวน์เฮ้าส์ หลังเกือบริมในสุดครับ ปกติผมกับคุณแม่จะแวะมาค้างช่วงเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดครับ (แต่ถ้าช่วงไหนไม่ว่างก็ไม่ได้มาครับ) บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะคุณแม่ผมไม่อยากปล่อยเช่า (แกกลัวคนเช่าจะสกปรก ไม่ดูแลบ้าน หรือทำบ้านเสียหายอะไรทำนองนั้นครับ) แรกๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ เพราะไม่มีใครจอดรถหน้าบ้านเลย (ยกเว้นบ้านหลังริมในสุด) ทุกคนจอดรถในบ้านหมดครับ หรือหากบ้านใครไม่สามารถจอดรถได้ เขาก็จะไปจอดถนนเมนกันครับ ซึ่งเวลาที่ผมไป ผมก็จะจอดรถในบ้านตลอดครับ
ทีนี้ปัญหามันเกิดก็ตอนที่บ้านตรงข้ามผมเขาซื้อรถครับ (ตอนแรกเขาไม่มีรถ) แต่ในบ้านเขาต่อเติมจนไม่สามารถจอดรถได้ เขาจึงจอดรถหน้าบ้านครับ (ความที่ผมไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้น ผมเลยไม่แน่ใจว่าเขาซื้อรถตั้งแต่เมื่อไหร่ และก่อนหน้านี้ได้มาจอดหน้าบ้านผมบ้างหรือไม่ แต่เห็นอีกทีก็คือเขามีรถแล้วครับ) ตอนแรกเขาก็จอดรถหน้าบ้านตัวเอง (พอเขาจอดหน้าบ้านตัวเอง ผมก็ถอยรถเข้าบ้านไม่ได้อะครับ คือมันไม่เหลือพื้นที่ให้โยกเดินหน้าถอยหลังอะไรแบบนี้อะครับ ผมก็เลยต้องจอดหน้าบ้านตัวเองเช่นกัน) ทีนี้พอเขาจอดหน้าบ้านตัวเอง บ้านหลังริมในสุดฝั่งเขาก็ออกไม่ได้ครับ (ซึ่งปกติบ้านนี้จะออกค่อนข้างเช้าครับ สักตี5-7โมงเช้า) เขาก็เลยต้องตื่นมาเลื่อนรถให้บ้านนี้
ทีนี้เขาเลยแก้ปัญหาโดยการเอารถมาจอดหน้าบ้านผมแทนครับ (ที่ผมรู้เพราะป้าในซอยแกชอบส่งรูปมาให้แม่ผมดูบ่อยๆ) เพราะบ้านหลังริมในสุดฝั่งผมเขาไม่ค่อยเอารถออก ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นหลักครับ
อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกนะครับ ว่าปกติผมจะไปเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุด ซึ่งช่วงนั้นเขาก็จะเอารถไปจอดหน้าบ้านเขาแหละครับ เพราะเขาก็คงคิดว่าผมจะไป ทีนี้มันจะมีอยู่ครั้งนึงครับที่ผมแวะไปวันธรรมดา เพราะต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดี พอผมแวะไปก็ตามนั้นครับ เขาจอดรถหน้าบ้านผม ผมก็เลยจอดรถต่อท้ายเขาครับ (ผมไม่ได้บอกให้เขามาเลื่อนเพราะวันนั้นผมไม่ได้จะค้างครับ) พอผมกำลังจะกลับกรุงเทพ เขาก็เดินมาขอโทษผม แล้วบอกว่า "พอดีบ้านหลังในสุดเขาออกไม่ได้ แล้วเห็นว่าผมไม่ค่อยได้มาก็เลยเอามาจอดไว้" แล้วเขาก็ถามครับว่าผมจะมาอีกเมื่อไหร่ ผมก็บอกว่าไม่แน่ใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขานะครับตอนนั้น
ครั้งต่อมา ผมมากับคุณแม่ครับ วันธรรมดาเช่นกัน รถเขาจอดอยู่หน้าบ้านผมเช่นเดิม คุณแม่เลยบอกให้ผมเอารถไปจอดหน้าบ้านเขาครับ แล้วคุณแม่ก็ไปเรียกให้เขามาเลื่อนรถออกไป แต่คนที่ออกมาเป็นพี่หรือน้องเขาผมก็ไม่แน่ใจ เขาบอกว่า "เลื่อนรถให้ไม่ได้เพราะคนขับรถไม่อยู่" (เขาขับรถไม่เป็นครับ ปกติคนนี้จะขับมอเตอร์ไซค์ครับ) แล้วเขาก็บอกว่า "ไม่รู้ว่าวันนี้ผมจะมา เห็นปกติมาวันหยุด" แม่ผมก็หัวเสียนิดหน่อยครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาไป ส่วนรถผมก็จอดหน้าบ้านเขาไปอะครับ (พอตอนที่ผมกับคุณแม่จะกลับกรุงเทพ คนขับรถก็ยังไม่มาเลยครับ แถมยังเอามอเตอร์ไซค์มาจอดขวางท้ายรถผม ลำบากผมต้องเข็นออกเองอีก เพราะเรียกแล้วเขาไม่ออกมา แต่ก็พยายามจะเข้าใจนะครับว่าพอมีรถจอดหน้าบ้านแล้วเอามอเตอร์ไซค์เข้าบ้านลำบาก)
คุณแม่ผมไม่ค่อยพอใจนักครับ แต่แกก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ เพราะเราเองก็ไม่ค่อยได้มาจริงๆ คุณแม่ผมพูดว่า "บ้านเราแท้ๆ แต่เราต้องไปจอดที่อื่น แทนที่จะได้จอดในบ้านตัวเอง นี่ถ้าวันไหนเราต้องขนของเยอะๆ เราก็จะเหนื่อยกว่าเดิมอีก ไม่ใช่เรื่องเลย มีอย่างที่ไหน คนขับไม่อยู่แล้วยังกล้ามาจอดขวางหน้าบ้านคนอื่นเขา บอกว่าไม่รู้ว่าเราจะมา แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน" ผมเคยถามคุณแม่ครับว่า "เราลองแลกคอนแทคกับเขาดูไหม (ก่อนหน้านี้บ้านผมกับบ้านเขาไม่ได้คุยกันครับ เป็นแบบถ้าเจอหน้าก็ยิ้มให้ แต่ไม่ได้สนิทกันครับ ถ้าไม่นับเรื่องจอดรถ เขาก็เป็นเพื่อนบ้านที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ผมกับแม่ครับ) แล้ววันไหนเราจะมาเราก็บอกเขา เขาจะได้เลื่อนรถออก" คุณแม่ผมก็บอกว่า "บ้านเรา เรามีสิทธิ์ที่จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ แล้วเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์มาจอดหน้าบ้านเราด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่ก็เถอะ มีปัญญาซื้อรถก็ต้องมีปัญญาหาที่จอดเอง ไม่ใช่มาเบียดเบียนคนอื่นแบบนี้" ผมคิดตามก็เอ้อ ก็จริงของคุณแม่นะครับ (ถ้าถามว่าเขาจอดหน้าบ้านเรา แล้วทำไมเราไม่จอดหน้าบ้านเขา ก็เพราะว่าถ้าผมจอดหน้าบ้านเขา ผมก็จะต้องคอยเลื่อนรถให้บ้านหลังริมในสุดฝั่งเขาน่ะสิครับ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเลย ทำไมผมต้องยอมขนาดนั้น ไม่ใช่หน้าบ้านผมด้วยซ้ำ)
ผมกับคุณแม่ไม่อยากให้เขามาจอดรถหน้าบ้านผม เพราะช่วงนี้ผมกับแม่ค่อนข้างมาที่นี่ในวันธรรมดาอยู่บ้าง แล้วการที่จะบอกให้เขามาเลื่อนรถทุกครั้งที่ไปมันก็น่าเบื่ออะครับ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่นั่นแหละครับ ข้อนี้มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขายังสามารถหาเหตุผลที่จะจอดรถหน้าบ้านผมต่อไปได้
ป.ล. คุณแม่ผมเคยเตรียมน้ำปลาไป แล้วพูดว่า คอยดูนะ ถ้าวันนี้ยังมาจอดหน้าบ้านอีกก็เดี๋ยวเจอเลย สรุปพอไปถึง รถเขาไม่อยู่ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน พอมาอีกครั้งนึงเป็นชานมครับ แล้วพอไปถึงเขาก็ไม่อยู่เช่นกันครับ เหมือนเขารู้ล่วงหน้าเลยครับว่าจะเจออะไร ฮ่าาา แต่ถ้าวันไหนไม่ได้เตรียมอะไรไปก็ตามนั้นครับ จอดขวางเหมือนเดิม