TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของโลก คาดการณ์รายได้ในปี 2024 เพิ่มขึ้นเกิน 20% จากความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พุ่งทะยาน ในขณะที่อุตสาหกรรมโดยรวมยังคงเผชิญกับยอดขายของสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าที่ซบเซา

ขณะที่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2023 มียอดขายรวม 625,529 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันในปี 2022 มีกำไรสุทธิลดลง 19.3% อยู่ที่ 238,712 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน อย่างไรก็ตามทั้งรายได้และกำไรนั้นเติบโต 13-14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว 

TSMC บอกว่าการเติบโตของรายได้เมื่อเทียบไตรมาส 3/2023 ปัจจัยหลักมาจากเวเฟอร์เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ซึ่งคิดเป็นรายได้ 15% ของรายได้เวเฟอร์ทั้งหมด ส่วน 5 นาโนเมตรและ 7 นาโนเมตร คิดเป็น 35% และ 17% ตามลำดับ ทำให้ภาพรวมรายได้จากกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง (7 นาโนเมตรหรือน้อยกว่า) คิดเป็น 67%

ซีอีโอ C.C. เว่ย กล่าวในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ว่า "TSMC เป็นผู้สนับสนุนสำคัญสำหรับแอปพลิเคชัน AI จนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยี AI ทั้งหมดที่เราเห็นกัน ล้วนมาจาก TSMC" ซึ่งแถลงการณ์นี้มาหลังจากบริษัทรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4 เกินกว่าคาดการณ์

เว่ย ย้ำว่า การใช้เทคโนโลยีแพ็คเกจจิ้งขั้นสูง มีความต้องการสูงมากจน TSMC ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า และสถานการณ์นี้จะยืนยาวไปจนถึงปีหน้า

อย่างไรก็ตาม เว่ยแสดงความกังวลเกี่ยวกับ "ภาวะกำลังการผลิตเกิน" ในชิปแบบเก่าของอุตสาหกรรมโดยรวม "อาจมีกำลังการผลิตชิปแบบเก่าที่มากเกินไปในตอนนี้ ดังนั้น ความกังวลเรื่องภาวะกำลังการผลิตเกินมีมูลเหตุ" เขากล่าว แต่ยืนยันว่าสำหรับ TSMC เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เนื่องจากความต้องการเทคโนโลยีเฉพาะทางของบริษัทสูง

TSMC มองไปข้างหน้า บริษัทวางแผนขยายฐานการผลิตทั่วโลก โดยเตรียมเริ่มก่อสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในเยอรมนีภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ส่วนโรงงานแห่งที่สองในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะผลิตชิปแบบใด

โรงงานชิปแห่งแรกในญี่ปุ่นจะเปิดดำเนินการในเดือนหน้า พร้อมเริ่มผลิตเต็มกำลังในไตรมาสที่ 4 บริษัทกำลังพิจารณาสร้างโรงงานแห่งที่สองในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

TSMC คาดการณ์งบประมาณลงทุนสำหรับปี 2024 อยู่ที่ 28-32 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ใกล้เคียงกับปี 2023 และยังคงมีแผนขยายการผลิตในไต้หวัน

บริษัทกำลังประเมินการสร้างโรงงานชิปแห่งที่สามในไต้หวัน หากดำเนินการ โรงงานทั้งสามแห่งในเมืองนี้จะผลิตชิปนาโนเมตร 2 ขั้นสูง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงและสมาร์ทโฟน

ด้านคาดการณ์รายได้ปี 2024 เติบโตระดับประมาณ 20% ในรูปของเงินดอลลาร์ โดยราคาหุ้น TSM ปรับตัวขึ้น 32% ในปีที่แล้ว