ผมอยากระบาย และแชร์เรื่องราวชีวิตคู่ที่เป็นอยู่ ไปต่อหรือพอก่อน

เริ่มจากผมเป็นลูกคนเดียวครับ อาศัยอยุ่กับพ่อแม่ตั้งแต่เด็กซึ่งบ้านที่อาศัยคือบ้านของป้า พ่อ/แม่ ไม่มีบ้านเป็นของตนเองเป็นเด็กโรงงานหาเช้ากินค่ำ
พอถึงช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ผมเองมีงานทำมีแฟน เราซื้อบ้านเป็นของตัวเองครับโดยที่ บ้านจะอยู่แถบปริมณฑล เพราะอะไร ทำไมไม่ซื้อในเมือง เพราะกำลังในการผ่อน กำลังในการซื้อไม่ไหว เลยได้ชานเมือง (ผมลืมบอกครับผมเอาพ่อแม่มาอยู่ด้วย เพราะบ้านของป้าลูกๆป้าก็เริ่มโต เราจำเป็นต้องขยับขยาย ) ทุกอย่างเป็นไปได้สวย เพียง 1 ปี แต่เข้าปีที่ 2 แฟนผมก็เริ่มเผยท่าทีออกมาทีละนิด ดังนี้
1. แฟนต้องการย้ายที่อยู่เพราะเหนื่อยไม่อยากทนเดินทางไกลอีกแล้ว
2. แฟนไม่เอาพ่อแม่ อยากอยุ่กับผมแค่สองคน

คำถามของผมคือ 
1. ถ้าไม่ไหวจริงก็ต้องลองดูๆกันไปกับที่ใหม่ด้วย เพราะรายได้และอาชีพผมก็ยังไม่มั่นคงไม่กล้าปรับเปลี่ยนอะไร
2. เป็นไปได้หรอ การที่คุณจะไม่เอาพ่อแม่ผม และเขาจะไปอยู่ไหน ในส่วนนี้ผมเข้าใจว่าอยากจะย้ายออกไปเติบโต
(แต่อย่าลืมว่าจากเดิมท่านไม่มีบ้าน แล้วให้ผมทิ้งเขาไว้ที่ไหน)

ผมรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจมาก ตั้บแต่เด็กจนโตผมมีพ่อแม่ที่เลี้ยงผมมาอย่างอบอุ่น
แต่ทำไมผมรู้สึกว่าชีวิตคู่ของผมมันกำลังจะพัง เหมือนรอระเบิดเวลาเข้ามาอย่างช้าๆ

มันมีดีเทลอีกมากมาย ที่ผมยังไม่ด้ลงลึก แต่เรื่องใหญ่มีสองเรื่องตามที่ผมเล่ามาข้างต้น
ตอนนี้ความรู้สึกของผมมันรู้สึกชาไปหมด เพราะอะไร
1.ระยะทางมันไกล แต่ผมคอยซัพพอททุกครั้ง เช้า/เย็น ผมคิดว่ามันมีดีกว่าการที่เขาพูดว่าจะย้ายออก มันเป็นการตัดขาดกันเฉยเลย
2.เรื่องพ่อแม่ ผมก็ไม่ได้ปิดตาฟังแต่เมียพูด แต่100% แม่ทำให้เราทุกอย่าง ทำกับข้าว บางทีล้างจ้านด้วยซ้ำ แม่บอกเสมอลูกรักใครแม่รักด้วย
ขอแค่เขาคนนั้นรักลูกแม่ก็พอ แม่ผมไม่ได้ร้ายอะไรเลย 

ผมอยากจะรู้ว่าถ้าทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน คุณจะทำอย่างไร แนะนำผมด้วยครับ เหมือนผมลอยในอ่างเคว้งคว้างไปหมด ปกติมีอะไรผมเล่าให้แม่ฟัง แต่เรื่องนี้ผมไม่เล่า ผมสงสารแม่ ไม่อยากให้เขามารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ ช่วยเม้นกันเข้ามาทีนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่