ณัฐชา บี้ อัยการขอศาลฟันโทษเท่าผู้ใหญ่ คดีป้าบัวผัน รับไม่ได้ ตร.อ้างแค่หยอกล้อ ถุงคลุมหัวลุงเปี๊ยก
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4381780
“ณัฐชา” แนะ อัยการ ขอศาลฟันโทษคดีป้าบัวผันเทียบเท่าผู้ใหญ่ มองเป็นเหตุตั้งใจ ไม่ได้พลาดพลั้ง จี้ ผบ.ตร. ลงคุมคดีเอง ถามอ้างแค่หยอกล้อในเคสฆ่าคนตายเหมาะสมหรือไม่ ลั่น ไม่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ต้องได้รับความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนกรณีป้าบัวผัน ว่า วันนี้ยังมีข้อถกเถียงเรื่องการให้โอกาสเด็กที่บางครั้งการกระทำบางอย่างของเด็กทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ยังมีการอำพรางศพด้วย เรื่องนี้บางครั้งเราไม่สามารถใช้ข้อกฎหมายตรงนี้ได้
อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนขอให้แก้กฎหมาย เรื่องกฎหมายคุ้มครองเด็ก แต่ตนอยากจะบอกว่า หลักใหญ่ใจความของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก คือต้องการให้โอกาสเด็กที่กระทำผิดโดยไม่ตั้งใจ ไม่อยากให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ซึ่งสามารถให้ได้กับเด็กที่ไม่ได้กระทำความผิดโดยรุนแรง
นาย
ณัฐชามองว่า ครั้งนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะฉะนั้นอัยการในคดีนี้ สามารถร้องขอต่อศาลได้ว่าจะต้องพิจารณาคดีในรูปแบบพิเศษ คือให้เด็กกลุ่มนี้ถูกพิจารณาคดีเทียบเท่าอัตราของผู้ใหญ่ โดยมีเหตุผลว่ามีการกระทำที่ซ้ำซากจากวันที่เป็นข่าวจนถึงวันนี้มีผู้เสียหายออกมาเปิดเผยความจริงอีกมากมาย แต่ละคดีที่เปิดเผยก็เป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นในส่วนกฎหมายก็ยังอยากให้คุ้มครองเด็กกลุ่มอื่นอยู่
“
อัยการมีอำนาจในการร้องขอต่อศาลได้ในเคสแบบนี้ ซึ่งมีการกระทำความผิดที่ซ้ำซากด้วย เราอาจจะต้องไปยกเคสต่างๆ ที่ตอนนี้กำลังมีผู้เสียหาย ทยอยออกมาให้ข้อมูล” นาย
ณัฐชากล่าว
เมื่อถามย้ำว่าโทษจะเหมือนผู้ใหญ่เลยหรือไม่ นาย
ณัฐชากล่าวว่า ใช่ โทษจะหนักขึ้น และศาลสามารถจะพิจารณาได้ว่าในการกระทำครั้งนี้มีเหตุก่อนหน้าเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งการกระทำไม่ได้เกิดจากการพลาดพลั้ง เป็นการกระทำที่คุ้นชินกับการทำความผิดไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไม่ตั้งใจแต่เป็นเหตุที่ตั้งใจ อาจจะเป็นเพราะคนใกล้ชิดที่เคยช่วยเหลือกันมาหลายครั้ง ทำให้เด็กกลุ่มนี้คุ้นเคยกับการกระทำความผิด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการชี้แจงว่าการคลุมถุงดำลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน เป็นแค่การหยอกล้อนั้น นาย
ณัฐชากล่าวว่า วันนี้ความศรัทธาของพี่น้องประชาชน ที่มีต่อองค์กรตำรวจเสื่อมถอยและเสื่อมคลายลงเยอะมาก การที่ตำรวจพยายามบอกว่าเป็นการกระทำหยอกล้อ หรือล้อเล่นในการตัดสินคดีที่มีความเป็นความตายอยู่ด้วย ตนคิดว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
“
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรต้องออกมาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายแล้วการกระทำของท่าน ที่กระทำไปแล้วมาบอกว่าหยอกล้อกันในคดีที่มีผู้เสียหายจนถึงชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้หลายครอบครัวต้องตกระกำลำบาก และผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ออกมาพูดแบบนี้ ผมว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” นาย
ณัฐชากล่าว
นาย
ณัฐชากล่าวย้ำว่า สังคมมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อมีการกระทำความผิดโดยลูกหลานเจ้าหน้าที่ หรือผู้มีชื่อเสียงทางสังคมก็จะมีการนำแพะมารับบาป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เรียกความเชื่อมั่นในสังคมขึ้นมาให้ได้
ส่วนที่ พล.ต.อ.
สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ด้วยตัวเองจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นคืนมาได้หรือไม่นั้น นาย
ณัฐชากล่าวว่า วันนี้เลยคดีฆ่าคนตายมาแล้ว ดังนั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรลงมาด้วยตัวเองและประกาศว่าคดีนี้ไม่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครจะต้องได้รับความเป็นธรรม
ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับปากว่าจะปรับ กฎหมายคำว่าเยาวชนจากคำว่า 15 ปีเหลือ 12 ปี นาย
ณัฐชากล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวใน กมธ. ยอมรับว่าอยากให้แยกเป็นรายกรณี
ทั้งนี้ ตนได้พูดคุย กับ กมธ.การตำรวจ ว่าในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปตรวจสอบและพูดคุยกับนายเปี๊ยก เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยถึงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่
เพจดังแฉลูกตำรวจ1ในผู้ก่อเหตุคดีฆ่า “ป้าบัวผัน” นั่งชู2นิ้วอยู่หน้าร้านน้ำกระท่อม
https://www.dailynews.co.th/news/3094271/
เพจดังแฉลูกตำรวจ 1 ในผู้ก่อเหตุคดีฆ่า “ป้าบัวผัน” สบายใจนอกคุก นั่งชู 2 นิ้ว อยู่หน้าร้านน้ำกระท่อม ถามลั่น ถ้าไม่อยู่ในสถานพินิจแล้ว เชนอยู่ไหน?
ยังเป็นคดีที่ยังต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง คดีใหญ่ เขย่าวงการตำรวจ กรณี คดีฆาตกรรมป้า
กบ หรือ คดีป้า
บัวผัน คดีที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีที่มีความซับซ้อนมากมาย ตั้งแต่จับกุมผิดตัวและฝากขัง ลุง
เปี๊ยก ก่อนที่ นักข่าวช่อง 8 จะนำคลิปกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่ จนสังคมรู้ความจริงว่าเรื่องนี้ มีผู้ก่อเหตุตัวจริงเป็น เด็กและเยาวชนรวม 5 ราย ซึ่งเมื่อขุดข้อมูลลึกลงไปกลับพบว่า เด็กบางคนเป็นถึงลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อวานนี้ ( 17 ม.ค.)มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏคลิปเสียงตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ บังคับขู่เข็ญให้ ลุง
เปี๊ยก รับสารภาพคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน พร้อมสั่งเด้งตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง รอง ผกก.สส.สภ.
อรัญประเทศ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยขาดจากต้นสังกัดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามหลังเป็นข่าวใหญ่โต และกลุ่มเด็กที่ฆ่าป้าบัวผัน เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่เรื่องราวกลับเงียบหายเข้าไปในกลีบเมฆ จนสังคมตั้งคำถามว่า ตอนนี้เด็กเหล่านั้นอยู่ไหน
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า
“ข่าวดังแบบนี้ใครจะมานั่งชู 2 นิ้วในร้านน้ำกระท่อม เชนอยู่ในสถานพินิจแล้วถ้าไม่ให้อยู่ในนั้นแล้ว เชนอยู่ไหน?”
และได้คอมเมนต์ใต้โพสต์อีกว่า
ลืออะไร…มันเป็นไปไม่ได้หรอกแกร่ วู้ๆๆ , ตัวจริงหรือโคลน คิดจะพักคิดถึงคิดแคท , ไหนๆ วงใน เค้าลือกันว่าอะไร มาบอกให้ฟังหน่อยสิ -ูอยากรู้ พูด
ทั้งนี้ ก่อนหน้าโพสต์นี้ ทางเพจอีซ้อขยี้ข่าว เคยนำข้อมูลของ เชนลูกตำรวจ มาเปิดเผยว่า เชน (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี เด็กที่มีผลการเรียนดีสอบได้เกรด 4 มาตลอด แถมได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเยาวชนไปเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศ จนได้รับรางวัลสร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวมาแล้ว เชนมักบอกกับเพื่อนสนิทในห้องว่าจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อ แต่พอเริ่มเข้าช่วงวัยรุ่นก็เริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้น เวลาส่วนใหญ่คืออยู่กับเพื่อนเริ่มจากกลับบ้านดึกและนอนบ้านเพื่อน เพียงไม่ถึงปีพฤติกรรมค่อยๆ เปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิม เชนคือคนที่จับหัวป้าบัวผันไว้กับน้ำ เชนคือลูกตำรวจที่เชื่อว่าการเป็นลูกพ่อเค้าสามารถทำอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/esornews/posts/pfbid02M4bWA7bo3Eh91gaTJcgny5MecFn6K7hXHtycu36UtQnwRXQX4seHfgRkBU1mXA21l
จับคาด่านชายแดน มันเส้นนำเข้าคุณภาพต่ำ คต.เดินหน้า4มาตรการเข้ม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4381872
จับคาด่านชายแดน มันเส้นนำเข้าคุณภาพต่ำ คต.เดินหน้า4มาตรการเข้ม
นาย
รณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังของไทยและประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ส่งผลให้ในช่วงต่อจากนี้สถานการณ์การซื้อ-ขายมันสำปะหลังมีแนวโน้มคึกคักขึ้น โดยจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือการซื้อ-ขายมันเส้นคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ผู้ค้าบางรายอาจมีการปลอมปนดินทรายหรือซื้อขายมันเส้นที่มีความชื้นสูง เพื่อให้ได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแล้วนำไปขายทำกำไรต่อ ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงมาตรฐานมันเส้นไทย ผู้ซื้อขาดความเชื่อมั่น และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศ คต. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรฐานมันเส้นนำเข้า-ส่งออก จึงต้องคุมเข้มมาตรฐานมันเส้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแก้ไขปัญหา ดังกล่าว จึงได้กำหนดมาตรการ 4 เข้ม คือ 1. เข้มเจ้าหน้าที่กรมฯ 2. เข้มบริษัทตรวจสอบมาตรฐานสินค้า 3.เข้มมาตรฐานมันเส้นนำเข้า และ 4. เข้มมาตรฐานมันเส้นส่งออก ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้มันเส้นที่ไทยนำเข้า-ส่งออก ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังในประเทศอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งสุดท้ายแล้วประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของไทยและผู้ประกอบการเอง
ล่าสุดในช่วงกลางเดือนมกราคม 2567 ชุดตรวจของกรมฯ พบผู้นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ณ ด่านชายแดน 2 ราย จึงได้ลงโทษโดยพักทะเบียนผู้ประกอบการดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถนำเข้ามันเส้นได้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะนำมันเส้นที่มีปัญหาไปปรับปรุงให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 กรมฯ ได้มีการลงโทษผู้นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำไป 7 ราย ส่วนการตรวจคุณภาพมันเส้นส่งออก กรมฯ ได้จับตาผู้ส่งออกแต่ละรายมาโดยตลอด โดยเฉพาะรายที่มีพฤติกรรมซื้อ-ขายสินค้าโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและเสนอขายในราคาต่ำกว่าตลาด จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ และจะส่งชุดตรวจพิเศษที่มีข้าราชการระดับผู้อำนวยการกองหรือชำนาญการพิเศษ (ซี 8) เป็นหัวหน้าชุด ไปสุ่มกำกับการปฏิบัติงานของชุดตรวจให้เป็นไปอย่างเข้มงวดอีกชั้นหนึ่ง
“
ปัจจุบันราคามันสำปะหลังเริ่มผันผวน โดยสาเหตุหนึ่งมาจากคุณภาพสินค้า ผมได้สั่งเพิ่มความถี่การส่งชุดตรวจและชุดตรวจพิเศษลงพื้นที่ และผมรวมทั้งผู้บริหารของกรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในจะลงพื้นที่ตรวจในทุกด่านที่มีการนำเข้าเพื่อให้การปฏิบัติงานของชุดตรวจเป็นไปอย่างเข้มงวด”
การตรวจคุณภาพมันเส้นนำเข้าจะดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจคุณภาพมันเส้นส่งออกอย่างเข้มข้น การที่ไทยสามารถรักษาไว้ซึ่งคุณภาพของสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ จะช่วยให้การขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีนซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดหลักเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา ฟิลิปปินส์ ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย และซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
JJNY : ณัฐชาบี้อัยการขอศาล│เพจดังแฉลูกตำรวจนั่งชู 2นิ้ว│จับคาด่านชายแดน มันเส้นนำเข้า│ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองศก.จีนปี 67
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4381780
“ณัฐชา” แนะ อัยการ ขอศาลฟันโทษคดีป้าบัวผันเทียบเท่าผู้ใหญ่ มองเป็นเหตุตั้งใจ ไม่ได้พลาดพลั้ง จี้ ผบ.ตร. ลงคุมคดีเอง ถามอ้างแค่หยอกล้อในเคสฆ่าคนตายเหมาะสมหรือไม่ ลั่น ไม่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ต้องได้รับความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนกรณีป้าบัวผัน ว่า วันนี้ยังมีข้อถกเถียงเรื่องการให้โอกาสเด็กที่บางครั้งการกระทำบางอย่างของเด็กทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ยังมีการอำพรางศพด้วย เรื่องนี้บางครั้งเราไม่สามารถใช้ข้อกฎหมายตรงนี้ได้
อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนขอให้แก้กฎหมาย เรื่องกฎหมายคุ้มครองเด็ก แต่ตนอยากจะบอกว่า หลักใหญ่ใจความของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก คือต้องการให้โอกาสเด็กที่กระทำผิดโดยไม่ตั้งใจ ไม่อยากให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ซึ่งสามารถให้ได้กับเด็กที่ไม่ได้กระทำความผิดโดยรุนแรง
นายณัฐชามองว่า ครั้งนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะฉะนั้นอัยการในคดีนี้ สามารถร้องขอต่อศาลได้ว่าจะต้องพิจารณาคดีในรูปแบบพิเศษ คือให้เด็กกลุ่มนี้ถูกพิจารณาคดีเทียบเท่าอัตราของผู้ใหญ่ โดยมีเหตุผลว่ามีการกระทำที่ซ้ำซากจากวันที่เป็นข่าวจนถึงวันนี้มีผู้เสียหายออกมาเปิดเผยความจริงอีกมากมาย แต่ละคดีที่เปิดเผยก็เป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นในส่วนกฎหมายก็ยังอยากให้คุ้มครองเด็กกลุ่มอื่นอยู่
“อัยการมีอำนาจในการร้องขอต่อศาลได้ในเคสแบบนี้ ซึ่งมีการกระทำความผิดที่ซ้ำซากด้วย เราอาจจะต้องไปยกเคสต่างๆ ที่ตอนนี้กำลังมีผู้เสียหาย ทยอยออกมาให้ข้อมูล” นายณัฐชากล่าว
เมื่อถามย้ำว่าโทษจะเหมือนผู้ใหญ่เลยหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ใช่ โทษจะหนักขึ้น และศาลสามารถจะพิจารณาได้ว่าในการกระทำครั้งนี้มีเหตุก่อนหน้าเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งการกระทำไม่ได้เกิดจากการพลาดพลั้ง เป็นการกระทำที่คุ้นชินกับการทำความผิดไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไม่ตั้งใจแต่เป็นเหตุที่ตั้งใจ อาจจะเป็นเพราะคนใกล้ชิดที่เคยช่วยเหลือกันมาหลายครั้ง ทำให้เด็กกลุ่มนี้คุ้นเคยกับการกระทำความผิด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการชี้แจงว่าการคลุมถุงดำลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน เป็นแค่การหยอกล้อนั้น นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้ความศรัทธาของพี่น้องประชาชน ที่มีต่อองค์กรตำรวจเสื่อมถอยและเสื่อมคลายลงเยอะมาก การที่ตำรวจพยายามบอกว่าเป็นการกระทำหยอกล้อ หรือล้อเล่นในการตัดสินคดีที่มีความเป็นความตายอยู่ด้วย ตนคิดว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
“ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรต้องออกมาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายแล้วการกระทำของท่าน ที่กระทำไปแล้วมาบอกว่าหยอกล้อกันในคดีที่มีผู้เสียหายจนถึงชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้หลายครอบครัวต้องตกระกำลำบาก และผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ออกมาพูดแบบนี้ ผมว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” นายณัฐชากล่าว
นายณัฐชากล่าวย้ำว่า สังคมมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อมีการกระทำความผิดโดยลูกหลานเจ้าหน้าที่ หรือผู้มีชื่อเสียงทางสังคมก็จะมีการนำแพะมารับบาป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เรียกความเชื่อมั่นในสังคมขึ้นมาให้ได้
ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ด้วยตัวเองจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นคืนมาได้หรือไม่นั้น นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้เลยคดีฆ่าคนตายมาแล้ว ดังนั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรลงมาด้วยตัวเองและประกาศว่าคดีนี้ไม่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครจะต้องได้รับความเป็นธรรม
ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับปากว่าจะปรับ กฎหมายคำว่าเยาวชนจากคำว่า 15 ปีเหลือ 12 ปี นายณัฐชากล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวใน กมธ. ยอมรับว่าอยากให้แยกเป็นรายกรณี
ทั้งนี้ ตนได้พูดคุย กับ กมธ.การตำรวจ ว่าในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปตรวจสอบและพูดคุยกับนายเปี๊ยก เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยถึงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่
เพจดังแฉลูกตำรวจ1ในผู้ก่อเหตุคดีฆ่า “ป้าบัวผัน” นั่งชู2นิ้วอยู่หน้าร้านน้ำกระท่อม
https://www.dailynews.co.th/news/3094271/
เพจดังแฉลูกตำรวจ 1 ในผู้ก่อเหตุคดีฆ่า “ป้าบัวผัน” สบายใจนอกคุก นั่งชู 2 นิ้ว อยู่หน้าร้านน้ำกระท่อม ถามลั่น ถ้าไม่อยู่ในสถานพินิจแล้ว เชนอยู่ไหน?
ยังเป็นคดีที่ยังต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง คดีใหญ่ เขย่าวงการตำรวจ กรณี คดีฆาตกรรมป้ากบ หรือ คดีป้าบัวผัน คดีที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีที่มีความซับซ้อนมากมาย ตั้งแต่จับกุมผิดตัวและฝากขัง ลุงเปี๊ยก ก่อนที่ นักข่าวช่อง 8 จะนำคลิปกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่ จนสังคมรู้ความจริงว่าเรื่องนี้ มีผู้ก่อเหตุตัวจริงเป็น เด็กและเยาวชนรวม 5 ราย ซึ่งเมื่อขุดข้อมูลลึกลงไปกลับพบว่า เด็กบางคนเป็นถึงลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อวานนี้ ( 17 ม.ค.)มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏคลิปเสียงตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ บังคับขู่เข็ญให้ ลุงเปี๊ยก รับสารภาพคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน พร้อมสั่งเด้งตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง รอง ผกก.สส.สภ.
อรัญประเทศ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยขาดจากต้นสังกัดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามหลังเป็นข่าวใหญ่โต และกลุ่มเด็กที่ฆ่าป้าบัวผัน เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่เรื่องราวกลับเงียบหายเข้าไปในกลีบเมฆ จนสังคมตั้งคำถามว่า ตอนนี้เด็กเหล่านั้นอยู่ไหน
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า
“ข่าวดังแบบนี้ใครจะมานั่งชู 2 นิ้วในร้านน้ำกระท่อม เชนอยู่ในสถานพินิจแล้วถ้าไม่ให้อยู่ในนั้นแล้ว เชนอยู่ไหน?”
และได้คอมเมนต์ใต้โพสต์อีกว่า ลืออะไร…มันเป็นไปไม่ได้หรอกแกร่ วู้ๆๆ , ตัวจริงหรือโคลน คิดจะพักคิดถึงคิดแคท , ไหนๆ วงใน เค้าลือกันว่าอะไร มาบอกให้ฟังหน่อยสิ -ูอยากรู้ พูด
ทั้งนี้ ก่อนหน้าโพสต์นี้ ทางเพจอีซ้อขยี้ข่าว เคยนำข้อมูลของ เชนลูกตำรวจ มาเปิดเผยว่า เชน (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี เด็กที่มีผลการเรียนดีสอบได้เกรด 4 มาตลอด แถมได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเยาวชนไปเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศ จนได้รับรางวัลสร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวมาแล้ว เชนมักบอกกับเพื่อนสนิทในห้องว่าจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อ แต่พอเริ่มเข้าช่วงวัยรุ่นก็เริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้น เวลาส่วนใหญ่คืออยู่กับเพื่อนเริ่มจากกลับบ้านดึกและนอนบ้านเพื่อน เพียงไม่ถึงปีพฤติกรรมค่อยๆ เปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิม เชนคือคนที่จับหัวป้าบัวผันไว้กับน้ำ เชนคือลูกตำรวจที่เชื่อว่าการเป็นลูกพ่อเค้าสามารถทำอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/esornews/posts/pfbid02M4bWA7bo3Eh91gaTJcgny5MecFn6K7hXHtycu36UtQnwRXQX4seHfgRkBU1mXA21l
จับคาด่านชายแดน มันเส้นนำเข้าคุณภาพต่ำ คต.เดินหน้า4มาตรการเข้ม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4381872
จับคาด่านชายแดน มันเส้นนำเข้าคุณภาพต่ำ คต.เดินหน้า4มาตรการเข้ม
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังของไทยและประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ส่งผลให้ในช่วงต่อจากนี้สถานการณ์การซื้อ-ขายมันสำปะหลังมีแนวโน้มคึกคักขึ้น โดยจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือการซื้อ-ขายมันเส้นคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ผู้ค้าบางรายอาจมีการปลอมปนดินทรายหรือซื้อขายมันเส้นที่มีความชื้นสูง เพื่อให้ได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแล้วนำไปขายทำกำไรต่อ ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงมาตรฐานมันเส้นไทย ผู้ซื้อขาดความเชื่อมั่น และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศ คต. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรฐานมันเส้นนำเข้า-ส่งออก จึงต้องคุมเข้มมาตรฐานมันเส้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแก้ไขปัญหา ดังกล่าว จึงได้กำหนดมาตรการ 4 เข้ม คือ 1. เข้มเจ้าหน้าที่กรมฯ 2. เข้มบริษัทตรวจสอบมาตรฐานสินค้า 3.เข้มมาตรฐานมันเส้นนำเข้า และ 4. เข้มมาตรฐานมันเส้นส่งออก ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้มันเส้นที่ไทยนำเข้า-ส่งออก ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังในประเทศอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งสุดท้ายแล้วประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของไทยและผู้ประกอบการเอง
ล่าสุดในช่วงกลางเดือนมกราคม 2567 ชุดตรวจของกรมฯ พบผู้นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ณ ด่านชายแดน 2 ราย จึงได้ลงโทษโดยพักทะเบียนผู้ประกอบการดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถนำเข้ามันเส้นได้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะนำมันเส้นที่มีปัญหาไปปรับปรุงให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 กรมฯ ได้มีการลงโทษผู้นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำไป 7 ราย ส่วนการตรวจคุณภาพมันเส้นส่งออก กรมฯ ได้จับตาผู้ส่งออกแต่ละรายมาโดยตลอด โดยเฉพาะรายที่มีพฤติกรรมซื้อ-ขายสินค้าโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและเสนอขายในราคาต่ำกว่าตลาด จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ และจะส่งชุดตรวจพิเศษที่มีข้าราชการระดับผู้อำนวยการกองหรือชำนาญการพิเศษ (ซี 8) เป็นหัวหน้าชุด ไปสุ่มกำกับการปฏิบัติงานของชุดตรวจให้เป็นไปอย่างเข้มงวดอีกชั้นหนึ่ง
“ปัจจุบันราคามันสำปะหลังเริ่มผันผวน โดยสาเหตุหนึ่งมาจากคุณภาพสินค้า ผมได้สั่งเพิ่มความถี่การส่งชุดตรวจและชุดตรวจพิเศษลงพื้นที่ และผมรวมทั้งผู้บริหารของกรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในจะลงพื้นที่ตรวจในทุกด่านที่มีการนำเข้าเพื่อให้การปฏิบัติงานของชุดตรวจเป็นไปอย่างเข้มงวด”
การตรวจคุณภาพมันเส้นนำเข้าจะดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจคุณภาพมันเส้นส่งออกอย่างเข้มข้น การที่ไทยสามารถรักษาไว้ซึ่งคุณภาพของสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ จะช่วยให้การขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีนซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดหลักเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา ฟิลิปปินส์ ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย และซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น