ร้าน Izakaya ที่มี Omakase บังหน้า เห้ยไม่ใช่ ร้าน Omakase ชื่อดังย่านสี่พระยา ที่ขึ้นชื่อเรื่องรอบจองที่ยากอีกร้านหนึ่งในไทย ที่ต้องบอกว่าผมนั้นไม่ค่อยแปลกใจFillet มีเอกลักษณ์ที่ยากเลียนแบบจริงๆ

Fillet เป็นร้านของเชฟแรนดี้ หนึ่งในเชฟคนแรกๆในไทยที่เริ่มเสริฟ์อาหารแบบโอมาคาเซะ โดยรับเฉพาะลูกค้าที่จองเท่านั้น ที่ร้านนั้นมีเฉพาะคอร์ส 6900++  ผมแนะนำว่าไปที่นี่ทุกท่านไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองสาเกที่แนะนำโดยเชฟแรนดี้ ที่สามารถแนะนำสาเกตาม profile ความชอบของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

อาหารของที่นี้นั้นเป็น Omakase ที่เน้นหนักไปทาง Tsumami ที่ได้กลิ่นอายจากตะวันตกเข้ามามากพอสมควร ผมรู้สึกด้วยซ้ำว่าอาหารของที่นี้มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกมากกว่าญี่ปุ่นเสียด้วยซ้ำ หลายจานในซีซั่นล่าสุดต้องบอกว่าผมรู้สึกทึ่งและประทับใจกับไอเดียที่เชฟนำเสนอมากๆ จานTsumami ทั้งหลายนั้นผมต้องชมว่ายอดเยี่ยมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแก้มปลาอังโกะ , ปลาฮิราเมะกับไอซ์ครีมอังกิโมะ หรือจะเป็นทาร์ตชิราโกะ ผมต้องมันช่างน่าประทับใจจริงๆ ในส่วนของซูชินั้นตัวข้าวของทางร้านมีรสชาติที่จัดจ้าน อร่อยสำหรับทุกคนแน่ๆครับ ข้าวมีความอุมามิ รสเปรี้ยวอ่อนๆอมหวาน มีความเค็มที่ปลายลิ้นอ่อนๆ กลิ่นน้ำส้มสายชูไม่ค่อยแรง เนื้อข้าวค่อนข้างนุ่ม แต่ด้วยรสชาติที่จัดจ้านของมันนี่อาจจะทำให้ มันกลบรสของปลาไปบ้าง รวมถึงการปั้นที่หลายคำเชฟแรนดี้ให้เชฟมือรองในการปั้นทำให้ความเนี้ยบในแต่บางคำนั้นอาจจะไม่เรียบร้อยนัก การปรุงอาหารบางอย่างถ้ามีความเนี้ยบมากขึ้นนั้นน่าจะช่วยยกระดับร้านขึ้นไปอีกขึ้น อย่างวันที่ผมไปนั้นไชเท้าดองบางชิ้น(ไม่รู้ว่าทำเองไหมนะ)ยังมีรากติดมาด้วยเลย

ด้วยเสนห์ของเชฟ อาหารที่มีเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกที่หลายๆคนจะชื่นชอบ Fillet จนทำให้คิวจองยาวนานและเป็นร้านที่จองยากอันดับต้นๆของไทย 

จะมีอะไรบ้างไปชมจากรูปได้เลยครับ



แว๊บแรกนึกว่าจะเป็นไข่ตุ๋นตามสมัยนิยม แต่เชฟฟร้อนท์ก้ไม่ทำให้ผิดหวัง เป็นไข่ตุ๋นจริงๆครับผ่ามมม ไม่ใช่แล้ว เชฟเลือกเสริฟ์มาเป็นNegi puree มากับIkuraและMurasaki uni 

จานนี้ผมชอบมากๆครับแม้กลิ่นอายของมันจะออกไปทางอาหารตะวันตกมากกว่าอาหารเอเชีย ผมเเนะนำให้แบ่งกินหลายๆคำ โดยตัวครีมนั้นกินเปล่าๆจะมีรสของต้นหอมญี่ปุ่นที่อมเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นเขียวลีคอ่อนๆที่ไปกับกลิ่นหอมเย็นของวาซาบิได้เป็นอย่างดี แต่พอกินกันออคุระเเล้วตัวครีมจะหวานขึ้นตัดกับรสเค็มของไข่ปลา  อุนิให้รสครีมมี่หวาน เป็นจานที่ดูเรียบง่ายแต่มีมิติหลากหลายในปากครับ



จานนี้เชฟได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารชาวประมงที่เรียกว่าNamero โดยเชฟนำปลาอาจิสับใส่มิโซะสองชนิดใส่เมียวกะกับต้นหอม รับประทานกับเจลเเตงกวาและแครกเกอร์ข้าว จานนี้ตอนแรกนึกในใจเสริฟ์อาหารรสหนักแบบNameroเลยหรือ 

แต่เชฟสามารถบาลานซ์รสได้ดีทีเดียวครับ รสไบรท์สว่างจากเจลแตงกวา เป็นจานที่รสหนักแต่ไม่จัดนะ และดีมากครับ



คำนี้เป็นทาร์ตShirakoใส่ครีมTurnipและTruffle oil 

จานนี้เป็นจานที่ผมชอบที่สุดในวันนี้ครับ ตัวทาร์ตนั้นแป้งร่วนเบาไม่หนักและกลิ่นเนยไม่แรงนักจนไปรบกวนรสของชิราโกะ  ทาระชิราโกะที่ใส่มานั้นมีความครีมมี่ซึ่งเข้ากับกลิ่นเอริธตี้ของหัวผักกาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนเติมรสเค็มละมุนจากคาเวียร์ที่ช่วยเติมรสเค็มที่ซับซ้อนให้กับคำนี้ได้อย่างดี ก่อนจบกลิ่นทรัฟเฟิลเบาๆช่วยเป็นตัวเชื่อมให้กลิ่นที่หลากหลายผสมผสานอย่างลงตัวครับ 



แฮนโรล ทาร์ทาร์เนื้อสับ ใส่ข้าวซูชิ และใบชิโสะ คำนี้ตัวเนื้อสับมาได้เนียนละเอียดตัวเนื้อปรุงมามีรสเผ็ดนิดๆออกสไตล์เกาหลีๆ มีความกรุบๆจากน้ำเต้าดองให้รสหวาน ก่อนเพิ่มความสดชื่นด้วยชิโสะ 



จานต่อมาเชฟเสริฟ์ ปลาคินเมะได กับมะเดื่อ และดอกฮานะโฮชิโซะ มากับซอสสาหร่ายสาเก

จานนี้ผมไม่ค่อยชอบครับไม่รู้ว่าต้องการสื่ออะไร มีรสอุมามิและกลิ่นเขียวจากสาหร่ายบางๆ ปลาคินเมะได และมะเดื่อ แอบงงๆครับ (ภาพมีMoireขออภัย เวลาไปในร้านอาหารผมชอบตั้งค่าเป็นelectronic shutter ให้ไม่รบกวนท่านอื่น )



Hirame ห่อ white asparagus เสริฟ์มากับ ankimo icecream และ ปลาshirasu ทอด จานนี้ก็ทำออกมาได้ดีมากครับ ไอซ์ครีมankimo รสเบาๆ เค็มนำไม่ค่อยหวานมีความครีมมี่นิดๆเนื้อทำออกมาได้เลยครับรู้สึกถึงความเป็นไอซ์ครีมมากกว่าตับบด พอเอามาทานกับปลาเนื้อขาวกรอบเด้งที่มีรสอุมามิจากการทำคอมบุจิเมะแบบนี้แล้วให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ดีครับ



Monk fish โดยจานนี้เชฟนำแก้มปลาไปย่างเสริฟ์มากับซอสปูขน  เป็นจานที่อร่อยมากๆครับ ปลาเนื้อแน่นฉ่ำมีความมันแทรกตามแบบฉบับปลาMonkที่ดี รสอุามามิแฝงกลิ่นอายทะเลของซอสก็เข้ากับปลาได้อย่างลงตัว ก่อนเบรคด้วยกลิ่นผิวยุสุเบาๆ 

ดีมากครับ



คำล้างปากของเราเป็น สาหร่ายห่อเมียวกะชิโสะหัวไชเท้าสด



คำแรกเป็นปลาChutoro โดยเชฟนำปลาไปวางบนถาดที่ถูกทำให้ร้อนด้วยน้ำก่อนเพื่อนทำให้ไขมันในปลาละลายและทำให้ปลานุ่มขึ้น ตัวปลานั้นเนื้อนุ่มมีมันแทรกแต่ผมกลับรู้สึกว่ารสของข้าวที่ค่อนข้างเข้มข้นของที่นี้เด่นกว่าปลา 

ตัวข้าวที่นี้นั้นทำออกมาได้อร่อยสำหรับทุกคนแน่ๆครับ ข้าวมีความอุมามิ รสเปรี้ยวอ่อนๆอมหวาน มีความเค็มที่ปลายลิ้นอ่อนๆ กลิ่นน้ำส้มสายชูไม่ค่อยแรง เนื้อข้าวค่อนข้างนุ่ม



Aori ika เชฟหั่นมาเป็นเส้นๆก่อนไปทำเป็น Nigiri แต่งรสด้วยมะนาว เลม่อน ผิวเลม่อน เกลือ ก่อนซ่อนKarasumi ไว้ข้างใน จานนี้น่าจะเป็นซูชิที่ผมชอบสุดในวันนี้ครับ ดีมากๆครับ เมื่อเข้าปากเราจะได้ความหวานครีมมี่ของปลาหมึกที่ถูกขับด้วยรสเปรี้ยวที่มีมิติของซิตรัสสองชนิด ก่อนปิดท้ายด้วยรสเค็มอ่อนๆจากคาราซุมิ ซึ่งเข้ากับข้าวที่รสกลมของทางร้านได้อย่างลงตัว อร่อยมากๆครับ 



Uni ตัวต่อมาเป็น Bafun Uni แบรนด์ Kaneshin โดยเป็นแบบ Bara ตัวข้าวเข้มข้น บาฟุนอูนิหวาน 



อามะไดทอดกับแป๊ะก๊วย  จานนี้เชฟทอดปลาทั้งเกล็ดเหมือนกันกับร้านอื่นๆแต่พืเศษตรงเชฟนำปลาไปเเช่น้ำดาชิจากหอยเพื้อเพิ่มความอุมามิ  จานนี้ผมรู้สึกว่าเนื้อปลานุ่มกว่ามาตราฐานครับ ตัวหนังก็กรอบ ตินิดนึงที่อมน้ำมันไปนิด แต่ปลาเท็กเจอรดีครับ



ส่วนซุปที่เสริฟ์มาพร้อมกันนั้นดีมากๆ กลิ่นปลาชัด ซุปเค็มนำอุมามิ เข้มข้นแต่ไม่รู้สึกเเน่นดี



คำนี้เป็นปูเซโกะ คำนี้ผมแอบงงๆครับตัวปูนั้นเท็กเจอร์ค่อนข้างโปร่งเบา แต่ไข่ปูเท็กเจอร์แน่น แต่เท็กเจอร์ข้าวเด่นสุด จนรู้สึกไม่ค่อยลงตัวนักและด้วยความที่รสข้าวของที่นี้เข้มข้นจนมันอาจจะกลบความเด่นของปูไปบ้าง



คำต่อมาเป็น อากามิซึกเกะ  ปลานั้นบ่มจมเป็นเนื้อเยลลี่ตัวโชยุมีรสเค็มอมหวาน ผมรู้สึกว่าคำนี้รสของข้าวค่อนข้างจัดจนอาจจะกลบความเด่นของปลาไปนิดนึง 



ซูชิ คำต่อมาคือปลาหน้าวัว หรือ คาวาฮางิ เชฟนำไปบ่มในคอมบุ เสริฟ์มากับตับของมันและต้นหอม  ตัวเนื้อปลากรอบมีความอุมามิ ตัวตับรสเข้มข้นมีรสเปรี้ยวนิดๆให้อารมณ์เหมือนกินซาวด์ครีม อร่อยครับ



ปิดท้ายมื้อด้วย เนื้อมากุโระส่วนหัวหรือ notenสับ รับประทานกับ ข้าวหุงรากบัว อิคุระ และ ซอสงา รสจานนี้หวานครีมมี ตัวซอสงาและรากขัวเข้ากันได้ดีครับ ตัวข้าวนุ่ม แต่ส่วนตัวผมว่าเอกลัษณ์ของมากุโระถูกกลบด้วยรสซอสไปนิด



Shoyu icecram กับข้าวพอง รสข้าวพองหวานให้อารมณ์เหมือนกับcereal ไอซ์ครีมนั้นมีรสเค็ม ครีมมี่ เนื้อเเน่นดีเหมือนผสมครีมชีสลงไปด้วย

#Score: 

🍾Service:  7.5/10
🍽Food: 7.5/10
🤩WOW factor: 8.25/10
💰Value for money: 7.75/10

Total: 7.75/10

Visit : Oct-2023

🗺เเผนที่ : https://maps.app.goo.gl/5BMNqFvHCx5MUJGEA
⏰เวลาเปิดปิด: on appiontment only
💵ค่าเสียหาย: ~6,900+ THB + ค่าเหล้านับไม่ถ้วน
⌨️เว็บไซต์ร้าน: 

เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา  #บอสพาชิม #eatliketheboss

Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Email : eatlikethebossth@gmail.com