รบกวนเพื่อนๆอ่านให้จบด้วยนะครับ #เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมกับเพื่อนแชร์ค่าห้องด้วยกันตลอด จนมาวันหนึ่งผมมีแฟน แล้วผมก็ไปนอนห้องแฟนทุกคืนและกลางวันผมก็กลับห้องที่ผมแชร์กับเพื่อนผมผมทำอย่างงี้มาประมาณ4-5เดือนแล้ว แต่ค่าห้องค่าน้ำค่าไฟผมจ่ายครึ่งๆกับเพื่อนตลอดทั้งๆที่ผมแทบไม่ได้ใช้ไฟใช้น้ำเลย แต่ผมไม่มีเคยมีปัญหาเรื่องนี้ เพราะผมเต็มใจจ่ายผมก็ไม่มีปัญหา
 
  และแล้วก็ผมถามเพื่อนว่าแฟนจะย้ายมาอยู่ไหม เพราะความคิดผมคือเขามานอนมากินมาใช้น้ำไฟฟรีๆและเขาเอาของมาพร้อมจะย้ายมาอยู่แล้วแต่ผมก็ไม่ได้พูดกับเพื่อนนะประโยคนี้ เพื่อนก็แจ้งผมว่าแฟนเขายังไม่พร้อมจะย้ายมาเนื่องจาก ที่ห้องผมมันไกลจากที่ทำงานค่ารถไปกลับมานี้วันละ200 แต่ถ้าเกิดแฟนเขาอยู่ห้องตัวเองก็คือห้องพักของแฟนเขามันอยู่ไกล้ที่ทำงาน เดินไปทำงานก็ได้ไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายแต่ถ้าย้ายมาอยู่ที่ห้องที่ผมแชร์ค่าห้องกับเพื่อน ค่าใช้จ่ายมันเยอะ และเพื่อนก็บอกว่าแฟนเขาขอเก็บเงินก่อนได้มั้ย ผมก็โอเคร ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
 
  แต่แฟนเพื่อนผมก็ยังมาทุกวันเหมือนเดิม(ทั้งๆที่บอกว่าขอเก็บเงินก่อนค่ารถไปกลับละวัน วันละ200บ.) ประมาณแบบว่าถามเพื่อนช่วงเที่ยงแต่ตอนเย็นก็มาเหมือนเดิมเลย ผมก็เก็บมาคิดว่าทำไมเขาบอกขอเก็บเงินก่อน แต่ยังมาได้ทุกวันถ้าเอาเงินค่ารถไปเก็บเตรียมย้ายจะดีกว่ามั้ย แต่เหมือนว่าสิ่งที่ผมถามไปจะไม่กระทบกระเทือนแฟนเขาเลย ยังมาทุกวัน และอีกอย่างบางวันผมก็ไม่แน่ใจว่าวันหยุดเขาจะแบบเปิดแอร์ทั้งวันหรือป่าว (ถ้ามานานๆครั้งผมไม่ติดเปิดไปเลยแอร์อะกลางคืนก็เปิดไปเลยทั้งวัน) แต่ถ้ามาทุกวันขนาดนี้ผมก็ไม่ไหวเดียวจะค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เขาเอามาใช้อีก แต่ผมก็ไม่กล้าบอกอยู่ดีว่าค่าไฟนะผมคนจ่าย ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เลย แต่อย่างที่ผมบอกผมเต็มใจจ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว แต่อย่างที่ผมได้เล่าไป มันยังไงๆ ผมดอึดอัดไม่กล้าพูดเพราะกลัวจะหักกัน

  เพื่อนคนนี้รู้จักกันมาหลายปีแล้วตั้งแต่อายุ16จนตอนนี้23 #เพื่อนๆคิดว่ายังไงบ้างครับ