บริษัทแห่งหนึ่งปรับลด รปภ. ลง 30% (ในเบื้องต้น) โดยใช้กล้อง เซ็นเซอร์ และประมวลผลโดย AI ในการตรวจสอบความปลอดภัยแทน

จริงๆ แล้วการเอา AI มาแทนมนุษย์มันจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น พอพนักงานลาออกก็ไม่รับเพิ่ม
และถึงจะให้ออกเพราะมี AI มาทำแทนจริงๆ ด้วยเหตุผลทางกฎหมายเขาจะไม่บอกว่าไล่ออกเพราะมี AI มาทำแทนครับ

เพิ่มเติม :
การปรับลดพนักงานลง ตัวอย่างเช่น MK สุกี้ เอาโรบอทมาแทนพนักงานเสิร์ฟ อย่างสาขานึงที่ผมไปประจำ เป็นสาขาใหญ่
เมื่อก่อนมีพนักงานเป็นสิบกว่าคน ทุกวันนี้เหลือไม่ถึงสิบคนแล้ว

พนักงานรับโทรศัพท์ของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งก็ถูกลดลง เพราะเขาใช้ AI มาตอบคำถามทั่วไปแทน (Chatbot)
แม้ว่ามันจะทำได้ไม่เหมือนคนจริงๆ แต่ก็เห็นการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ (เราถึงไม่ได้คุยกับคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นคนจริงๆ สักที)

ในอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อก่อนใช้แรงงานคนจำนวนมาก ตอนนี้มีแต่หุ่นยนต์อัตโนมัติ
บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไทย มีกี่โรงงานที่จ้างคนเป็นร้อยเป็นพันคนเหมือนเมื่อก่อน

ในวงการราชการก็เช่นกัน ตอนนี้หลายหน่วยงานใช้ AI ประมวลผลข้อมูล เช่น ภาษี หรือแม้แต่การฟ้องศาล
ที่คำฟ้อง คำร้องต่างๆ จะส่งตรงไปที่ผู้พิพากษาโดยไม่ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ศาลอีกต่อไป (โดยหลักการ)

อย่างที่บอกว่าการเลิกจ้างมันอาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่มันจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
พนักงานลาออกก็ไม่รับคนเพิ่ม หรือรับเพิ่มในตำแหน่งที่จะมาคุม AI อีกที