เรากับสามี อยู่ด้วยกันมา 25 ปี มีลูกชาย 2 คน ลูกคนโตค่อนข้างเกเร สามีเลยให้ออกจากงานที่ทำ มารับจ็อบที่บริษัทเขาแทน จะได้มีเวลามาดูแลลูก ก่อนออกจากงานเราได้เงินเดือน 40,000 บาท สามีให้เดือนละ 50,000 พอลาออกมา สามีให้เดือนละ 100,000 (ค่าใช้จ่ายทุกอย่างอยู่ตรงนี้หมด) ออกมาช่วงจังหวะโควิดพอดี บริษัทสามีเริ่มมีปัญหา เงินที่เคยให้เดือนละ 100,000 ลดเหลือ 50,000 แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม เงินเริ่มไม่พอใช้ เราก็เลยหารายได้เพิ่มด้วยการทำขนมขายบ้าง ใครชวนลงทุนหุ้นทำร้านกาแฟ เราก็ลง สุดท้ายกลายเป็นว่าเงินเก็บหมด แถมมีหนี้อีก ปัญหาตรงนี้ไม่เคยบอกสามี เพราะคิดว่าตัวเองก่อ ก็พยายามจะแก้ให้ผ่านไปได้ แต่ยิ่งดิ้น มันยิ่งรัด จนเจ้าหนี้มาทวงที่สามี ซึ่งเราไม่รู้ว่า ณ ตอนนั้นเขามีเงินขนาดไหน ด้วยความที่ไม่เคยก้าวก่ายการเงินเขา ให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เจ้าหนี้ที่มาทวง สามีก็ใช้คืนให้ทั้งหมด เราก็รู้สึกโล่ง หายเครียด ขอบคุณสามีที่ช่วย แต่ก็ไม่มีการคุยว่าหนี้เกิดได้ยังไง แต่หลังจากใช้หนี้ให้ สามีเหมือนเป็นเจ้าชีวิตเรา ทำอะไรไม่เคยปรึกษา พูดจาไม่เคยถนอมน้ำใจ ติดเพื่อน ดื่ม เที่ยว ทุกวัน (ทุกวันจริงๆ ค่ะ) ปล่อยให้เราอยู่กับลูกตามลำพัง วันหยุดก็ไปเที่ยวกับเพื่อนทุกอาทิตย์ เวลาไปเที่ยวเขาก็จะมาชวน แต่ที่ที่เขาไปเราไม่ชอบ และเราก็ไม่อยากไปเป็นแม่ครัว คอยทำอาหารให้กิน แค่กับลูกเราก็เหนื่อยมาก (ลูกคนโต 18 คนเล็ก 5 ขวบ) แม่สามีป่วย ก็พามาอยู่บ้านให้เราคอยดูแลอีก วันๆ เราแทบจะไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย เราเคยบอกสามีว่าเราเหนื่อย ให้ข่วยดูลูก ดูแม่เขาหน่อยได้ไหม เขาก็จะเงียบ พฤติกรรมก็เหมือนเดิม จนตอนนี้เรารู้สึกว่า ไม่อยากพูดคุยกับเขา ไม่อยากเห็นหน้า เราไปส่งลูกที่โรงเรียนจอดรถอีกซอย รอเขาออกจากบ้านถึงเข้าบ้าน บอกเขาโทรศัพท์พัง เพื่อให้เขาไม่ต้องโทรหา รู้สึกดีเวลาเขากลับดึก เราไม่มีเพื่อนสนิท วันๆ ดูแลแม่สามี พาไปหาหมอ ทำงานบ้าน รับ-ส่งลูก วนลูปแบบนี้ทุกวัน จนวันนี้มีคนมาบอกอิจฉาเรา งานไม่ต้องทำ สามีเลี้ยงดูอย่างดี เราก็ได้แต่ยิ้ม แต่ข้างในนี่แทบร้อง
เราควรจะจัดการความรู้สึกของเราที่มีต่อสามียังไงดีคะ ที่จะไม่ให้รู้สึกแย่ไปกว่านี้ค่ะ
แบบนี้เรียกว่าหมด Passion ไหมคะ
เราควรจะจัดการความรู้สึกของเราที่มีต่อสามียังไงดีคะ ที่จะไม่ให้รู้สึกแย่ไปกว่านี้ค่ะ