สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากจะสอบถามครับ ผมกำลังมีปัญหาเรื่องความรัก รู้สึกเครียดและกดดันมากๆครับ เลยอยากจะสอบถามขอความคิดเห็นหน่อยนะครับ

ในชีวิตผม ผมเคยมีแฟนมาทั้งหมด 3 คน คนแรก คบมา10ปี ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย สุดท้ายก็เลิกกันไป สาเหตุแห่งการเลิก เป็นเพราะติดเพื่อน ชอบเที่ยว ชอบสังสรรค์ พอเลิกกัน ผมก็ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ลดการเที่ยวกลางคืน การสังสรรค์ อาจจะไปบ้าง นานๆครั้ง ประมาณเดือนหรือสองเดือนครั้งนึง

คนที่สอง คบกันเป็นแฟนประมาณสามปี แล้วแต่งงานกันมีลูกด้วยกันสามคน ครอบครัวปกติสุขดี มีลูกๆที่น่ารัก ซึ่งฟังดูแล้ว ก็น่าจะโอเคดี ไม่มีปัญหาอะไร หน้าที่การงานก็ดี ครอบครัวก็เป็นสุข สุดท้ายก็เกิดจุดเปลี่ยน จริงๆแล้ว เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน สาเหตุหลัก มาจากผม ผมอยากทำธุรกิจ หารายได้หลายๆทาง เอามาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะลูกคนแรกผมป่วยหนัก ค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงมากๆ ประกันชีวิตที่ทำไว้ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแค่บางส่วน  เลยทำให้ผมไม่สามารถทำประกันให้ลูก เพื่อสามารถใช้ยามฉุกเฉินได้ เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ ค่ารักษาพยาบาลสูงมาก เพราะถือประกันไว้แค่ฉบับเดียว ส่งผลทางการเงินของครอบครัวอย่างมาก ผมเลยต้องทำงานหนัก หาเงินมาให้ครอบครัว อดีตภรรยาช่วยเหลืองานบริษัทที่เราเปิดขึ้นมา ขายของโรงงาน มีงานบ้าง แต่ไม่มาก เราช่วยกันทำงาน ช่วยกันดูแลลูก ก็พอที่จะผ่านพ้นมาได้ แต่ปัญหาหลักที่ทำให้เลิกกันคือ ธุรกิจที่ผมทำ แทนที่เราจะใช้เงินเป็นเงินเก็บหรือเงินสำรองยามฉุกเฉิน ผมกลับเอาเงินก้อนสำคัญนี้ไปลงทุน หลายๆครั้ง แล้วก็ต้องเจ็บตัวกลับมาทุกครั้ง แทนที่จะมีผลกำไร ทำให้ครอบครัวไปได้ ผมกลับเป็นคนทำให้ครอบครัวต้องลำบาก คนที่อยู่ข้างๆเราก็พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย ด้วยปัญหาทางการเงินที่ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ทำมห้เราเริ่มพูดกันไม่ดี ใช้อารมณ์และคำพูดที่ไม่ดี แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่เคยนอกใจนะครับ สุดท้าย เมื่อไม่ไหว เราเลยต้องแยกทางกัน จบความสัมพันธ์แปดปีที่อยู่ด้วยกันมา ความสัมพันธ์จบลงแบบแย่มาก เพราะคุยกันไม่ดีมากๆ จากที่เคยมีครอบครัวใหญ่ที่รักกันมากๆ ไปไหนไปกัน มันจบลงแบบแย่ๆ สองครอบครัวมองหน้ากันไม่ติด แต่เราก็ยังจำเป็นที่ต้องติดต่อกัน เนื่องจากเรื่องของลูกๆ ลูกๆทั้งสามคน อยู่กับผมทั้งหมด ผมดูแลทั้งหมด ส่วนอดีตภรรยา ก็มีมาหาลูกบ้าง ประมาณเดือนละครั้งหรือสองครั้ง

ผ่านมาสามปี ผมอยากจะลองเปิดโอกาสให้กับตัวเอง กับความรักครั้งใหม่ ผมปรับปรุงตัวขึ้นมามากๆ เริ่มออกกำลังกาย แทบไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลย น้อยมากๆ เดือนนึง จะดื่มเบียร์ซักสองขวด ตั้งมั่นที่จะควบคุมอารมณ์ ไม่ใช้คำพูดที่ไม่ดี อาจจะมีเสียงดังบ้าง เพราะเป็นคนพูดจาเสียงค่อนข้างดัง ไม่เที่ยวกลางคืนเลย อยู่บ้าน ดูหนัง ทำกับข้าว เล่นกับลูก เป็นคุณพ่อที่ดี การงานการเงิน ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ อยู่ได้ แต่ยังไม่มีเงินเก็บ ต้องใช้เวลาเคลียร์การเงินอีซักสองปี จะเข้าที่ คล่องตัวขึ้นมากๆ เรียกได้ว่า ชีวิตดีขึ้นตามลำดับ เลยอยากจะมีใครซักคน ที่รัก มาอยู่เคียงข้างกัน

ผมเริ่มหาแฟนผ่านระบบออนไลน์ ผ่านแอพบ้าง ผ่านกลุ่ม community คนโสดบ้าง มีเคยลองคุยกันมาบ้างหลายคนอยู่ อาจจะมีคนที่เราถูกใจเค้า แต่เค้าไม่ถูกใจเรา และก็มีคนที่ชอบเรา แต่เราอาจจะยังไม่ถูกใจเค้า เลยทำให้ยังไม่มีคนที่ถูกใจ

จนกระทั่งมาเจอคนนึง คนนี้ ผมถูกใจมาก รับได้แม้ผมเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีหน้าที่การงานดี มีความรู้ มีความสามารถ เลยลองตัดสินใจลองคบดู เค้าเป็นคนนิสัยดี แต่ติดที่ขี้งอน คือโดยนิสัยส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบการงอน ถ้างอนใส่ผม แทนที่ผมจะง้อ ผมจะอธิบายด้วยเหตุผล ว่างอนทำไม เรื่องนี้ ไม่น่างอน แต่หลังๆ ผมเริ่มปรับตัวกับการงอน งอนก็ง้อ ไม่ถามหาเหตุผลมากนัก เอาเป็นว่า ง้อไว้ก่อน พูดจาดีๆ ไม่พูดไม่เพราะ แค่โทนเสียงเปลี่ยน เริ่มมีอารมณ์โกรธ ก็คอยเตือนกัน ให้อารมณ์เย็นลงอย่างรวดเร็ว มีปัญหาอะไร ก็รีบเคลียร์ ไม่ให้ค้างคาใจ เดี๋ยวอีกฝ่ายจะนอนไม่หลับ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ออกกำลังกายบ่อยๆ แทบไม่ดื่มเลย น้อยมากๆ สองสามเดือน เบียร์ซักขวดสองขวด ฟังๆดู ก็น่าจะดี ไม่มีปัญหาอะไรกับรักครั้งนี้

แต่มันมีสิ่งนึง ที่ทำให้ผมเครียดมากๆ ผมปรับตัวเองให้ดีขึ้นมากๆขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่วาย จะมีปัญหา

ปัญหาคือ ด้วยการที่ผมเคยแต่งงานมาแล้ว ผมมีลูกที่ต้องดูแล อดีตภรรยา ก็จะมีการติดต่อมาบ้าง เรื่องลูก ผมมีโทรศัพท์มือถือให้ลูกๆ คนละเครื่อง เค้าจะโทรลูกประจำ เมื่อก่อนโทรบ่อยมาก จนลูกบอกว่า พ่อช่วยบล็อกแม่ได้มั้ย หลายๆรอบเข้า เลยต้องขอบล็อก ความสัมพันธ์กับภรรยาเก่า มันจบแบบแย่ๆ และความรู้สึกแย่ๆ ก็ยังคงอยู่ แต่ผมก็พยายามข่มใจ คุยกันดีๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ไม่ได้อยากจะกลับไปคืนดี เค้ามีทางเดินใหม่ของเค้า เค้ามีแฟนใหม่เป็นตัวเป็นตน อยู่บ้านเดียวกัน ผมไม่เคยคิดจะไปง้อขอคืนดี หรืออะไรทั้งสิ้น เราคุยกันแค่หน้าที่ความเป็นพ่อเป็นแม่ มีแค่นั้นจริงๆ ติดต่อกันแค่เดือนละครั้ง สองครั้ง เรื่องค่าเทอมบ้าง เรื่องลูกไม่สบายบ้าง หรือนัดหมายว่าเค้าจะมาที่บ้าน มารับลูกไปเที่ยวบ้าง เรื่องที่คุย มีแค่นี้จริงๆ คุยสั้นๆ ไม่ได้สวีทอะไร

ตอนที่พบแฟนคนปัจจุบัน ผมได้บอกข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ทั้งการที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีลูกสามคน มีอะไร ผมบอกหมด ผมเอง ก็คาดการณ์ว่า อย่างน้อยเค้าก็คงรู้ และเข้าใจ ว่าผมต้องติดต่ออดีตภรรยาอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นแบบนั้น เค้าบอก เค้าไม่รู้ว่าผมยังจำเป็นที่ต้องติดต่ออดีตภรรยาอยู่ เค้าไม่อยากให้อดีตของผม มาวนเวียนในชีวิต ไม่ว่าจะมากหรือน้อยยังไงก็ตาม คือ ไม่ต้องติดต่อกันเลย แต่มันเป็นไปได้เหรอ เค้าเอง ควรเข้าใจเรื่องนี้ ตั้งแต่แรก เพราะผมบอกข้อมูลทั้งหมด ทุกแง่มุมไปหมดแล้ว

ผมเองก็พยายามปรับมาเยอะมาก ติดต่อที่จำเป็นเท่านั้น แต่สิ่งที่เค้าต้องการ คือไม่ต้องคุยกันเลย คือผมเอง ก็คุยแค่ธุระจริงๆ สั้นๆ ไม่ได้ยาว แต่แฟนคนปัจจุบัน ก็สร้างความเครียด ความกดดันให้ผมมากๆ ในเรื่องนี้ ผมทุกข์มาก ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

เคเาขอให้ผมบอกเค้าทุกครั้ง หากผมมีการติดต่อกับอดีตภรรยา เค้าเลือกที่จะให้ผมบอก แต่พอผมบอก เค้าก็เครียด เสียใจ งอน สุดท้าย ทุกข์นั้น มันก็กลับมาที่ผมอึกอยู่ดี ผมเอง ไม่อยากจะบอก เพราะจะได้ไม่ต้องทุกข์ ซึ่งถ้าเค้าบอกให้ผมบอกทุกครั้ง เค้าควรรับให้ได้ แต่เค้าไม่เคยรับได้เลย สุดท้าย ผมเองก็ทุกข์ทุกครั้ง ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี

ผมเอง ไม่ได้อยากเลิก ผมรักหลายๆอย่างในตัวเค้า และผมปฏิญาณตนว่า ผมจะไม่บอกเลิกง่ายๆ ผมเลยพยายามอย่างถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้ ผมไม่ไหวกับความรู้สึกนี้แล้ว แต่ผมก็ไม่อยากที่จะจบความสัมพันธ์นี้ลง มันกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ตัวผมบริสุทธิ์ใจ ๆม่มีอะไรเกินเลย เรื่องไม่น่าทุกข์ แต่ก็ต้องกลับมาทุกข์

มันง่ายมากเลยนะครับ แค่เค้าเปิดใจบ้าง ผมก็ไม่ทุกข์แล้ว ผมคุยแต่เรื่องจำเป็นจริงๆ ไม่บ่อย แต่เค้าบอกว่าเค้าทำไม่ได้ พอเค้าทำไม่ได้ ผมก็ต้องมาทุกข์ซ้ำๆ ย้ำๆ แบบไม่มีวันจบแบบนี้เหรอครับ

หรือ ผมควรจะจบความสัมพันธ์นี้เลยมั๊ย ผมเครียดมากๆๆๆๆๆๆ ครับ

ผมหวังว่า แฟนผมคงได้มาเห็น และเข้าใจผมบ้าง ได้นำมุมมองจากคนที่ให้คำแนะนำ ไปปรับกับความรู้สึกตัวเองบ้าง เพราะผมพูดกี่ครั้ง เหมือนเค้าไม่ได้พยายามที่จะปรับในส่วนนี้เลย ผมเอง บอกเตือนเรื่องนี้ ก็ทำไม่ได้

เครียดมากๆ ครับ

ขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยแนะนำนะครับ ขอบคุณครับ