สวัสดีเพื่อนๆที่ชอบอ่านเรื่องลี้ลับทุกๆท่านครับ วันนี้ผมมีเรื่องแปลกๆที่ชวนให้นึกถึงทีไรก็อดจะขนลุกไม่ได้มาแชร์ให้เพื่อนๆได้ฟังครับ
บอกก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่นักเขียน แค่มาถ่ายทอดเรื่องที่เห็นและได้ยินมาโดยที่เรื่องนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เกิดกับตัวผมเองนะครับ
แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับน้องญาติ(ลูกพี่ลูกน้องของแฟนผม)
ก็พิมพ์มาหลายบรรทัดแล้วมาเริ่มกันดีกว่า
อย่างที่บอกข้างต้นครับเรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องญาติของแฟนผม และเรื่องที่เกิด เกิดในจังหวัดเล็กๆจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน
โดยที่โรงเรียนของน้องเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด ถือว่าดังเลยแหละ
ทีเด็ดของห้องนี้คือเด็กห้องนี้เรียนเก่งมากสามารถจบม.6 สอบติดหมอ,เภสัช กันแทบยกห้องจาก 53 คน เหลือเพียง 1 หรือ 2 คนที่ไม่ได้เป็นหมอ,เภสัช
ซึ่งน้องเองก็สอบติดแพทย์เหมือนกัน
หลังจากที่ทุกคนสอบเสร็จแล้วและคิดว่าอีกนานกว่าจะได้เจอกัน จึงได้มีความคิดที่จะต้องหากิจกรรมอะไรที่เป็นความทรงจำร่วมกัน
และมีเพื่อนคนนึง ผมขอใช้ชื่อสมมุติว่าเอก็แล้วกันครับ
เอเนี่ยมีความคิดที่ว่าทำไมเราไม่นำสิ่งของของเพื่อนๆทุกๆคนมารวมอยู่ในกล่องพร้อมข้อความที่อยากจะบอกฝังลงไป
รอวันที่ทุกคนเรียนจบแล้วมารวมตัวกันขุดมันขึ้นมาดูอีกที เพื่อย้อนความทรงจำว่าเราได้เขียนอะไรลงไปและได้ฝังอะไรลงไว้ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “ไทม์แคปซูล”
พออ่านถึงจุดนี้เพื่อนๆเริ่มรู้สึกอะไรไหมครับ....
แน่นอนเพื่อนๆทุกคนต่างเห็นด้วยว่ามันเป็นไอเดียที่ดีมากเหมือนหนังเกาหลี
ทุกคนจึงนัดกันเอาของเตรียมที่จะเอาเข้าในกล่องและเขียนความรู้สึกของตัวเองลงไปเพื่อที่อีก6 ปีข้างหน้าจะกลับมาเปิดด้วยกัน
ในวันที่รวบรวมของจะเอามาฝัง มีบางคนนำรูปถ่ายขาวดำของเพื่อนๆ นำลงมาใส่ในกล่องด้วย
ส่วนคนอื่นๆส่วนใหญ่จะเขียนข้อความและของใช้ส่วนตัวลงไป
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ปิดกล่อง นำไปฝังโดยมีเพื่อนที่ขุดขอสมมุติชื่อเป็น B และคนที่ฝังขอใช้ชื่อเป็น C และD นะครับ
โดยสถานที่ที่ขุดหลุมฝังเจ้ากล่องนี้ คือใต้ต้นไม้ใหญ่ในถนนเล็กๆในโรงเรียน
หลังจากขุดหลุมฝังเสร็จเพื่อนทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างที่บอกครับส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนแพทย์ โดยมีหลายคนที่สอบติดแพทย์ของมหาวิทยาลัยในจังหวัด นอกนั้นก็จะกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ
และเรื่องราวนี้ก็ค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลา.....
จนเวลาก็ล่วงเลยไปหลายปี(ปี6) น้องญาติก็ได้ข่าวว่าเพื่อนในห้องคนแรกได้ไปเที่ยวทะเล ลงไปเล่นน้ำและโดนคลื่นพัดจมน้ำเสียชีวิต เพื่อนๆจึงนัดรวมตัวกันไปงานศพ
เหตุการณ์เริ่มมาอีกครั้งเมื่อปรากฏว่ามีเพื่อนอีกคนไปเตะฟุตบอลและหัวใจเกิดหยุดเต้นกะทันหัน โดยเพื่อนๆแพทย์ต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ยื้อชีวิตไม่ได้ ทำให้ต้องนัดรวมกันอีกครั้งเพื่อไปงานศพ
และอีกครั้งที่เพื่อนๆต้องนัดรวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อน้องญาติได้ข่าวว่าเพื่อนในห้องอีกคนมีอาการลิ่มเลือดอุดตันที่ก้านสมอง จนต้องนอนติดเตียง (ปัจจุบันก็ยังคงนอนติดเตียงอยู่)
จนมาถึงอีกคน(อันนี้ กำลังจะเรียนต่อทนาย) เสียกะทันหัน โดยแม่น้องเค้าเห็นว่าสายแล้วทำไมไม่ลงมา เลยขึ้นไปตาม และก็อย่างที่เพื่อนๆคิดนี่แหละ น้องเค้าได้เสียไปแล้ว (ภาวะหัวใจล้มเหลว)
ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาไร่เรี่ยกันไม่ถึง6เดือน .....
พออ่านถึงตอนนี้มันเหมือนเหตุบังเอิญที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วไป เพียงแต่บังเอิญตรงที่ว่า
มีเพื่อนคนหนึ่งได้มาดูรูปเก่าๆที่ได้ถ่าย และก็ได้เจอรูปที่ถ่ายไว้ตอนกำลังขุดฝัง ไทม์แคปซูล ซึ่งเมื่อเรียงลำดับพบว่า
คนแรกที่เสียชีวิตคือน้องเอคนที่เสนอไอเดีย
ส่วนคนที่ 2ที่เสียชีวิตคือนายบีคนที่ขุดหลุมเตรียมใส่กล่อง
และแน่นอน….คนที่ 3 คือนายC คนที่ 4 คือนายD ที่ช่วยกันขุดหลุมเหมือนกัน ซึ่งในภาพถ่ายทุกคนถือจอบเสียมในมือ กำลังช่วยกันขุดหลุมฝัง
พอเพื่อนๆรวมตัวกันและได้พูดคุยกันถึงได้เริ่มฉุกคิดขึ้นได้ว่ามันมีอะไรแปลกๆ ยังดีที่มีคนที่โยงเหตุการณ์ได้ว่าหรือว่าจะเกี่ยวกับกล่องที่พวกเราฝังลงไป(โดยอ้างอิงจากรูป)
เลยลองไปปรึกษาพระดู พระได้ฟังก็บ่นงึมงำ บอกให้รีบขุดเอากล่องนั้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุดและให้นำกลับมาให้ที่วัด และห้ามเปิดกล่องเด็ดขาด
พอได้ข้อสรุปดังนั้นแน่นอนครับความวุ่นวายก็บังเกิด….(ทางญาติๆแฟนนี่ถึงกับต้องรวมญาติเพื่อประชุมกันเลย)
และเนื่องจากว่าน้องๆทุกคนต่างก็ต้องฝึกงานตามโรงพยาบาลต่างๆแต่ก็ต้องลางานเพื่อมาเคลียร์เรื่องนี้ก่อน
แถมหากล่องไม่เจอเพราะนานมากแล้ว (ต้องไปปรึกษาคุณครู แน่นอนเจอครูด่ากรอกหู) ต้องสุ่มๆขุดไป ฟังครูบ่นไป.....
ขุดจนค่ำ(ประมาณ 2ทุ่ม)กว่าจะเจอ...
หลังจากที่ขุดกล่องขึ้นมาก็รีบนำไปให้พระ ท่านก็สวดมนต์ (สวดไปด้วยบ่นไปด้วยอีกแล้ว)
สวดเสร็จก็ให้ช่วยกันเอากล่องนี้ไปลอยน้ำ และแน่นอนว่าห้ามเปิดกล่อง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาประมาณ 10 กว่าปีแล้วก็ยังไม่มีเหตุการณ์ใครตายเพิ่มอีก
ที่นี้ถ้าย้อนกลับไปดูอดีตที่ตั้งก่อนที่จะไปโรงเรียนนี้...
ตามที่ชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่แถวนั้นเล่าไว้ว่าที่ตรงนี้มีประวัติสมัยโบราณเคยเป็นลานประหารมาก่อน จนเวลาล่วงเลยมาเป็นพื้นที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียน
ซึ่งตอนสำรวจพื้นที่ได้มีการขุดลงไปเจอโครงกระดูกมนุษย์
แถมมีเรื่องเล่าหลอนๆในมหาลัย และโรงเรียนนี้ ที่มีคนพบเจอบ่อยๆ ให้ได้ยินกัน
ลองมานึกๆตามเหตุการณ์นี้ก็อดขนลุกไม่ได้ครับ จากห้องที่เพื่อนๆทุกคนเรียนจบและกำลังจะเป็นแพทย์กัน กลับต้องมีเหตุการณ์ประหลาดๆเกิดขึ้น
เพียงเพราะได้นำสิ่งแปลกปลอมใส่รวมไปในที่ของเค้า(โดยมีข้อมูลรูปของทุกคน)
และถ้าไม่มีคนฉุกคิดเรียบเรียงเหตุการณ์นี้ หรือปล่อยไป หรือขุดไม่เจอกล่อง จะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อจากนี้
เพียงเพราะไอเดียไทม์แคปซูล.....หรือความบังเอิญ เท่านั้นเอง
ส่งท้ายนะครับ...เรื่องนี้เรื่องจริงครับ น้องที่เสียชีวิตคนจริงนะครับ
ส่วนที่เขียนมาจากการคุยกับน้องจำนวน 2คน เพื่อเก็บข้อมูลที่สำคัญและลำดับเหตุการณ์ที่ถูกต้องมาเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
มีข้อคิดเห็นยังไงก็คอมเม้นท์มาคุยกันได้นะครับ(แต่ห้ามด่านะครับ) ขอบคุณที่อ่านนะครับผม...... =/l\=
ไทม์แคปซูล
บอกก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่นักเขียน แค่มาถ่ายทอดเรื่องที่เห็นและได้ยินมาโดยที่เรื่องนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เกิดกับตัวผมเองนะครับ
แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับน้องญาติ(ลูกพี่ลูกน้องของแฟนผม)
ก็พิมพ์มาหลายบรรทัดแล้วมาเริ่มกันดีกว่า
อย่างที่บอกข้างต้นครับเรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องญาติของแฟนผม และเรื่องที่เกิด เกิดในจังหวัดเล็กๆจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน
โดยที่โรงเรียนของน้องเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด ถือว่าดังเลยแหละ
ทีเด็ดของห้องนี้คือเด็กห้องนี้เรียนเก่งมากสามารถจบม.6 สอบติดหมอ,เภสัช กันแทบยกห้องจาก 53 คน เหลือเพียง 1 หรือ 2 คนที่ไม่ได้เป็นหมอ,เภสัช
ซึ่งน้องเองก็สอบติดแพทย์เหมือนกัน
หลังจากที่ทุกคนสอบเสร็จแล้วและคิดว่าอีกนานกว่าจะได้เจอกัน จึงได้มีความคิดที่จะต้องหากิจกรรมอะไรที่เป็นความทรงจำร่วมกัน
และมีเพื่อนคนนึง ผมขอใช้ชื่อสมมุติว่าเอก็แล้วกันครับ
เอเนี่ยมีความคิดที่ว่าทำไมเราไม่นำสิ่งของของเพื่อนๆทุกๆคนมารวมอยู่ในกล่องพร้อมข้อความที่อยากจะบอกฝังลงไป
รอวันที่ทุกคนเรียนจบแล้วมารวมตัวกันขุดมันขึ้นมาดูอีกที เพื่อย้อนความทรงจำว่าเราได้เขียนอะไรลงไปและได้ฝังอะไรลงไว้ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “ไทม์แคปซูล”
พออ่านถึงจุดนี้เพื่อนๆเริ่มรู้สึกอะไรไหมครับ....
แน่นอนเพื่อนๆทุกคนต่างเห็นด้วยว่ามันเป็นไอเดียที่ดีมากเหมือนหนังเกาหลี
ทุกคนจึงนัดกันเอาของเตรียมที่จะเอาเข้าในกล่องและเขียนความรู้สึกของตัวเองลงไปเพื่อที่อีก6 ปีข้างหน้าจะกลับมาเปิดด้วยกัน
ในวันที่รวบรวมของจะเอามาฝัง มีบางคนนำรูปถ่ายขาวดำของเพื่อนๆ นำลงมาใส่ในกล่องด้วย
ส่วนคนอื่นๆส่วนใหญ่จะเขียนข้อความและของใช้ส่วนตัวลงไป
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ปิดกล่อง นำไปฝังโดยมีเพื่อนที่ขุดขอสมมุติชื่อเป็น B และคนที่ฝังขอใช้ชื่อเป็น C และD นะครับ
โดยสถานที่ที่ขุดหลุมฝังเจ้ากล่องนี้ คือใต้ต้นไม้ใหญ่ในถนนเล็กๆในโรงเรียน
หลังจากขุดหลุมฝังเสร็จเพื่อนทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างที่บอกครับส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนแพทย์ โดยมีหลายคนที่สอบติดแพทย์ของมหาวิทยาลัยในจังหวัด นอกนั้นก็จะกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ
และเรื่องราวนี้ก็ค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลา.....
จนเวลาก็ล่วงเลยไปหลายปี(ปี6) น้องญาติก็ได้ข่าวว่าเพื่อนในห้องคนแรกได้ไปเที่ยวทะเล ลงไปเล่นน้ำและโดนคลื่นพัดจมน้ำเสียชีวิต เพื่อนๆจึงนัดรวมตัวกันไปงานศพ
เหตุการณ์เริ่มมาอีกครั้งเมื่อปรากฏว่ามีเพื่อนอีกคนไปเตะฟุตบอลและหัวใจเกิดหยุดเต้นกะทันหัน โดยเพื่อนๆแพทย์ต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ยื้อชีวิตไม่ได้ ทำให้ต้องนัดรวมกันอีกครั้งเพื่อไปงานศพ
และอีกครั้งที่เพื่อนๆต้องนัดรวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อน้องญาติได้ข่าวว่าเพื่อนในห้องอีกคนมีอาการลิ่มเลือดอุดตันที่ก้านสมอง จนต้องนอนติดเตียง (ปัจจุบันก็ยังคงนอนติดเตียงอยู่)
จนมาถึงอีกคน(อันนี้ กำลังจะเรียนต่อทนาย) เสียกะทันหัน โดยแม่น้องเค้าเห็นว่าสายแล้วทำไมไม่ลงมา เลยขึ้นไปตาม และก็อย่างที่เพื่อนๆคิดนี่แหละ น้องเค้าได้เสียไปแล้ว (ภาวะหัวใจล้มเหลว)
ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาไร่เรี่ยกันไม่ถึง6เดือน .....
พออ่านถึงตอนนี้มันเหมือนเหตุบังเอิญที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วไป เพียงแต่บังเอิญตรงที่ว่า
มีเพื่อนคนหนึ่งได้มาดูรูปเก่าๆที่ได้ถ่าย และก็ได้เจอรูปที่ถ่ายไว้ตอนกำลังขุดฝัง ไทม์แคปซูล ซึ่งเมื่อเรียงลำดับพบว่า
คนแรกที่เสียชีวิตคือน้องเอคนที่เสนอไอเดีย
ส่วนคนที่ 2ที่เสียชีวิตคือนายบีคนที่ขุดหลุมเตรียมใส่กล่อง
และแน่นอน….คนที่ 3 คือนายC คนที่ 4 คือนายD ที่ช่วยกันขุดหลุมเหมือนกัน ซึ่งในภาพถ่ายทุกคนถือจอบเสียมในมือ กำลังช่วยกันขุดหลุมฝัง
พอเพื่อนๆรวมตัวกันและได้พูดคุยกันถึงได้เริ่มฉุกคิดขึ้นได้ว่ามันมีอะไรแปลกๆ ยังดีที่มีคนที่โยงเหตุการณ์ได้ว่าหรือว่าจะเกี่ยวกับกล่องที่พวกเราฝังลงไป(โดยอ้างอิงจากรูป)
เลยลองไปปรึกษาพระดู พระได้ฟังก็บ่นงึมงำ บอกให้รีบขุดเอากล่องนั้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุดและให้นำกลับมาให้ที่วัด และห้ามเปิดกล่องเด็ดขาด
พอได้ข้อสรุปดังนั้นแน่นอนครับความวุ่นวายก็บังเกิด….(ทางญาติๆแฟนนี่ถึงกับต้องรวมญาติเพื่อประชุมกันเลย)
และเนื่องจากว่าน้องๆทุกคนต่างก็ต้องฝึกงานตามโรงพยาบาลต่างๆแต่ก็ต้องลางานเพื่อมาเคลียร์เรื่องนี้ก่อน
แถมหากล่องไม่เจอเพราะนานมากแล้ว (ต้องไปปรึกษาคุณครู แน่นอนเจอครูด่ากรอกหู) ต้องสุ่มๆขุดไป ฟังครูบ่นไป.....
ขุดจนค่ำ(ประมาณ 2ทุ่ม)กว่าจะเจอ...
หลังจากที่ขุดกล่องขึ้นมาก็รีบนำไปให้พระ ท่านก็สวดมนต์ (สวดไปด้วยบ่นไปด้วยอีกแล้ว)
สวดเสร็จก็ให้ช่วยกันเอากล่องนี้ไปลอยน้ำ และแน่นอนว่าห้ามเปิดกล่อง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาประมาณ 10 กว่าปีแล้วก็ยังไม่มีเหตุการณ์ใครตายเพิ่มอีก
ที่นี้ถ้าย้อนกลับไปดูอดีตที่ตั้งก่อนที่จะไปโรงเรียนนี้...
ตามที่ชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่แถวนั้นเล่าไว้ว่าที่ตรงนี้มีประวัติสมัยโบราณเคยเป็นลานประหารมาก่อน จนเวลาล่วงเลยมาเป็นพื้นที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียน
ซึ่งตอนสำรวจพื้นที่ได้มีการขุดลงไปเจอโครงกระดูกมนุษย์
แถมมีเรื่องเล่าหลอนๆในมหาลัย และโรงเรียนนี้ ที่มีคนพบเจอบ่อยๆ ให้ได้ยินกัน
ลองมานึกๆตามเหตุการณ์นี้ก็อดขนลุกไม่ได้ครับ จากห้องที่เพื่อนๆทุกคนเรียนจบและกำลังจะเป็นแพทย์กัน กลับต้องมีเหตุการณ์ประหลาดๆเกิดขึ้น
เพียงเพราะได้นำสิ่งแปลกปลอมใส่รวมไปในที่ของเค้า(โดยมีข้อมูลรูปของทุกคน)
และถ้าไม่มีคนฉุกคิดเรียบเรียงเหตุการณ์นี้ หรือปล่อยไป หรือขุดไม่เจอกล่อง จะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อจากนี้
เพียงเพราะไอเดียไทม์แคปซูล.....หรือความบังเอิญ เท่านั้นเอง
ส่งท้ายนะครับ...เรื่องนี้เรื่องจริงครับ น้องที่เสียชีวิตคนจริงนะครับ
ส่วนที่เขียนมาจากการคุยกับน้องจำนวน 2คน เพื่อเก็บข้อมูลที่สำคัญและลำดับเหตุการณ์ที่ถูกต้องมาเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
มีข้อคิดเห็นยังไงก็คอมเม้นท์มาคุยกันได้นะครับ(แต่ห้ามด่านะครับ) ขอบคุณที่อ่านนะครับผม...... =/l\=