หลังจากอยู่ญี่ปุ่นมาครบ 3 ปี บริบูรณ์ ได้นั่งแท็กซี่หลายครั้ง เนื่องจากเมาแล้วตกรถไฟรอบสุดท้าย (บ่อย!)
เราสังเกตว่า แท็กซี่แต่ละคันที่เรียกเนี่ยราคาไม่เท่ากันสักที ทั้งๆ ที่ระยะทางเท่ากัน เวลาพอๆ กัน
วันนี้เลยจะมาแจกแจงความรู้เท่าที่ทราบให้เพื่อนๆ ที่จะมาญี่ปุ่นกันนะคะ
แท็กซี่ญี่ปุ่นเนี่ย ถ้าใครสายท่องเที่ยวหรือหาข้อมูลก่อนมาเที่ยวจะรู้กันดีว่า แพงมาก !
ถ้าไม่ติดขัดอะไร นั่งรถไฟคุ้มกว่าแน่นอน นอกซะจากว่าจะมาเที่ยวกันหลายคน แล้วหารกัน
โดยจำนวนผู้โดยสารที่นั่งได้ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มขัดที่มี เช่น รถซีดานปกติ คือ ผู้โดย 4 คนขับ 1
และถ้าสัมภาระเยอะ เค้าก็ไม่ได้รับนะ เพราะยัดไม่ได้ ต้องเรียกเพิ่มอีกคัน
และทีเด็ดของกระทู้นี้คือ
เวลาขึ้นรถตอนเช้าตรู่ กับตอนดึกค่าโดยสารจะถูกคิดเพิ่ม ตั้งแต่ 20%-40%! (40 เคยเจอรอบนึง หน้าซีดเลยอะ)
โดยแต่ละบริษัทแท็กซี่ก็จะคิดไม่เท่ากันอีก ดังนั้น แนะนำว่า หากขึ้นรถแท็กซี่ระหว่างเวลา 22.00-05.00 ควรระวัง (บางที่ ยาวถึง 6 โมงเช้าก็มี)
วิธีดูคือ ตรงบริเวณกระจกรถแท็กซี่ จะมีแปะไว้ค่ะ ว่า ระหว่าง เวลาไหน จะคิดค่าโดยสารเพิ่ม
เช่น 22.00-05.00 2割/ 3割 ซึ่งก็คือ 20% กับ 30% นั่นเองค่ะ (บางทีเวลาจขกท เมาๆ ก็ไม่ได้ดู ตอนจ่ายตัง สร่างเลย)
อีกวิธีที่ช่วยลดค่าโดยสารได้ คือดาวน์โหลด แอพแท็กซี่ จะได้ส่วนลดการใช้ครั้งแรก แต่ข้อเสียคือ หลายๆ แอพต้องใช้ Apple store Japan
อาจจะต้องเสียเวลาเปลี่ยนโซนกันหน่อยค่ะ เพื่อความสะดวกเนอะ
และอีกวิธีคือใช้ Uber ค่ะ Uber เนี่ย คนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้กัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ดังนั้นรถเยอะ เรียกแล้วมาไว
บริการดี ราคาไม่แพง เพราะส่วนลดเยอะมากๆ เรียกตรงสนามบินคือคุ้มสุด ไม่ต้องไปต่อคิวรอแท็กซี่ด้วย
ข้อเสียคือ ยังมีให้บริการแค่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวค่ะ ชนบทๆ หน่อยก็ไม่ค่อยมีแล้ว
เพิ่มเติม1 คือ ใครขึ้นรถแท็กซี่ญี่ปุ่น ถ้าเรียกรถแล้วเค้าจอด ก่อนเปิดประตูเอง ให้รอสักพักก่อน
เผื่อว่าประตูมันจะเปิด-ปิดเองอัตโนมัตินะคะ เดี๋ยวเค้าจะว่าเอา บางคันมันมีเขียนที่ประตูอยู่นะ
บางคันเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Automatic door บางคันเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น 自動
แต่ยุคนี้ 90% ก็เป็นอัตโนมัติหมดแล้วนะคะ คอยสักพักถ้าไม่เปิดเอง เราค่อยเปิดค่ะ
เพิ่มเติม2 คือ เวลาจะบอกจุดหมายปลายทาง แนะนำให้ยื่นที่อยู่ใน google map ให้เค้าดูเลยค่ะ
บางทีเวลาพูดออกมาแล้วมันฟังลำบาก เค้าจะไม่เข้าใจ ทางที่ดี ยื่นไปเลยค่ะ ตรงที่เขียนที่อยู่
*ยกเว้นไปสถานที่ Landmark พวกโตเกียวทาวเวอร์ สกายทรี อะไรแบบนี้ก็พูดชื่อไปเลยค่ะ
เพิ่มเติม3 คือ เวลาขึ้นแท็กซี่เนี่ยเค้าจะถามตลอดนะ ว่าจะไปแบบไหน เร็วสุด ถูกสุด ใกล้สุด ขึ้นทางด่วนไหม อะไรแบบนี้
ถ้ารีบและไม่มีปัญหาด้านการเงิน แจ้งเลยค่ะ Highway OK
ถ้าไม่รีบขนาดนั้น ก็ No Highway ไปค่ะ
หรือถ้าดูมาแล้วว่าที่ที่จะไปไม่ผ่านทางด่วน ก็ไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ได้ฮะ
บางทีแมพเรา แมพเค้าไม่เหมือนกัน เค้าอาจจะเลือกทางที่ระยะทางใกล้สุดบ้าง อ้อมนิดหน่อยบ้าง
เค้าไปตามแมพเหมือนกันนั่นแหละ แต่แค่เลือกคนละเส้นเท่านั้นเองค่ะ
ไม่รู้จะช่วยอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่มาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ค่ะ เผื่อจะช่วยเหลือได้บ้าง
ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็พูดคุยกันได้นะคะ เหงาแหละดูออกกกก
แท็กซี่ญี่ปุ่นนั่งแต่ละช่วงเวลา คิดราคาไม่เท่ากัน
เราสังเกตว่า แท็กซี่แต่ละคันที่เรียกเนี่ยราคาไม่เท่ากันสักที ทั้งๆ ที่ระยะทางเท่ากัน เวลาพอๆ กัน
วันนี้เลยจะมาแจกแจงความรู้เท่าที่ทราบให้เพื่อนๆ ที่จะมาญี่ปุ่นกันนะคะ
แท็กซี่ญี่ปุ่นเนี่ย ถ้าใครสายท่องเที่ยวหรือหาข้อมูลก่อนมาเที่ยวจะรู้กันดีว่า แพงมาก !
ถ้าไม่ติดขัดอะไร นั่งรถไฟคุ้มกว่าแน่นอน นอกซะจากว่าจะมาเที่ยวกันหลายคน แล้วหารกัน
โดยจำนวนผู้โดยสารที่นั่งได้ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มขัดที่มี เช่น รถซีดานปกติ คือ ผู้โดย 4 คนขับ 1
และถ้าสัมภาระเยอะ เค้าก็ไม่ได้รับนะ เพราะยัดไม่ได้ ต้องเรียกเพิ่มอีกคัน
และทีเด็ดของกระทู้นี้คือ
เวลาขึ้นรถตอนเช้าตรู่ กับตอนดึกค่าโดยสารจะถูกคิดเพิ่ม ตั้งแต่ 20%-40%! (40 เคยเจอรอบนึง หน้าซีดเลยอะ)
โดยแต่ละบริษัทแท็กซี่ก็จะคิดไม่เท่ากันอีก ดังนั้น แนะนำว่า หากขึ้นรถแท็กซี่ระหว่างเวลา 22.00-05.00 ควรระวัง (บางที่ ยาวถึง 6 โมงเช้าก็มี)
วิธีดูคือ ตรงบริเวณกระจกรถแท็กซี่ จะมีแปะไว้ค่ะ ว่า ระหว่าง เวลาไหน จะคิดค่าโดยสารเพิ่ม
เช่น 22.00-05.00 2割/ 3割 ซึ่งก็คือ 20% กับ 30% นั่นเองค่ะ (บางทีเวลาจขกท เมาๆ ก็ไม่ได้ดู ตอนจ่ายตัง สร่างเลย)
อีกวิธีที่ช่วยลดค่าโดยสารได้ คือดาวน์โหลด แอพแท็กซี่ จะได้ส่วนลดการใช้ครั้งแรก แต่ข้อเสียคือ หลายๆ แอพต้องใช้ Apple store Japan
อาจจะต้องเสียเวลาเปลี่ยนโซนกันหน่อยค่ะ เพื่อความสะดวกเนอะ
และอีกวิธีคือใช้ Uber ค่ะ Uber เนี่ย คนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้กัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ดังนั้นรถเยอะ เรียกแล้วมาไว
บริการดี ราคาไม่แพง เพราะส่วนลดเยอะมากๆ เรียกตรงสนามบินคือคุ้มสุด ไม่ต้องไปต่อคิวรอแท็กซี่ด้วย
ข้อเสียคือ ยังมีให้บริการแค่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวค่ะ ชนบทๆ หน่อยก็ไม่ค่อยมีแล้ว
เพิ่มเติม1 คือ ใครขึ้นรถแท็กซี่ญี่ปุ่น ถ้าเรียกรถแล้วเค้าจอด ก่อนเปิดประตูเอง ให้รอสักพักก่อน
เผื่อว่าประตูมันจะเปิด-ปิดเองอัตโนมัตินะคะ เดี๋ยวเค้าจะว่าเอา บางคันมันมีเขียนที่ประตูอยู่นะ
บางคันเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Automatic door บางคันเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น 自動
แต่ยุคนี้ 90% ก็เป็นอัตโนมัติหมดแล้วนะคะ คอยสักพักถ้าไม่เปิดเอง เราค่อยเปิดค่ะ
เพิ่มเติม2 คือ เวลาจะบอกจุดหมายปลายทาง แนะนำให้ยื่นที่อยู่ใน google map ให้เค้าดูเลยค่ะ
บางทีเวลาพูดออกมาแล้วมันฟังลำบาก เค้าจะไม่เข้าใจ ทางที่ดี ยื่นไปเลยค่ะ ตรงที่เขียนที่อยู่
*ยกเว้นไปสถานที่ Landmark พวกโตเกียวทาวเวอร์ สกายทรี อะไรแบบนี้ก็พูดชื่อไปเลยค่ะ
เพิ่มเติม3 คือ เวลาขึ้นแท็กซี่เนี่ยเค้าจะถามตลอดนะ ว่าจะไปแบบไหน เร็วสุด ถูกสุด ใกล้สุด ขึ้นทางด่วนไหม อะไรแบบนี้
ถ้ารีบและไม่มีปัญหาด้านการเงิน แจ้งเลยค่ะ Highway OK
ถ้าไม่รีบขนาดนั้น ก็ No Highway ไปค่ะ
หรือถ้าดูมาแล้วว่าที่ที่จะไปไม่ผ่านทางด่วน ก็ไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ได้ฮะ
บางทีแมพเรา แมพเค้าไม่เหมือนกัน เค้าอาจจะเลือกทางที่ระยะทางใกล้สุดบ้าง อ้อมนิดหน่อยบ้าง
เค้าไปตามแมพเหมือนกันนั่นแหละ แต่แค่เลือกคนละเส้นเท่านั้นเองค่ะ
ไม่รู้จะช่วยอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่มาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ค่ะ เผื่อจะช่วยเหลือได้บ้าง
ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็พูดคุยกันได้นะคะ เหงาแหละดูออกกกก