สวัสดีค่ะ เรารู้สึกเบื่อกับทุกอย่าง ไม่มีความสุขกับอะไรเลย ไม่อยากคุยกับใคร
เราขอเล่าให้ฟังก่อนนะคะ อาจจะยาวสักหน่อย เรื่องมันเริ่มจากเรามาอยู่กับครอบครัวแฟน(มีแม่เขา น้องสาว และหลานอีก2คน)ที่เชียงใหม่เพื่อมาคลอดลูกที่นี่คนเดียว แฟนทำงานที่กทม. แฟนเราหวังไว้ว่าจะมีคนช่วยเลี้ยงช่วยดู หลังจากอยู่ได้เดือนกว่าๆ เราก็คลอดลูกวันที่ 30 ธันวา 66 แฟนลาต่อได้อีกแค่ 3 วัน ก็บินกลับกทม. ตอนนั้นเรารู้สึกเศร้ามากร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ เพราะจริงๆแล้วเราต้องทำเองทุกอย่างคนเดียวไม่มีใครช่วยแบบที่คิด ชงนมทุกๆ2ชม.เพราะเราไม่มีน้ำนม ซักผ้า ทุกอย่างทำเองหมด แต่ก็พยายามเข้มแข็ง แฟนกลับไปได้2วัน เราก็มีอาการปวดท้องข้างขวาอย่างรุนแรง ที่บ้านเขาก็ไม่มีใครสนใจ บอกแต่ว่ามดลูกกำลังเข้าอู่ ใครเขาก็เป็นกัน จนเราทนไม่ไหวต้องแบกร่างไปหาหมอเอง ตอนแรกเราคิดว่าเป็นไส้ติ่ง ตรวจไปตรวจมา เป็นภาวะถุงน้ำรังไข่บิดขั้วเลือดไม่ไปเลี้ยงปีกมดลูก ทำให้ต้องผ่าตัดด่วนตอนตี3 แฟนบินมาหาอีกวันรุ่งขึ้น แต่ก็มาเฝ้าเราได้แค่ตอนกลางวัน เพราะกลางคืนต้องกลับมาดูลูก ทั้งๆที่คนอยู่เต็มบ้านแต่ไม่มีใครอยากดูให้ เราอยู่รพ.3วัน คิดถึงลูกมากๆ กลับมาได้2วันแฟนก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ทีนี้ทุกอย่างยิ่งทวีคูณ ทั้งเจ็บแผลผ่าตัด ทั้งต้องกลับมาทำหน้าที่แม่และทุกอย่างเหมือนเดิม
ตอนเราอยู่รพ. คนที่บ้านเขาชงนมให้ลูกเราจนเวลามั่วไปหมด คือเห็นดิ้นๆก็จับยัดนม ชงก็ไม่ได้ปริมาณตามที่บอก พอถามเขาก็บอกไม่รู้ กูก็ชงแบบนี้ตลอด เราสิ้นหวังมาก เรารู้สึกว่าเราสู้อยู่คนเดียว เราหดหู่จิตใจมาก ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่มีความสุขแม้แต่กับการอยู่กับลูก ยิ่งกลางคืนลูกเป็นหวัดร้องงอแง ตื่นทุกๆครึ่งชม. เราไม่ได้นอนเลย เราหมดตัวอยู่ในห้องกับลูก2คน เพราะออกไปนั่งข้างนอกแม่เขาก็บอกว่าอากาศเย็นให้เอาลูกเข้ามาในห้อง เรารู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ หาทางออกไม่เจอ อยากพาลูกหนีไปจากตรงนี้แต่ก็ยังเล็กเกินไป ใครมีคำแนะนำดีๆบ้างไหมคะ เรารู้สึกว่าคิดผิดตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่
ไม่มีความสุข ไม่อยากคุยกับใคร
เราขอเล่าให้ฟังก่อนนะคะ อาจจะยาวสักหน่อย เรื่องมันเริ่มจากเรามาอยู่กับครอบครัวแฟน(มีแม่เขา น้องสาว และหลานอีก2คน)ที่เชียงใหม่เพื่อมาคลอดลูกที่นี่คนเดียว แฟนทำงานที่กทม. แฟนเราหวังไว้ว่าจะมีคนช่วยเลี้ยงช่วยดู หลังจากอยู่ได้เดือนกว่าๆ เราก็คลอดลูกวันที่ 30 ธันวา 66 แฟนลาต่อได้อีกแค่ 3 วัน ก็บินกลับกทม. ตอนนั้นเรารู้สึกเศร้ามากร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ เพราะจริงๆแล้วเราต้องทำเองทุกอย่างคนเดียวไม่มีใครช่วยแบบที่คิด ชงนมทุกๆ2ชม.เพราะเราไม่มีน้ำนม ซักผ้า ทุกอย่างทำเองหมด แต่ก็พยายามเข้มแข็ง แฟนกลับไปได้2วัน เราก็มีอาการปวดท้องข้างขวาอย่างรุนแรง ที่บ้านเขาก็ไม่มีใครสนใจ บอกแต่ว่ามดลูกกำลังเข้าอู่ ใครเขาก็เป็นกัน จนเราทนไม่ไหวต้องแบกร่างไปหาหมอเอง ตอนแรกเราคิดว่าเป็นไส้ติ่ง ตรวจไปตรวจมา เป็นภาวะถุงน้ำรังไข่บิดขั้วเลือดไม่ไปเลี้ยงปีกมดลูก ทำให้ต้องผ่าตัดด่วนตอนตี3 แฟนบินมาหาอีกวันรุ่งขึ้น แต่ก็มาเฝ้าเราได้แค่ตอนกลางวัน เพราะกลางคืนต้องกลับมาดูลูก ทั้งๆที่คนอยู่เต็มบ้านแต่ไม่มีใครอยากดูให้ เราอยู่รพ.3วัน คิดถึงลูกมากๆ กลับมาได้2วันแฟนก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ทีนี้ทุกอย่างยิ่งทวีคูณ ทั้งเจ็บแผลผ่าตัด ทั้งต้องกลับมาทำหน้าที่แม่และทุกอย่างเหมือนเดิม
ตอนเราอยู่รพ. คนที่บ้านเขาชงนมให้ลูกเราจนเวลามั่วไปหมด คือเห็นดิ้นๆก็จับยัดนม ชงก็ไม่ได้ปริมาณตามที่บอก พอถามเขาก็บอกไม่รู้ กูก็ชงแบบนี้ตลอด เราสิ้นหวังมาก เรารู้สึกว่าเราสู้อยู่คนเดียว เราหดหู่จิตใจมาก ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่มีความสุขแม้แต่กับการอยู่กับลูก ยิ่งกลางคืนลูกเป็นหวัดร้องงอแง ตื่นทุกๆครึ่งชม. เราไม่ได้นอนเลย เราหมดตัวอยู่ในห้องกับลูก2คน เพราะออกไปนั่งข้างนอกแม่เขาก็บอกว่าอากาศเย็นให้เอาลูกเข้ามาในห้อง เรารู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ หาทางออกไม่เจอ อยากพาลูกหนีไปจากตรงนี้แต่ก็ยังเล็กเกินไป ใครมีคำแนะนำดีๆบ้างไหมคะ เรารู้สึกว่าคิดผิดตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่