สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์ของการบรรจุครูสังกัด กทม. หลังจากผ่านไป 6 เดือน ใช้ชีวิตกทม.เป็นอย่างไรบ้าง
ก่อนที่จะสอบเป็นข้าราชาการผมไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานที่ไหนมาก่อน มีแต่ประสบการณ์ฝึกสอนครับ
ใช้ชีวิตอยู่กทม.มานานมาก ตั้งแต่เรียนมหาลัย ผมจบจากจุฬาฯ นะครับ🥰
พออายุเริ่ม 26 ปีแล้วก็เลยคิดว่าอยากจะหาอะไรทำที่มั่นคง
เลยตัดสินใจสอบบรรจุ ช่วงนั้นมีครู กทม. เปิดสอบพอดี เลยไปสอบได้ลำดับต้นๆ มีโอกาสเลือกโรงเรียน ได้บรรจุอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ มีนร. 3100กว่าคน ครูประมาณ 150 กว่าคน ครับ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส อนุบาล-ม.3
.
ก่อนจะเลือกโรงเรียน ผมได้ไปสำรวจโรงเรียนทีจะบรรจุก่อนครับ ซึ่งโรงเรียนที่ผมเลือกนั้นมีบ้านพักครูให้ด้วย เป็นแบบหอพักอย่างดี มี 15 ห้อง แต่ต้องต่อคิวเข้า ผมก็เลยไปเช่าหอพักใกล้ๆโรงเรียน ระยะ 500 เมตรสามารถเดินไปทำงานได้ เดือนละ 2,000 ครับ เป็นห้องเปล่า เหมาะสำหรับเงินครูเดือน 15,800 บาท มากๆ😂
.
วันแรกลุ้นมาก กลัวจะได้ไปสอนเด็กประถม ผมไม่เคยมีประสบการณ์สอนเด็กประถมเลย และไม่ใช่สิ่งที่ถนัด
จนในที่สุด ฝันเป็นจริง ผอ.ก็ได้ให้ผมสอนชั้นมัธยม 1-3 ผมนี่โอเคเลย เพราะอยากสอนมัธยมอยู่แล้ว จังหวะชีวิตดีอีกแล้วหนึ่ง 🤣
ชีวิตสัปดาห์แรกของการเป็นครู ใช้เวลาปรับตัวได้ไวมาก เนื่องจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เป็นครูนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากต่างจังหวัดกันทั้งนั้น มีทั้งจังหวัดเดียวกัน จังหวัดอื่นปะปนกันไป ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องของการหามิตรภาพใหม่เท่าไหร่ อีกอย่างตอนที่บรรจุวันแรกผมได้เพื่อนที่บรรจุพร้อมกันด้วยกัน 3 คน ทำให้มีเพื่อนคอยแชร์ปัญหา ต่างๆ ในช่วงของการปรับตัว
แต่ว่า ผมไม่คุ้นเคยกับนร.โรงเรียนขยายโอกาสเลยครับ 😅 ช่วงนั้นเฟลกับนร.มาก พูดง่ายๆคือนร.รร.ผมจะค่อยข้างไม่เอาอะไรเลย แก่แดด
(ผมฝึกสอนที่เตรียมอุดมมาก่อน มันcontrast กันมากๆ) กว่าจะปรับตัวกับนร.ได้ก็ใช้เวลานิดนึง
ในช่วงนี้ผมยังไม่มีความคิดว่าที่นี่ดีที่สุด เป็นที่ที่เราจะอยู่ไปเรื่อยๆ ยังคงมีความคิดว่าอยากจะไปสอบที่อื่นอยู่ครับ
.
หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ เป็นช่วงที่งานหนักมาก ผมเอกพลศึกษา ช่วงนั้นกทม. มีการจัดการแข่งขันกีฬาช้างน้อยเกมส์ ซึ่งครูพละจะทำงานหนักมาช่วงนั้น จนผมรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่ก็ได้พี่ๆครูคอยให้กำลังใจในระหว่างทำงาน อีกสักพักก็หายเหนื่อยแล้ว
พอพ้นกีฬาช้างน้อยเกมส์ ผ่านไปได้ 1 เดือนชีวิตผมสบายขึ้นมากเลย
.
ผ่านไป 2 เดือน โชคดีมาก บ้านพักครูมีห้องว่าง เนื่องจากมีครูย้ายออกจากโรงเรียน จังหวะชีวิตตอนนั้นผมรู้ว่าโชคดีมากๆ ทำให้ผมสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไปเยอะ บ้านพักครูขอโรงเรียนผมจะมีเก็บค่าห้องเดือนละ 400 ค่าน้ำค่าไฟ ด้วยนะครับ ไม่ได้ฟรีแต่ก็ประหยัดไปได้หลายบาท
แต่สภาพห้องพักเริ่มจะทรุดโทรม ต้องรีโนเวทให้น่าอยู่นิดนึง 🤣
มาพูดถึงค่าใช้จ่าย
ในแต่ละวันที่ทำงานประหยัดเงินมาก ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด
โรงเรียนผมมีอาหารเช้า-กลางวัน เก็บครูเดือนละ 500 กว่าบาท
อาหารก็มีอร่อยเป็นบางวัน แต่ไม่ซ้ำกันเลยสักวัน
ตอนเช้ามี แซนวิส ไข่ดาว สลัดผัก ข้าวผัด ข้าวต้ม ฯ
กลางวัน มีข้าว ก๋วยเตี๋ยว สุกี้ ข้าวมันไก่ ราดหน้า ฯ สลับกันไปทุกวันๆ ถือว่าโอเคอยู่ (แต่รสชาติอาหารอาจจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่)
เดือนไหนเบื่อก็ไม่ทานข้าวโรงเรียน ออกไปกินข้างนอกแทน
.
ผ่านไป 6 เดือน ถึงเวลาการประเมินครูผู้ช่วยครั้งที่ 1 ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมว่า 6 เดือนมันผ่านไปไวมาก
ผมได้ทั้งเพื่อนและพี่ๆที่ดีมาก คอยช่วยเหลือกันตลอด แต่ชีวิตเรามันจะไปโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอ?
ผมก็มีปัญหาทั้งผู้บริหาร และครูคนอื่นเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจสนใจแค่คนที่เราควรที่จะแคร์ก็พอ😊
จนถึงช่วงปลายปี คราวนี้แหละใจฟูมาก
.
เนื่องจาก กทม. จะมีโบนัสรางวัลให้กับข้าราชการส่งท้ายปี อันนี้เป็นข้อดีเลยของที่นี่เลบ ตอนนี้ผมก็เสียใจเพราะผมไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับโบนัส เนื่องจากบรรจุไม่ครบ 6 เดือน(นับตามปีงบประมาณ) ผมบรรจุเดือนมิถุนายน ทำให้ตอนนั้นเสียดายมาก เพราะผมบรรจุช้าไปแค่ 1 เดือนเอง
ถามว่าเงินโบนัสได้เยอะไหม? 1.45เท่า ก็ถือว่าเยอะนะครับ เพราะครู สพฐ.เขาไม่มีโบนัสแบบเรา
ในช่วงท้ายปี พี่ๆก็พากันลุ้นว่าตอนไหนเงินโบนัสจะเข้าบัญชี ติ๊งงงง
ไอ้เรานี่ก็ลุ้นตามเหมือนได้โบนัสกับเขา😂
แต่ๆๆๆๆ ก็มีเรื่องเซอร์ไพส์เกิดขึ้น พี่ๆสายชั้นมัธยมได้รวบรวมเงินกันให้ของขวัญน้องๆ ที่บรรจุใหม่และยังไม่ได้โบนัส
ตอนนั้นก็เซอร์ไพส์เลยแหละและก็ดีใจมาก ที่มีพี่ๆที่เกื้อกูลและมีน้ำใจกัน เป็นเรื่องที่ใจฟูอีกหนึ่งเรื่อง
ได้ 2 แบงค์เทาไว้เที่ยวปีใหม่
สิ่งที่ชอบคือกทม.มอบสวัสดิการให้ครูได้โอเคเลย
บ้านพักครู (ไม่ได้มีทุกโรงเรียนนะครับ)
อาหารเช้ากลางวันจ่ายเดือนละ 500
มีโบนัสให้เฮช่วงท้ายปี
นี่ก็ผ่านมา 6 เดือนกว่าๆแล้ว เลยขอมาแชร์ประบการณ์ดีๆของการเป็นครูสังกัดกทม.
ตอนนี้ก็มีการสอบครูกทม.อยู่ ถ้าใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ เผื่อมาเจอกระทู้นี้ก็อยากให้ลองมาอยู่กทม.ดูก่อนก็ได้
จังหวะชีวิต มันก็มีทั้งลงและขึ้น อยู่ที่เราจะเลือกเอง 🥰
รีวิวหลังบรรจุเป็นข้าราชครู สังกัด กทม. ได้ 6 เดือน
ก่อนที่จะสอบเป็นข้าราชาการผมไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานที่ไหนมาก่อน มีแต่ประสบการณ์ฝึกสอนครับ
ใช้ชีวิตอยู่กทม.มานานมาก ตั้งแต่เรียนมหาลัย ผมจบจากจุฬาฯ นะครับ🥰
พออายุเริ่ม 26 ปีแล้วก็เลยคิดว่าอยากจะหาอะไรทำที่มั่นคง
เลยตัดสินใจสอบบรรจุ ช่วงนั้นมีครู กทม. เปิดสอบพอดี เลยไปสอบได้ลำดับต้นๆ มีโอกาสเลือกโรงเรียน ได้บรรจุอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ มีนร. 3100กว่าคน ครูประมาณ 150 กว่าคน ครับ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส อนุบาล-ม.3
.
ก่อนจะเลือกโรงเรียน ผมได้ไปสำรวจโรงเรียนทีจะบรรจุก่อนครับ ซึ่งโรงเรียนที่ผมเลือกนั้นมีบ้านพักครูให้ด้วย เป็นแบบหอพักอย่างดี มี 15 ห้อง แต่ต้องต่อคิวเข้า ผมก็เลยไปเช่าหอพักใกล้ๆโรงเรียน ระยะ 500 เมตรสามารถเดินไปทำงานได้ เดือนละ 2,000 ครับ เป็นห้องเปล่า เหมาะสำหรับเงินครูเดือน 15,800 บาท มากๆ😂
.
วันแรกลุ้นมาก กลัวจะได้ไปสอนเด็กประถม ผมไม่เคยมีประสบการณ์สอนเด็กประถมเลย และไม่ใช่สิ่งที่ถนัด
จนในที่สุด ฝันเป็นจริง ผอ.ก็ได้ให้ผมสอนชั้นมัธยม 1-3 ผมนี่โอเคเลย เพราะอยากสอนมัธยมอยู่แล้ว จังหวะชีวิตดีอีกแล้วหนึ่ง 🤣
ชีวิตสัปดาห์แรกของการเป็นครู ใช้เวลาปรับตัวได้ไวมาก เนื่องจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เป็นครูนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากต่างจังหวัดกันทั้งนั้น มีทั้งจังหวัดเดียวกัน จังหวัดอื่นปะปนกันไป ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องของการหามิตรภาพใหม่เท่าไหร่ อีกอย่างตอนที่บรรจุวันแรกผมได้เพื่อนที่บรรจุพร้อมกันด้วยกัน 3 คน ทำให้มีเพื่อนคอยแชร์ปัญหา ต่างๆ ในช่วงของการปรับตัว
แต่ว่า ผมไม่คุ้นเคยกับนร.โรงเรียนขยายโอกาสเลยครับ 😅 ช่วงนั้นเฟลกับนร.มาก พูดง่ายๆคือนร.รร.ผมจะค่อยข้างไม่เอาอะไรเลย แก่แดด
(ผมฝึกสอนที่เตรียมอุดมมาก่อน มันcontrast กันมากๆ) กว่าจะปรับตัวกับนร.ได้ก็ใช้เวลานิดนึง
ในช่วงนี้ผมยังไม่มีความคิดว่าที่นี่ดีที่สุด เป็นที่ที่เราจะอยู่ไปเรื่อยๆ ยังคงมีความคิดว่าอยากจะไปสอบที่อื่นอยู่ครับ
.
หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ เป็นช่วงที่งานหนักมาก ผมเอกพลศึกษา ช่วงนั้นกทม. มีการจัดการแข่งขันกีฬาช้างน้อยเกมส์ ซึ่งครูพละจะทำงานหนักมาช่วงนั้น จนผมรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่ก็ได้พี่ๆครูคอยให้กำลังใจในระหว่างทำงาน อีกสักพักก็หายเหนื่อยแล้ว
พอพ้นกีฬาช้างน้อยเกมส์ ผ่านไปได้ 1 เดือนชีวิตผมสบายขึ้นมากเลย
.
ผ่านไป 2 เดือน โชคดีมาก บ้านพักครูมีห้องว่าง เนื่องจากมีครูย้ายออกจากโรงเรียน จังหวะชีวิตตอนนั้นผมรู้ว่าโชคดีมากๆ ทำให้ผมสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไปเยอะ บ้านพักครูขอโรงเรียนผมจะมีเก็บค่าห้องเดือนละ 400 ค่าน้ำค่าไฟ ด้วยนะครับ ไม่ได้ฟรีแต่ก็ประหยัดไปได้หลายบาท
แต่สภาพห้องพักเริ่มจะทรุดโทรม ต้องรีโนเวทให้น่าอยู่นิดนึง 🤣
มาพูดถึงค่าใช้จ่าย
ในแต่ละวันที่ทำงานประหยัดเงินมาก ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด
โรงเรียนผมมีอาหารเช้า-กลางวัน เก็บครูเดือนละ 500 กว่าบาท
อาหารก็มีอร่อยเป็นบางวัน แต่ไม่ซ้ำกันเลยสักวัน
ตอนเช้ามี แซนวิส ไข่ดาว สลัดผัก ข้าวผัด ข้าวต้ม ฯ
กลางวัน มีข้าว ก๋วยเตี๋ยว สุกี้ ข้าวมันไก่ ราดหน้า ฯ สลับกันไปทุกวันๆ ถือว่าโอเคอยู่ (แต่รสชาติอาหารอาจจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่)
เดือนไหนเบื่อก็ไม่ทานข้าวโรงเรียน ออกไปกินข้างนอกแทน
.
ผ่านไป 6 เดือน ถึงเวลาการประเมินครูผู้ช่วยครั้งที่ 1 ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมว่า 6 เดือนมันผ่านไปไวมาก
ผมได้ทั้งเพื่อนและพี่ๆที่ดีมาก คอยช่วยเหลือกันตลอด แต่ชีวิตเรามันจะไปโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอ?
ผมก็มีปัญหาทั้งผู้บริหาร และครูคนอื่นเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจสนใจแค่คนที่เราควรที่จะแคร์ก็พอ😊
จนถึงช่วงปลายปี คราวนี้แหละใจฟูมาก
.
เนื่องจาก กทม. จะมีโบนัสรางวัลให้กับข้าราชการส่งท้ายปี อันนี้เป็นข้อดีเลยของที่นี่เลบ ตอนนี้ผมก็เสียใจเพราะผมไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับโบนัส เนื่องจากบรรจุไม่ครบ 6 เดือน(นับตามปีงบประมาณ) ผมบรรจุเดือนมิถุนายน ทำให้ตอนนั้นเสียดายมาก เพราะผมบรรจุช้าไปแค่ 1 เดือนเอง
ถามว่าเงินโบนัสได้เยอะไหม? 1.45เท่า ก็ถือว่าเยอะนะครับ เพราะครู สพฐ.เขาไม่มีโบนัสแบบเรา
ในช่วงท้ายปี พี่ๆก็พากันลุ้นว่าตอนไหนเงินโบนัสจะเข้าบัญชี ติ๊งงงง
ไอ้เรานี่ก็ลุ้นตามเหมือนได้โบนัสกับเขา😂
แต่ๆๆๆๆ ก็มีเรื่องเซอร์ไพส์เกิดขึ้น พี่ๆสายชั้นมัธยมได้รวบรวมเงินกันให้ของขวัญน้องๆ ที่บรรจุใหม่และยังไม่ได้โบนัส
ตอนนั้นก็เซอร์ไพส์เลยแหละและก็ดีใจมาก ที่มีพี่ๆที่เกื้อกูลและมีน้ำใจกัน เป็นเรื่องที่ใจฟูอีกหนึ่งเรื่อง
ได้ 2 แบงค์เทาไว้เที่ยวปีใหม่
สิ่งที่ชอบคือกทม.มอบสวัสดิการให้ครูได้โอเคเลย
บ้านพักครู (ไม่ได้มีทุกโรงเรียนนะครับ)
อาหารเช้ากลางวันจ่ายเดือนละ 500
มีโบนัสให้เฮช่วงท้ายปี
นี่ก็ผ่านมา 6 เดือนกว่าๆแล้ว เลยขอมาแชร์ประบการณ์ดีๆของการเป็นครูสังกัดกทม.
ตอนนี้ก็มีการสอบครูกทม.อยู่ ถ้าใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ เผื่อมาเจอกระทู้นี้ก็อยากให้ลองมาอยู่กทม.ดูก่อนก็ได้
จังหวะชีวิต มันก็มีทั้งลงและขึ้น อยู่ที่เราจะเลือกเอง 🥰