เรียกได้ว่าเป็นปีที่ซบเซา สำหรับหนังฮีโร่ได้เลย
เพราะตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี ไม่มีเรื่องไหนทำเงินแตะพันล้านเหรียญ ได้เลย ที่ใกล้เคียงสุดคงเป็น Guardians of the Galaxy Vol. 3 ที่ทำรายได้ไป 845 ล้านเหรียญ
(ซึ่งน้อยกว่าภาค2 ที่ได้ไป 863ล้านเหรียญอย่างน่าเสียดาย) 
   ทางฝั่ง dc เองก็เจ็บหนักใช่เล่นเพราะตั้งแต่ประกาศว่า จะทำจักรวาลใหม่ ที่นำโดย เจมส์ กัน 
ผู้คนก็ไม่มีสาเหตุหรือแรงจูงใจให้อยากไปดู ยิ่งนักแสดงนำ (the flash , aquaman 2 ) มีปัญหาอีก ทำให้คนยิ่งบอยคอต ทั้งที่บางเรื่อง อาจจะดีกว่าที่คิด
เอาหละ อารัมภบท มาพอสมส่วน ถึงปีนี้จะไม่ใช่ปีที่เฉิดฉายของหนังฮีโร่ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีบางเรื่องที่ดี
และถูกใจเรา

ดังนั้นขอจัดอันดับหนังฮีโร่ที่ผมชอบที่สุดในปี 2023 
(และอยากฟังทุกคนด้วยย ว่าชอบเรื่องอะไรบ้าง)
นะค้าบบบบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
 
.
.

อันดับที่ 8 : The Marvels
นี้คงเป็นหนังฮีโร่ที่ผมผิดหวังที่สุดในปีนี้ เพราะแม้แต่การจะสร้างตัวละครที่ดี เค้ายังทำไม่ได้เลย ซึ่งนี้คือ เอกลักษณ์ของ Marvel อย่างนึงเลยนะ ต่อให้หนังจะห่วยแค่ไหน แต่เค้ามักทำให้เราหลงรักตัวละครได้เสมอ แต่ต่างจากเรื่องนี้ ผมเห็นแต่ คนที่พยายามเล่นสนุกเฉยๆ ขาดความจริงจังและจริงใจต่อการเล่าเรื่อง 
เมื่อดูจบ สิ่งที่ผมรู้สึกคือ นี้ก็แค่ภารกิจเฉพาะกิจเพื่อนสาว แค่นั้น มันขาดความคิดสร้างสรรค์จนผมเสียดายเงิน 250-270ล้านus ที่เนรมิตหนังเรื่องนี้ออกมา(อย่าบอกนะว่า ไอดาว musical คือการสร้างสรรค์ โกรธจริงด้วย) และเสียดายยิ่งกว่าคือภาคแรกออกมาห่วยแล้ว แต่ภาคนี้ดันทำมาห่วยยิ่งกว่า สรุปเลยคือ ภาคแรกเรายังไม่เห็นความซีเรียสในการตามหาตัวเอง 
เอเลี่ยนที่ในตอนแรกเหมือนมาร้ายแต่กลายเป็นดี 
ยังมีแง่มุมให้เราพอจะคิดต่อได้ แต่ไอภาคนี้คืออะไร!
ลั้ลลา ทั้งเรื่อง ปมปัญหาถูกแก้อย่างรวดเร็วจนเราไม่ทันรู้สึกตาม ที่แย่กว่าคือ พยายามเซอร์ไพซ์คนดูด้วย End cardits เพื่อกลบความน่าเบื่อของหนัง
โดยรวมนี้น่าจะเป็นหนัง Marvel ที่ผมเกลียดที่สุด

คะแนน 3/10 

อันดับที่ 7 : blue beetle
       นี้เป็นหนังฮีโร่เพียงเรื่องเดียวที่ผมไม่ได้ดูในโรง 
แต่กลับรู้สึกว่าคิดถูก55 ออกตัวก่อนว่านี้ไม่ใช่หนังที่แย่หรอก แต่เป็นหนังที่ออกทรง กลางๆไปหน่อย เรื่องครอบครัวงี้ มันก็ดูน่ารักดี แต่ฝั่งตัวร้ายคือเฉยๆมาก 
ด้านแอ็คชั่นผมว่ามันส์กว่า the marvels (แขวะได้อี้ก)
คือมันจะมีพาร์ทช่วงท้ายที่แบบตีกันทะลุคอนเทนเนอร์
งี้ แต่โดยรวมผมว่ามันกลางๆไปหน่อย

คะแนน 7/10

อันดับที่ 6 : Shazam fury of the god
   ผมกล้าพูดได้ว่านี้เป็นหนังที่ใช้ทุนได้โคตรคุ้ม!! ทุนเขาแค่ 125 ล้านเหรียญเอง แต่เนรมิตสัตว์ประหลาดป่วนเมืองได้สุดๆ มันเป็นหนังที่กลมกล่อมใช้ได้อยู่นะ 
ทั้งพาร์ทน่ารักกุ้กกิ้ก ซึ้งก็มีนิดหน่อย ยิ่งช่วงท้ายที่แบบ เผชิญหน้าสู้กับมังกร แล้วชุดไหม้เป็นสีดำนี้ ผมว่าเท่ที่สุดในเรื่องแล้ว โดยรวมคือ ผมโอเคมากๆกับเรื่องนี้
แต่ความชอบอาจจะกลางๆหน่อย

คะแนน 7/10

อันดับที่ 5 : Aquaman and the lost kingdom
 คาดหวังสูง แต่ดูจบผิดหวังหน่อยๆ สำหรับผมช่วงแรกคืออะไรที่กำลังสนุกเลย การเชื่อมซีนที่เป็นเอกลักษณ์ 
แต่พอไปเล่าตัว black mantra ปุ้บ ดรอปเลย คือเสียเวลาเล่านานมากก กว่าจะเจอตรีศูล กว่าจะได้ใช้ เค้า
แบ่งเวลาให้ทั้งสองฝั่งแทบจะคนละครึ่งเลย ละภาคที่แล้วว่าลิเก ภาคนี้ละครเรียกพ่อเลย บางฉากคือ โอ้โหห ทำไมมันดูน้ำเน่าจนcringe ขนาดนี้ แต่ข้อดีก็มีอยู่นะ ช่วงคู่หูนี้ บันเทิงมากๆ ฟิลกลายเป็นแบบหนัง
ผจญภัย jumanji เลย 

คะแนน 6/10

อันดับที่ 4 : Antman and wasp quantumania
   นี้อาจเป็นหนังที่น่าผิดหวังสำหรับหลายคน แต่สำหรับผม ถือว่าก็โอเคนะ คือในสเกลของ ant-man 
เรื่องนี้ก็ถือว่าเล่นใหญ่อยู่ ที่ชอบที่สุดคงเป็นการแสดงของ jonathan major ในบทของแคง มันดูดุดันแล้วแต่งต่างจากตอนเป็น He who remain อย่างสิ้นเชิง
ถือว่าเค้าเล่นสุดความสามารถแล้วกับบทแค่นี้55 ถ้าส่วนน่าผิดหวังคงเป็นโลก quantumania ที่ดูลอยๆ
และเฉยๆกับมันทั้งที่ใน antman ภาคแรกเรารู้สึก
หึ้ยมันดูพิศวงกว่านี้นะ และตอนสุดท้ายที่เล่นจบดีแบบดื้อๆงี้ก็น่าเสียดาย เพราะความยั้งมือเกินไป จนทำให้นี้เป็นหนังantman ที่ทำเงินน้อยที่สุด

คะแนน 7/10 

อันดับที่ 3 : the flash 
    นิยามของเรื่องนี้คือ "หนัง " ที่รักกกก 
ผมด่าไปหลายอย่างมากจากกระทู้ก่อนๆ แต่เชื่อหรือไม่ มันคือหนังฮีโร่เรื่องเดียวในปีนี้ ที่ผมดู 2 รอบ คือมันเป็นหนังที่มีเอกลักษณ์ดีและเล่ามาได้สนุก ถึงแม้บทมันจะบางแต่ว่าบทพูดการนำเสนอ ของเค้ามันดีจริงๆ 
ปมเรื่องแม่ (ซอสมะเขือเทศ) ก็ทำเราซึ้งตามได้ พาร์ทห่ามๆนี้ผมก็ชอบ ช่วงแบรี่อยู่ด้วยกันนี้สนุกและสุดยอดมากที่มาจากนักแสดงคนเดียว ไคลแม็กผมโอเคนะ อาจดูไม่เฟอร์เฟ็ค แต่มันทำให้เราเข้าใจตัวแบรี่ได้ดี
ข้อเสีย คงเป็น เอาแบทแมนกับซุปเปอร์เกิร์ลมา แต่ดันไม่ค่อยให้บทเค้าเท่าไหร่ คือมีซีนดีๆเยอะแต่ส่วนใหญ่ดีตรงแอ็คชั่น ผมว่าถ้าหนังไม่ถูกปรับแก้จนเละ นี้อาจเป็นหนังที่ผมรักที่สุดในปีนี้ก็ได้

คะแนน 6/10

อันดับที่ 2 : Guardians of the Galaxy Vol. 3
      ดึงน้ำตาผมได้เยอะที่สุดในปีนี้แล้วกับเรื่องนี้ 
โอ้โห คุณซีนที่ร็อคเก็ตอยู่กับเหล่าเพื่อนๆนะ เรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็กลั้นน้ำตาไม่ได้ ร้องไห้เป็นเผ่าเต่าให้กับเรื่องนี้เลย การเล่าเรื่องของคนในทีมนี้บทสรุปคือ โอเคแล้วอะ ความผูกพันธ์ต่างๆกับแก๊งนี้ด้วย
(ภาคแรกตอนเด็กผมวนดูไป10กว่ารอบ) ตัวร้ายนี้คือ ถ้าเล่าไม่เก่งจริง มันจะดูน่าเบื่อเลย แต่เขาทำได้คือเห็นแล้ว น่ากระทืบสุดๆ โดยรวมมันคือหนังที่รองรับบทสรุปและหาทางลงให้ตัวละครได้ดีที่สุดแล้ว ต่อจากนี้คงใจหาย ที่ไม่ได้เห็น เจมส์ กัน มากำกับอีก 
เพราะสำหรับเรามันคือ Guardians of the Galaxy = jame gun ไปแล้ว

คะแนน 8/10





อันดับที่ 1 : Spider man across the spider verse
 ผมเชื่อว่า spider man across the spider verse
 จะเป็น1 ในหนังที่ขึ้นหึ้งสำหรับหนังฮีโร่แน่ๆ เริ่มด้วย
สไตล์ภาพที่จัดจ้าน ทุกเฟรมสามารถนำมาเป็นวอลเปเปอร์ได้ ความใส่ใจที่ไปสุดทั้งด้านบทและภาพ 
เรื่องบท ผมว่านำมาเป็นเคสศึกษาได้เลย คุณจะเลือกด้านไหน ทำเพื่อยับยั้งเหตุร้ายโดยยอมสละคนที่รักหรือทำเพื่อความถูกต้องแล้วค่อยยับยั้งเหตุร้าย 
แล้วท้ายเรื่องมีการพลิกหักมุมที่โคตรเจ๋ง เค้ามีการปูมาตั้งแต่ต้นแล้วและมันก็ควรเป็นแบบนั้น แต่เราไม่ทันคาดคิด ไหนจะปมของตัวร้าย ที่เริ่มจากตัวประกอบก็มีแรงขับเคลื่อนที่เราเข้าใจเค้าได้ ที่ผมชอบที่สุดคือ มันสามารถออกมาอยู่ในหนังอนิเมชั่นที่เด็กดูแล้วชอบ ผู้ใหญ่ดูแล้วว้าวนี้แหละ ให้อวยได้ทั้งวันอะเรื่องนี้
* คะแนนที่ผมให้คือมาจากมาตรฐานความเป็นกลางที่ผมมองต่อหนังเรื่องนี้ จะไม่มีอคติหรือความรู้สึกในส่วนของตรงนี้มากนัก


 แต่ความชอบผมเลือกจากความรู้สึกที่เราได้ค่อหนังเรื่องนั้น โดยมองข้ามปัญหาต่างๆ และใช้ใจล้วนๆ 


สุดท้ายนี้ ทุกคน ชอบเรื่องไหนกันบ้าง มาแบ่งปันกันได้น้าา