ประวัติศาสตร์ของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯมียุคที่รุ่งเรืองสองยุคคือยุคแรกการมาของอินเทอร์เนตในช่วงปี 1990-2000 และการมาของไอโฟนในช่วงปี 2009 และคาดว่าการมาของ Generative AI อาจจะทำให้เกิดยุคทองของหุ้นเทคโนโลยียุคที่สามขึ้น แล้วเทรนด์ดังกล่าวจะเติบโตไปได้อีกกี่ปี??
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ "โมเมนต์ของ iPhone" ดัชนีหุ้นเทคโนโลยีเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง 10 ปีต่อมา รวมถึงช่วงยุคเฟื่องฟูของอินเทอร์เน็ต ปี 1990 จนถึงจุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2000 ดัชนี Nasdaq 100 มี CAGR (Compound Annual Growth Rate) หรือ อัตราผลตอบแทนรวมต่อปี เกิน 40%
ถึงแม้เครือข่ายมือถือจะประสบกับบทท้าทายอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในช่วงแรก แต่ในที่สุดก็พาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะตลาดขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดหุ้น โดยดัชนีมี CAGR สูงถึง 22.51%
จากประสบการณ์ในอดีต หากเทคโนโลยี AI สามารถเปลี่ยนรูปแบบการผลิตอย่างแท้จริงในอีก 10 ปีข้างหน้า การเติบโตในปัจจุบันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
กราฟด้านบนประมาณการเจาะเข้าตลาดของเทคโนโลยีต่างๆ ในหลายภาคส่วน นับตั้งแต่ "โมเมนต์ของ iPhone" สิ่งที่สะดุดตาคือ แชทจีพีที (ChatGPT) ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในแค่ปีเดียว ขณะที่อินเทอร์เน็ตใช้เวลานานถึง 7 ปี และไฟฟ้า 20 ปี
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ยากที่จะเข้าใจว่า ทำไมในช่วงเวลาสั้นๆ ราวปีเดียว หลังเปิดตัว ChatGPT แม้ตลาดหุ้นจะเผชิญแรงกดดจากนโยบายการเงินที่เข้มงวด ดัชนี Nasdaq 100 ยังพุ่งขึ้นถึง 38.7% ณ เดือนพฤศจิกายน ผลงานนี้ทิ้งห่างยุคอินเทอร์เน็ตและมือถืออย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น จากมุมมองของความก้าวหน้าและการแพร่กระจายของเทคโนโลยี การพุ่งขึ้นอย่างหนักโดยแรงขับเคลื่อนจากแนวคิด AI ในรอบนี้จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากเทคโนโลยี AI ยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ทั้งในด้านความฉลาด ความหลากหลายของโหมด และการแพร่กระจาย เราเชื่อว่า ผลตอบแทนส่วนเกินระยะยาวที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะยั่งยืน
ย้อนรอยประวัติศาสตร์หุ้นเทคโนโลยียุคอินเทอร์เนตและไอโฟน AI จะเติบโตไปได้อีกกี่ปี??
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ "โมเมนต์ของ iPhone" ดัชนีหุ้นเทคโนโลยีเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง 10 ปีต่อมา รวมถึงช่วงยุคเฟื่องฟูของอินเทอร์เน็ต ปี 1990 จนถึงจุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2000 ดัชนี Nasdaq 100 มี CAGR (Compound Annual Growth Rate) หรือ อัตราผลตอบแทนรวมต่อปี เกิน 40%
ถึงแม้เครือข่ายมือถือจะประสบกับบทท้าทายอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในช่วงแรก แต่ในที่สุดก็พาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะตลาดขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดหุ้น โดยดัชนีมี CAGR สูงถึง 22.51%
จากประสบการณ์ในอดีต หากเทคโนโลยี AI สามารถเปลี่ยนรูปแบบการผลิตอย่างแท้จริงในอีก 10 ปีข้างหน้า การเติบโตในปัจจุบันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
กราฟด้านบนประมาณการเจาะเข้าตลาดของเทคโนโลยีต่างๆ ในหลายภาคส่วน นับตั้งแต่ "โมเมนต์ของ iPhone" สิ่งที่สะดุดตาคือ แชทจีพีที (ChatGPT) ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในแค่ปีเดียว ขณะที่อินเทอร์เน็ตใช้เวลานานถึง 7 ปี และไฟฟ้า 20 ปี
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ยากที่จะเข้าใจว่า ทำไมในช่วงเวลาสั้นๆ ราวปีเดียว หลังเปิดตัว ChatGPT แม้ตลาดหุ้นจะเผชิญแรงกดดจากนโยบายการเงินที่เข้มงวด ดัชนี Nasdaq 100 ยังพุ่งขึ้นถึง 38.7% ณ เดือนพฤศจิกายน ผลงานนี้ทิ้งห่างยุคอินเทอร์เน็ตและมือถืออย่างเห็นได้ชัด