สวัสดีครับวันนี้ผมอยากจะมาแชร์เรื่องราวการขลิบของผม ที่ผมได้ไปขลิบมาแล้วอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆหรือบุคคลที่สนใจจะขลิบเก็บไว้เป็นพิจารณาดูว่าขลิบดีไม่ขลิบดี🤔🤔
ผมจะแบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆ 4+1 ข้อใหญ่ๆคือ
1.ทำไมถึงอยากขลิบ?
2.ขั้นตอนการจองคิวขลิบ
3.ขั้นตอนการขลิบ(ผ่าตัดเล็ก)
4.รีวิวหลังขลิบ+การดูแลรักษาแผล(ตามฉบับจขกท.)
5.รีวิวการใช้งานเพื่อประกอบการตัดสินใจและสรุปว่าที่ขลิบมาดีหรือไม่
ทำไมถึงอยากขลิบ
ต้องบอกก่อนว่าผมมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศชายของผมที่ไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายลงมาได้สุด(ตอนแรกเราเข้าใจว่าเรารูดลงมาสุดแล้ว แต่พอไปร่วมกิจกรรมทางเพศก็มีความรู้สึกว่ามันรัดตรงหัวค..เกินไปทำให้มีอาการเหมือนคอขวด เมื่อร่วมเพศไปนานๆจะทำให้ตรงส่วนหัวเกินการบวมและเจ็บ อีกทั้งเวลาเรารูดหนังลงมาเราไม่สามารถปัสสาวะได้ และเมื่อตอนถึงจุดสุดยอดก็จะเจ็บอีก)นั้นจึงทำให้เรารู้สึกว่าของเรามันมีความแปลก ทนอยู่อย่างนั้นมาหลายปี (เราอายุ20ปี) จนสุดท้ายเราทนไม่ไหวเลยตัดสินใจจะไปขลิบ😱😱😱
ขั้นตอนการจองคิวขลิบ
ก่อนอื่นที่ผมจะไปขลิบผมก็หาข้อมูลจากที่ต่างๆทั้งในอินเตอร์เน็ต ยูทูป พันทิป หาอยู่นาน เราก็ได้ใจความว่า มีการขลิบทั้งหมด2แบบ(เท่าที่หาข้อมูลมา) คือ 1.ขลิบแบบไร้เลือด 2.ขลิบแบบผ่าและจี้เด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า ตามข้อมูลที่ได้หามาทั้ง 2 แบบ แบบที่1. จะแผลสวยและไม่เจ็บซักเท่าไหร่และใช้เวลาไม่นาน ส่วนแบบที่2.จะใช้เวลานานกว่าหน่อย ส่วนเรื่องแผลขึ้นอยู่กับหมอที่ทำให้เรา ประเด็นมันอยู่ที่แบบที่2.นี้แหละ ด้วยความที่เรามีงบจำกัด เราจะเลือกทำ
แบบที่2 ก็ได้หาข้อมูลที่ในพันทิป คนที่เคยขลิบก็บอกว่าไม่เจ็บเลยเจ็บแค่ตอนฉีดยาชา เราก็โล่งใจแล้วว่าไม่เจ็บแต่หารู้ไม่มันไม่จริงเลย😭
พอหาข้อมูลเสร็จสรรพ ก็เตรียมบึ่งรถไปสอบถามราคาที่ รพ. ที่แรกที่เราไปเป็น รพ. เอกชน และได้สอบถามราคาได้ทราบว่าราคา10,000+ เราสู้ราคาไม่ไหวเลยไปที่ รพ.รัฐ พอไปถึงเราก็ไปลงทะเบียนขอตรวจ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "มาขลิบอวัยวะเพศชาย" เขาก็จะให้บัตรคิวมารอตรวจที่แผนก "ระบบทางเดินปัสสาวะ" นั้งรออยู่นานๆๆๆ จนเราก็ได้ตรวจ ก็ไปตรวจ ตอนตรวจเขาก็จะให้เขาห้องถอดกางเกงให้เขาดูค..ขอเราแล้วประเมิน พอประเมินเสร็จหมอก็จะเรียกไปนัดวันมา เราได้วันหลังจากที่ตรวจ ประมาณ6เดือน ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะเป็น รพ.รัฐ
ขั้นตอนการขลิบ
เรารออยู่นานในที่สุดก็ถึงวันนัด เราก็เตรียมตัวไปอย่างดีนอนหลับพักผ่อน พอเรียนเสร็จก็รีบบึ่งรถไป รพ. พอไปถึงเราก็ตรงเข้าไปที่แผนก"ระบบทางเดินปัสสาวะ"เลย ยื่นบัตรนัด พยาบาลเขาก็ยื่นใบให้ไปเดินเรื่องต่อ คือ1.วัดความดัน 2.ตรวจเลือด 3.จัดการเรื่องยา (แนะนำให้พาเพื่อนหรือใครก็ได้ไปด้วยจะดีกว่าไปคนเดียวมากๆ) ตอนไปผมไม่ได้ใส่กางเกงสบายๆไปนะครับ ผมใส่ยีนส์ไปซึ่งเป็นความคิดที่ผิดจริงๆ แนะนำใส่กางเกงสบายๆไป พอเดินเรื่องเสร็จเราก็เข้าไปรอหน้าห้องผ่าตัดเล็ก พี่พยาบาลก็จะพาเราไปเปลี่ยนชุด(จริงๆเปลี่ยนแค่กางเกงเป็นผ้าสีเขียวๆของรพ.) พอเปลี่ยนเสร็จก็เตรียมขึ้นเขียง
พอนอนลงเขาก็จะทำความสะอาดบริเวณค..ของเราแล้วก็เอาผ้ามาคลุมหน้าเรา(เริ่มเข้าห้องผ่าตัดตอนบ่าย2นิดๆ) จากนั้นก็มีหมอ2คนเข้ามา
จากนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ได้จากของผมคนเดียวของคนอื่นผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าประสบการ์ของผมไปพาดพิงหรือทำให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง
สามารถขอลบกระทู้ได้ และขอโทษมา ณ ทีนี้ด้วย
พอหมอเข้ามาเขาเริ่มจับๆดูและเริ่มพิจารณา จากนั้นจึงอธิบายขั้นตอนการรักษาว่าอาจจะมีเหตุผิดพลาดร้ายแรงเรายินยอมรับการผ่าตัดนะ เราก็ตกลงไป จากนั้นเขาก็เริ้มฉีดยาชา บล็อคตรงโคนอวัยวะเพศ จำไม่ได้ว่าฉีดกี่เข็ม เข็มแรกๆก็เจ็บอยู่จากนั้นก็เริ่มชาๆหน่วงๆไม่เจ็บแล้ว จากนั้น หมอก็เริ่มบรรเลงการขลิบ พอทำไปเรื่อยๆ เราเริ่มเจ็บ ตอนนั้นเราไม่รู้ขั้นตอนว่าเขาทำอะไร (ลืมบอกก่อนทำหมอบอกว่าอาจจะมีเจ็บๆตึงๆหน่วงๆบ้างถ้าทนได้ให้ทนนะ) ด้วยความที่หมอบอกว่าทนได้ให้ทนก่อน เราก็ทนไปพอเริ่มทำไปซักพัก มาถึงขั้นตอนการจี้ด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า ตอนจี้แรกๆก็ไม่เจ็บตึงๆเหมือนโดนหนังยางดีดกลิ่นเหมือนเนื้อไหม้ พอเริ่มจี้ไปซักพัก ความเจ็บเริ่มมา จี้ไปเรื่อยๆจนมันเจ็บมากจนผมร้องออกมาดังมาก แต่หมอก็ไม่หยุดนะจี้ต่อ55555 จี้ไปเรื่อยๆ ผมก็เจ็บทุกครั้งที่จี้ ถามว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง
เหมือนมีแท่งเหล็กร้อนมานาบที่เนื้ออ่อน จี้อยู่นานผมก็พยายามทนให้ได้นานที่สุด จนมันไม่ไหวผมตัวเกร็งหายใจถี่ จนหมอฉีดยาชาเพิ่ม เอาจริงๆตอนฉีดเพิ่มขนาดตอนฉีดเพิ่มตอนเข็มทิ่มลงไปผมยังรู้สึกเลย ตอนนี้ผมเริ่มรู้แล้วว่า ยาชามันหมดฤทธิ์แล้ว หรือเพราะ ค.. ผมมันระบม หรือเปล่าก็ไม่รู้ พอฉีดยาชาเพิ่มเสร็จ หมอก็เริ่มลงมือต่อ แต่อนิจจา ความเจ็บมันไม่หายไปเลย ผมก็ร้องๆๆ ทุกครั้งที่จี้ บอกหมอขอยาชาเพิ่มได้มั้ย หมอก็บอกฉีดครบโดสที่ฉีดได้แล้ว เราก็ต้องตัดใจยอมทน จี้ไปร้องไปเจ็บไป ทุกครั้งที่หมอหยุดจี้เราก็จะถามว่าใกล้เสร็จหรือยัง ทนอยู่อย่างนั้นจนจี้เสร็จจนมาถึงขั้นตอนการเย็บ เย็บแต่ละเข็มนี่รู้สึกได้เลยเจ็บชห. พอเย็บเสร็จก็ถามหมอว่าทำไมมันจี้นานจังเลยหมอก็บอกหนังเราเยอะเลยต้องจี้ออกเยอะ นั้นแหละครับในที่สุดก็เสร็จพี่พยาบาลก็มาทำแผลพร้อมกับอธิบายวิธีล้างแผลดูแลแผล ในที่สุดก็เสร็จ(ลืมบอกเวลาผมบอกให้หมอพักก่อนหมอก็หยุดนะ ให้ผมหยุดได้หายใจ) ผมก็ลุกออกมาจากเตียงด้วยความที่ ค.. ระบม กลับออกไปรอหน้าห้อง
จากนั้นก็ดำเนินเรื่องจ่ายค่ายาและค่ารักษา (ผมใช้สิทธิบัตรทองหรือสิทธิ นศ. ผมก็ไม่ทราบแต่น่าจะเป็นบัตรทองเลยจ่ายแค่ค่ายา)ซึ่งแฟนผมที่ผมพามาด้วยก็จัดการให้เรียบร้อยแล้ว สิริราคารวมแล้ว 265 บาท ที่เสียไปวันนี้ จากนั้นก็ขับรถกลับที่พัก (มอเตอร์ไซด์) ซึ่งผมก็ขับไม่ไหวเจ็บปวดไปหมด😰😰
รีวิวหลังขลิบ+วิธีดูแลรักษาแผลหลังขลิบ
หลังจากขลิบวันแรกผมบอกเลยว่าทั้งปวดทั้งเจ็บ ตอนตื่นก็เจ็บเพราะค..มันจะแข็ง (ลืมบอกไหมที่หมอเย็บให้เป็นไหมละลาย) ช่วง5วันแรกห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด ก็ได้แต่เช็ดตัวไป ตื่นเช้ามาในช่วง5วันแรกผมก็จะเปลี่ยนผ้าก็อซทายา เช้า-เย็น เวลาฉี่ผมก็จะฉี่ใส่ขวดกันเลอะผ้าก็อซ ทำอย่างงี้อยู่5วัน หมอก็นัดไปตรวจแผลหลังผ่าตัด พอหมอบอกว่าแผลแห้งดีแล้ว ผมก็ไม่ใส่ผ้าก็อซอีกต่อไป แต่ยังทายาอยู้เช้า-เย็น พอผ่านไป 1อาทิตย์ แผลเริ่มแห้งสนิดเริ่มใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น เริ่มไปออกกำลังกายเบาๆได้อาบน้ำได้ พอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่2 ก็ไหมก็เริ่มหลุด พอเข้าอาทิตย์ที่3 ตอนอาบน้ำผมไปลูบๆถูสบู่ตรงที่ไหมปรากฏว่าไหมมันหลุดหมดเลยทั้งๆที่แผลก็ยังไม่สมานกันดี ทำให้ต้องกลับมาทายาใหม่ 🤪🤪 จนครบ1เดือนแผลเริ่มสมานกันดีสเก็ดหลุดหมด ก็เริ่มมี
กิจจกรรมทางเพศได้ ใช้ชีวิตได้โดนไม่กังวล(ช่วง5วันแรกพยายามนอนหลับพักผ่อนเยอะๆกินอาหารให้ครบ5หมู่เน้นโปรตีนกับวิตามิน ส่วนตัวซื้อวิตามินซีมากินเพิ่ม) แต่แอบบอกว่าผมเริ่มมีก็ตอนไหมหลุดอาทิตย์ที่3นั้นแหละแต่*อย่าทำตามนะครับ* เพราะถ้าไม่อยากเลือดสาดแบบผม แผลเปิดเลย5555555
รีวิวการใช้งาน
หลังจากขลิบแลเวเอาไปใช้งานฟิลลิ่งมันต่างกว่ากันเยอะเลยครับ ทั้งตอนที่ชตอ. น้ำมันจะพุ่งแบบพุ่งปี้ดๆ ตอนร่วมเพศก็ได้รับประสบการณ์แบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เมื่อก่อนตอนเสร็จมันจะอั้นๆแบบติดที่คอขวดไม่ไหลลื่น ตอนนี้รู้สึกฟินมา ส่วนเรื่องความอืด ส่วนตัวผมว่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบ ชตอ. เลยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ แต่จะเห็นผลมากก็ตอนที่ ผญ ออรัลให้จะรู้สึกเลยได้ว่า มันไม่เสร็จง่าย เหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญเรื่อง
กลิ่นและขี้เปียก กลิ่นนี้แทบจะไม่มีเลย ขี้เปียกนี้คือไม่มีเลย รู้สึก ค.. สะอาดและหล่อขึ้นมาก อ่อ อีกอย่างขลิบแล้วรู้สึกเหมือนค..ใหญ่ขึ้นเลย(น่าจะคิดไปเอง)
สุดท้ายนี้ ทั้งหมดที่ผมนำมาแชร์เป็นประสบการณ์ของผม ไม่ได้มีเจตนาพาดพิง เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากจะขลิบหรือมีปัญหาแบบเดียวกับผมอยู่ แนะนำขลิบเลยครับแล้วชีวิตท่านจะดีขึ้น และฝากถึงพ่อแม่คนไหนที่ลูกพึ่งเกิดหรือยังเล็กๆ แนะนำครับ ให้ขลิบตั้งแต่เล็กๆไปเลย จะได้ไม่
ต้องมาเจ็บตอนโตนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย.......ขอบคุณครับ...
ขลิบ รพ.รัฐ (อยากแชร์ประสบการณ์) เชียงใหม่
1.ทำไมถึงอยากขลิบ?
2.ขั้นตอนการจองคิวขลิบ
3.ขั้นตอนการขลิบ(ผ่าตัดเล็ก)
4.รีวิวหลังขลิบ+การดูแลรักษาแผล(ตามฉบับจขกท.)
5.รีวิวการใช้งานเพื่อประกอบการตัดสินใจและสรุปว่าที่ขลิบมาดีหรือไม่
ทำไมถึงอยากขลิบ
ต้องบอกก่อนว่าผมมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศชายของผมที่ไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายลงมาได้สุด(ตอนแรกเราเข้าใจว่าเรารูดลงมาสุดแล้ว แต่พอไปร่วมกิจกรรมทางเพศก็มีความรู้สึกว่ามันรัดตรงหัวค..เกินไปทำให้มีอาการเหมือนคอขวด เมื่อร่วมเพศไปนานๆจะทำให้ตรงส่วนหัวเกินการบวมและเจ็บ อีกทั้งเวลาเรารูดหนังลงมาเราไม่สามารถปัสสาวะได้ และเมื่อตอนถึงจุดสุดยอดก็จะเจ็บอีก)นั้นจึงทำให้เรารู้สึกว่าของเรามันมีความแปลก ทนอยู่อย่างนั้นมาหลายปี (เราอายุ20ปี) จนสุดท้ายเราทนไม่ไหวเลยตัดสินใจจะไปขลิบ😱😱😱
ขั้นตอนการจองคิวขลิบ
ก่อนอื่นที่ผมจะไปขลิบผมก็หาข้อมูลจากที่ต่างๆทั้งในอินเตอร์เน็ต ยูทูป พันทิป หาอยู่นาน เราก็ได้ใจความว่า มีการขลิบทั้งหมด2แบบ(เท่าที่หาข้อมูลมา) คือ 1.ขลิบแบบไร้เลือด 2.ขลิบแบบผ่าและจี้เด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า ตามข้อมูลที่ได้หามาทั้ง 2 แบบ แบบที่1. จะแผลสวยและไม่เจ็บซักเท่าไหร่และใช้เวลาไม่นาน ส่วนแบบที่2.จะใช้เวลานานกว่าหน่อย ส่วนเรื่องแผลขึ้นอยู่กับหมอที่ทำให้เรา ประเด็นมันอยู่ที่แบบที่2.นี้แหละ ด้วยความที่เรามีงบจำกัด เราจะเลือกทำ
แบบที่2 ก็ได้หาข้อมูลที่ในพันทิป คนที่เคยขลิบก็บอกว่าไม่เจ็บเลยเจ็บแค่ตอนฉีดยาชา เราก็โล่งใจแล้วว่าไม่เจ็บแต่หารู้ไม่มันไม่จริงเลย😭
พอหาข้อมูลเสร็จสรรพ ก็เตรียมบึ่งรถไปสอบถามราคาที่ รพ. ที่แรกที่เราไปเป็น รพ. เอกชน และได้สอบถามราคาได้ทราบว่าราคา10,000+ เราสู้ราคาไม่ไหวเลยไปที่ รพ.รัฐ พอไปถึงเราก็ไปลงทะเบียนขอตรวจ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "มาขลิบอวัยวะเพศชาย" เขาก็จะให้บัตรคิวมารอตรวจที่แผนก "ระบบทางเดินปัสสาวะ" นั้งรออยู่นานๆๆๆ จนเราก็ได้ตรวจ ก็ไปตรวจ ตอนตรวจเขาก็จะให้เขาห้องถอดกางเกงให้เขาดูค..ขอเราแล้วประเมิน พอประเมินเสร็จหมอก็จะเรียกไปนัดวันมา เราได้วันหลังจากที่ตรวจ ประมาณ6เดือน ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะเป็น รพ.รัฐ
ขั้นตอนการขลิบ
เรารออยู่นานในที่สุดก็ถึงวันนัด เราก็เตรียมตัวไปอย่างดีนอนหลับพักผ่อน พอเรียนเสร็จก็รีบบึ่งรถไป รพ. พอไปถึงเราก็ตรงเข้าไปที่แผนก"ระบบทางเดินปัสสาวะ"เลย ยื่นบัตรนัด พยาบาลเขาก็ยื่นใบให้ไปเดินเรื่องต่อ คือ1.วัดความดัน 2.ตรวจเลือด 3.จัดการเรื่องยา (แนะนำให้พาเพื่อนหรือใครก็ได้ไปด้วยจะดีกว่าไปคนเดียวมากๆ) ตอนไปผมไม่ได้ใส่กางเกงสบายๆไปนะครับ ผมใส่ยีนส์ไปซึ่งเป็นความคิดที่ผิดจริงๆ แนะนำใส่กางเกงสบายๆไป พอเดินเรื่องเสร็จเราก็เข้าไปรอหน้าห้องผ่าตัดเล็ก พี่พยาบาลก็จะพาเราไปเปลี่ยนชุด(จริงๆเปลี่ยนแค่กางเกงเป็นผ้าสีเขียวๆของรพ.) พอเปลี่ยนเสร็จก็เตรียมขึ้นเขียง
พอนอนลงเขาก็จะทำความสะอาดบริเวณค..ของเราแล้วก็เอาผ้ามาคลุมหน้าเรา(เริ่มเข้าห้องผ่าตัดตอนบ่าย2นิดๆ) จากนั้นก็มีหมอ2คนเข้ามา
จากนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ได้จากของผมคนเดียวของคนอื่นผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าประสบการ์ของผมไปพาดพิงหรือทำให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง
สามารถขอลบกระทู้ได้ และขอโทษมา ณ ทีนี้ด้วย
พอหมอเข้ามาเขาเริ่มจับๆดูและเริ่มพิจารณา จากนั้นจึงอธิบายขั้นตอนการรักษาว่าอาจจะมีเหตุผิดพลาดร้ายแรงเรายินยอมรับการผ่าตัดนะ เราก็ตกลงไป จากนั้นเขาก็เริ้มฉีดยาชา บล็อคตรงโคนอวัยวะเพศ จำไม่ได้ว่าฉีดกี่เข็ม เข็มแรกๆก็เจ็บอยู่จากนั้นก็เริ่มชาๆหน่วงๆไม่เจ็บแล้ว จากนั้น หมอก็เริ่มบรรเลงการขลิบ พอทำไปเรื่อยๆ เราเริ่มเจ็บ ตอนนั้นเราไม่รู้ขั้นตอนว่าเขาทำอะไร (ลืมบอกก่อนทำหมอบอกว่าอาจจะมีเจ็บๆตึงๆหน่วงๆบ้างถ้าทนได้ให้ทนนะ) ด้วยความที่หมอบอกว่าทนได้ให้ทนก่อน เราก็ทนไปพอเริ่มทำไปซักพัก มาถึงขั้นตอนการจี้ด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า ตอนจี้แรกๆก็ไม่เจ็บตึงๆเหมือนโดนหนังยางดีดกลิ่นเหมือนเนื้อไหม้ พอเริ่มจี้ไปซักพัก ความเจ็บเริ่มมา จี้ไปเรื่อยๆจนมันเจ็บมากจนผมร้องออกมาดังมาก แต่หมอก็ไม่หยุดนะจี้ต่อ55555 จี้ไปเรื่อยๆ ผมก็เจ็บทุกครั้งที่จี้ ถามว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง
เหมือนมีแท่งเหล็กร้อนมานาบที่เนื้ออ่อน จี้อยู่นานผมก็พยายามทนให้ได้นานที่สุด จนมันไม่ไหวผมตัวเกร็งหายใจถี่ จนหมอฉีดยาชาเพิ่ม เอาจริงๆตอนฉีดเพิ่มขนาดตอนฉีดเพิ่มตอนเข็มทิ่มลงไปผมยังรู้สึกเลย ตอนนี้ผมเริ่มรู้แล้วว่า ยาชามันหมดฤทธิ์แล้ว หรือเพราะ ค.. ผมมันระบม หรือเปล่าก็ไม่รู้ พอฉีดยาชาเพิ่มเสร็จ หมอก็เริ่มลงมือต่อ แต่อนิจจา ความเจ็บมันไม่หายไปเลย ผมก็ร้องๆๆ ทุกครั้งที่จี้ บอกหมอขอยาชาเพิ่มได้มั้ย หมอก็บอกฉีดครบโดสที่ฉีดได้แล้ว เราก็ต้องตัดใจยอมทน จี้ไปร้องไปเจ็บไป ทุกครั้งที่หมอหยุดจี้เราก็จะถามว่าใกล้เสร็จหรือยัง ทนอยู่อย่างนั้นจนจี้เสร็จจนมาถึงขั้นตอนการเย็บ เย็บแต่ละเข็มนี่รู้สึกได้เลยเจ็บชห. พอเย็บเสร็จก็ถามหมอว่าทำไมมันจี้นานจังเลยหมอก็บอกหนังเราเยอะเลยต้องจี้ออกเยอะ นั้นแหละครับในที่สุดก็เสร็จพี่พยาบาลก็มาทำแผลพร้อมกับอธิบายวิธีล้างแผลดูแลแผล ในที่สุดก็เสร็จ(ลืมบอกเวลาผมบอกให้หมอพักก่อนหมอก็หยุดนะ ให้ผมหยุดได้หายใจ) ผมก็ลุกออกมาจากเตียงด้วยความที่ ค.. ระบม กลับออกไปรอหน้าห้อง
จากนั้นก็ดำเนินเรื่องจ่ายค่ายาและค่ารักษา (ผมใช้สิทธิบัตรทองหรือสิทธิ นศ. ผมก็ไม่ทราบแต่น่าจะเป็นบัตรทองเลยจ่ายแค่ค่ายา)ซึ่งแฟนผมที่ผมพามาด้วยก็จัดการให้เรียบร้อยแล้ว สิริราคารวมแล้ว 265 บาท ที่เสียไปวันนี้ จากนั้นก็ขับรถกลับที่พัก (มอเตอร์ไซด์) ซึ่งผมก็ขับไม่ไหวเจ็บปวดไปหมด😰😰
รีวิวหลังขลิบ+วิธีดูแลรักษาแผลหลังขลิบ
หลังจากขลิบวันแรกผมบอกเลยว่าทั้งปวดทั้งเจ็บ ตอนตื่นก็เจ็บเพราะค..มันจะแข็ง (ลืมบอกไหมที่หมอเย็บให้เป็นไหมละลาย) ช่วง5วันแรกห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด ก็ได้แต่เช็ดตัวไป ตื่นเช้ามาในช่วง5วันแรกผมก็จะเปลี่ยนผ้าก็อซทายา เช้า-เย็น เวลาฉี่ผมก็จะฉี่ใส่ขวดกันเลอะผ้าก็อซ ทำอย่างงี้อยู่5วัน หมอก็นัดไปตรวจแผลหลังผ่าตัด พอหมอบอกว่าแผลแห้งดีแล้ว ผมก็ไม่ใส่ผ้าก็อซอีกต่อไป แต่ยังทายาอยู้เช้า-เย็น พอผ่านไป 1อาทิตย์ แผลเริ่มแห้งสนิดเริ่มใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น เริ่มไปออกกำลังกายเบาๆได้อาบน้ำได้ พอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่2 ก็ไหมก็เริ่มหลุด พอเข้าอาทิตย์ที่3 ตอนอาบน้ำผมไปลูบๆถูสบู่ตรงที่ไหมปรากฏว่าไหมมันหลุดหมดเลยทั้งๆที่แผลก็ยังไม่สมานกันดี ทำให้ต้องกลับมาทายาใหม่ 🤪🤪 จนครบ1เดือนแผลเริ่มสมานกันดีสเก็ดหลุดหมด ก็เริ่มมี
กิจจกรรมทางเพศได้ ใช้ชีวิตได้โดนไม่กังวล(ช่วง5วันแรกพยายามนอนหลับพักผ่อนเยอะๆกินอาหารให้ครบ5หมู่เน้นโปรตีนกับวิตามิน ส่วนตัวซื้อวิตามินซีมากินเพิ่ม) แต่แอบบอกว่าผมเริ่มมีก็ตอนไหมหลุดอาทิตย์ที่3นั้นแหละแต่*อย่าทำตามนะครับ* เพราะถ้าไม่อยากเลือดสาดแบบผม แผลเปิดเลย5555555
รีวิวการใช้งาน
หลังจากขลิบแลเวเอาไปใช้งานฟิลลิ่งมันต่างกว่ากันเยอะเลยครับ ทั้งตอนที่ชตอ. น้ำมันจะพุ่งแบบพุ่งปี้ดๆ ตอนร่วมเพศก็ได้รับประสบการณ์แบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เมื่อก่อนตอนเสร็จมันจะอั้นๆแบบติดที่คอขวดไม่ไหลลื่น ตอนนี้รู้สึกฟินมา ส่วนเรื่องความอืด ส่วนตัวผมว่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบ ชตอ. เลยไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ แต่จะเห็นผลมากก็ตอนที่ ผญ ออรัลให้จะรู้สึกเลยได้ว่า มันไม่เสร็จง่าย เหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญเรื่อง
กลิ่นและขี้เปียก กลิ่นนี้แทบจะไม่มีเลย ขี้เปียกนี้คือไม่มีเลย รู้สึก ค.. สะอาดและหล่อขึ้นมาก อ่อ อีกอย่างขลิบแล้วรู้สึกเหมือนค..ใหญ่ขึ้นเลย(น่าจะคิดไปเอง)
สุดท้ายนี้ ทั้งหมดที่ผมนำมาแชร์เป็นประสบการณ์ของผม ไม่ได้มีเจตนาพาดพิง เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากจะขลิบหรือมีปัญหาแบบเดียวกับผมอยู่ แนะนำขลิบเลยครับแล้วชีวิตท่านจะดีขึ้น และฝากถึงพ่อแม่คนไหนที่ลูกพึ่งเกิดหรือยังเล็กๆ แนะนำครับ ให้ขลิบตั้งแต่เล็กๆไปเลย จะได้ไม่
ต้องมาเจ็บตอนโตนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย.......ขอบคุณครับ...