ขอเริ่มเรื่องอย่างนี้นะครับ
หลานสาวผม ตอนนี้เรียนอยู่ม.3 ของโรงเรียนโรงเรียนนึงเป็นเอกชน(ขอยังไม่เอ่ยชื่อโรงเรียนนะครับ)
ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2เดือน น้องมีสภาวะเครียดผิดปกติ คุณแม่ของน้องเลยพาน้องไปหาหมอ
หมอประเมินว่า น้องเป็นซึมเศร้าครับ สาเหตุคร่าวๆก็มาจากเพื่อนในห้องเกิดการแกล้งกันบูลลี่กัน
(จากที่สอบถามคุณแม่ของน้องนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ตัดสินจากคำพูดของพี่สาวผมฝ่ายเดียว
เพราะเรื่องแบบนี้ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ในทุกที่)
คุณหมอแนะนำว่า ให้พาน้องไปทำกิจกรรมและลองไปอยู่กับสังคมใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการกินยาครับ
หลังจากนั้นคุณแม่ของน้องได้หาแมวมาให้เลี้ยง ขอทางโรงเรียนให้น้องย้ายห้องเรียน กินยาตามที่หมอสั่ง น้องก็มีอาการดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดครับ
พอหลังจากช่วงปีใหม่ที่กลับไปเรียน เพื่อนของน้องที่อยู่ห้องเก่ามาบอกน้องครับ
ว่าครูประจำชั้นของห้องเก่าแจ้งว่าน้องต้องย้ายกลับไปเรียนห้องเก่า หลังจากที่มีการสอบเก็บคะแนนช่วงเดือนก.พ.เสร็จ
น้องก็ได้มาบอกคุณแม่ครับ คุณแม่เลยแจ้งว่าจะไปคุยกับครูให้
แต่น้องแจ้งว่าขอไปสอบถามครูก่อนว่าต้องย้ายห้องกลับจริงๆใช่ไหม(กลัวเพื่อนแกล้งอำเล่น)
หลังจากที่น้องไปคุยกับครู ครูแจ้งน้องว่าต้องย้ายกลับห้องเก่า(เหมือนที่เพื่อนมาบอก)
สรุปว่าวันนี้คุณแม่ของน้องแชทไปหาครูที่ปรึกษาที่แจ้งน้องว่าน้องต้องย้ายกลับห้องเก่า
ข้อความตามนี้นะครับ จริงๆมีแชทแต่ผมยังไม่อยากแนบลง
แม่ 11.03น. : สวัสดีค่ะ ผู้ปกครอง เด็กชื่อ....นะคะ พอดีอยากคุยเรื่องย้ายห้องค่ะ
ครู 13.05น. : ได้ค่ะ
แม่ 13.25น. : แม่อยากให้น้องอยู่ห้อง14 แบบเดิมค่ะ เพราะตั้งแต่ย้ายไปห้อง14 น้องสุขภาพจิตดีขึ้นเยอะมากๆค่ะ
ครู 13.33 น. : อีกแค่1เดือนค่ะ สิ้นเดือนก.พ.ก็ปิดเทอมแล้วค่ะ เรื่องคะแนนด้านวิชาการด้วยค่ะคุณแม่
แม่ 13.44น. : ไม่สามารถย้ายคะแนนได้เหรอคะ เพราะหมอประเมินน้องเป็นซึมเศร้าขั้นรุนแรง มีโอกาสฆ่าตัวตายนะคะ
ครู 13.46น. : ครูคนละคนกับคนสอนค่ะ ในห้อง17เพื่อนๆก็ไม่มีปัญหาอะไรกับน้องนะคะ
ครู 13.47น. : ให้น้องมาสอบกับเพื่อนห้อง17 แล้วก็มาเรียนก่อนค่ะ
ครู 13.53น. : เพราะจะจบม.3แล้ว ต้องคะแนนด้วยค่ะ(ครูพิมพ์มาแบบนี้นะครับ)
ยังไม่ได้คุยอะไรต่อเพราะพี่ผมติดงาน
หลังจากนั้นช่วงประมาณ 15.44น. น้องไลน์มาหาคุณแม่
น้อง : ไม่ต้องไปคุยกับครูแล้วนะ น้องอยู่ห้องไหนก็ได้ 14ก็ดี17ก็ดี อยู่ไหนก็ไม่ต่างหรอก
พี่ผมปรึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ส่วนตัวผมบอกพี่ว่าอย่ายอมให้น้องย้ายห้อง ให้คุยกับครูให้รู้เรื่อง
เพราะถ้าน้องคิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ไปอยู่ในสภาวะที่ทำให้น้องเครียด กลัวอาการจะแย่ และร้ายที่สุดคือฆ่าตัวตาย
หลังจากที่พี่ส่งแชทข้อความที่คุยกับครูมาให้ผมอ่าน ในใจนี่โกรธมากครับ
เพราะผมไม่เข้าใจว่าครูตอบแบบนี้มาได้ยังไง น้องไม่ใช่ลูก-หลานครูใช่ไหมครับ หรือครูไม่รู้ว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร การฆ่าตัวตายคืออะไร
แล้วก็ไม่รู้ว่าครูไปคุยอะไรกับน้อง ทำให้น้องไลน์มาบอกแม่แบบนี้
แต่ผมอยากรู้แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ว่าเราควรจะไปแจ้งกับทางโรงเรียนยังไง เพราะไม่ต้องการให้น้องย้ายห้อง
ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
อยากสอบถามครับ เคสแบบนี้สามารถทำอย่างไรได้บ้างครับ
หลานสาวผม ตอนนี้เรียนอยู่ม.3 ของโรงเรียนโรงเรียนนึงเป็นเอกชน(ขอยังไม่เอ่ยชื่อโรงเรียนนะครับ)
ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2เดือน น้องมีสภาวะเครียดผิดปกติ คุณแม่ของน้องเลยพาน้องไปหาหมอ
หมอประเมินว่า น้องเป็นซึมเศร้าครับ สาเหตุคร่าวๆก็มาจากเพื่อนในห้องเกิดการแกล้งกันบูลลี่กัน
(จากที่สอบถามคุณแม่ของน้องนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ตัดสินจากคำพูดของพี่สาวผมฝ่ายเดียว
เพราะเรื่องแบบนี้ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ในทุกที่)
คุณหมอแนะนำว่า ให้พาน้องไปทำกิจกรรมและลองไปอยู่กับสังคมใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการกินยาครับ
หลังจากนั้นคุณแม่ของน้องได้หาแมวมาให้เลี้ยง ขอทางโรงเรียนให้น้องย้ายห้องเรียน กินยาตามที่หมอสั่ง น้องก็มีอาการดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดครับ
พอหลังจากช่วงปีใหม่ที่กลับไปเรียน เพื่อนของน้องที่อยู่ห้องเก่ามาบอกน้องครับ
ว่าครูประจำชั้นของห้องเก่าแจ้งว่าน้องต้องย้ายกลับไปเรียนห้องเก่า หลังจากที่มีการสอบเก็บคะแนนช่วงเดือนก.พ.เสร็จ
น้องก็ได้มาบอกคุณแม่ครับ คุณแม่เลยแจ้งว่าจะไปคุยกับครูให้
แต่น้องแจ้งว่าขอไปสอบถามครูก่อนว่าต้องย้ายห้องกลับจริงๆใช่ไหม(กลัวเพื่อนแกล้งอำเล่น)
หลังจากที่น้องไปคุยกับครู ครูแจ้งน้องว่าต้องย้ายกลับห้องเก่า(เหมือนที่เพื่อนมาบอก)
สรุปว่าวันนี้คุณแม่ของน้องแชทไปหาครูที่ปรึกษาที่แจ้งน้องว่าน้องต้องย้ายกลับห้องเก่า
ข้อความตามนี้นะครับ จริงๆมีแชทแต่ผมยังไม่อยากแนบลง
แม่ 11.03น. : สวัสดีค่ะ ผู้ปกครอง เด็กชื่อ....นะคะ พอดีอยากคุยเรื่องย้ายห้องค่ะ
ครู 13.05น. : ได้ค่ะ
แม่ 13.25น. : แม่อยากให้น้องอยู่ห้อง14 แบบเดิมค่ะ เพราะตั้งแต่ย้ายไปห้อง14 น้องสุขภาพจิตดีขึ้นเยอะมากๆค่ะ
ครู 13.33 น. : อีกแค่1เดือนค่ะ สิ้นเดือนก.พ.ก็ปิดเทอมแล้วค่ะ เรื่องคะแนนด้านวิชาการด้วยค่ะคุณแม่
แม่ 13.44น. : ไม่สามารถย้ายคะแนนได้เหรอคะ เพราะหมอประเมินน้องเป็นซึมเศร้าขั้นรุนแรง มีโอกาสฆ่าตัวตายนะคะ
ครู 13.46น. : ครูคนละคนกับคนสอนค่ะ ในห้อง17เพื่อนๆก็ไม่มีปัญหาอะไรกับน้องนะคะ
ครู 13.47น. : ให้น้องมาสอบกับเพื่อนห้อง17 แล้วก็มาเรียนก่อนค่ะ
ครู 13.53น. : เพราะจะจบม.3แล้ว ต้องคะแนนด้วยค่ะ(ครูพิมพ์มาแบบนี้นะครับ)
ยังไม่ได้คุยอะไรต่อเพราะพี่ผมติดงาน
หลังจากนั้นช่วงประมาณ 15.44น. น้องไลน์มาหาคุณแม่
น้อง : ไม่ต้องไปคุยกับครูแล้วนะ น้องอยู่ห้องไหนก็ได้ 14ก็ดี17ก็ดี อยู่ไหนก็ไม่ต่างหรอก
พี่ผมปรึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ส่วนตัวผมบอกพี่ว่าอย่ายอมให้น้องย้ายห้อง ให้คุยกับครูให้รู้เรื่อง
เพราะถ้าน้องคิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ไปอยู่ในสภาวะที่ทำให้น้องเครียด กลัวอาการจะแย่ และร้ายที่สุดคือฆ่าตัวตาย
หลังจากที่พี่ส่งแชทข้อความที่คุยกับครูมาให้ผมอ่าน ในใจนี่โกรธมากครับ
เพราะผมไม่เข้าใจว่าครูตอบแบบนี้มาได้ยังไง น้องไม่ใช่ลูก-หลานครูใช่ไหมครับ หรือครูไม่รู้ว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร การฆ่าตัวตายคืออะไร
แล้วก็ไม่รู้ว่าครูไปคุยอะไรกับน้อง ทำให้น้องไลน์มาบอกแม่แบบนี้
แต่ผมอยากรู้แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ว่าเราควรจะไปแจ้งกับทางโรงเรียนยังไง เพราะไม่ต้องการให้น้องย้ายห้อง
ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ