ปัจจุบันสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวเเล้ว จากสถิติพบว่าประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุประมาณ 11.8 ล้านคน เเละจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี วิชาชีพกายภาพบําบัดจึงมีบทบาทสําคัญอย่างยิ่งในอนาคต
กายภาพบำบัด หมายถึง วิชาชีพที่ช่วยส่งเสริม ป้องกัน รักษาเเละฟื้นฟู ผู้ที่มีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือใกล้เคียงปกติ
กายภาพบําบัดสามารถเเบ่งออกเป็นหลายส่วน ดังนี้
-กายภาพบําบัดในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ
-กายภาพบําบัดในระบบทางเดินหายใจ
-กายภาพบําบัดในระบบประสาท
-กายภาพบําบัดในระบบหัวใจเเละหลอดเลือด
-กายภาพบําบัดในเด็ก
-กายภาพบําบัดทางด้านกีฬา
-กายภาพบําบัดชุมชน
สําหรับการศึกษาต่อในสาขากายภาพบําบัด น้องๆจะต้องจบมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทย์-คณิต เท่านั้น!!
การเรียน กายภาพบําบัดในมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเรียน 4 ปี
ชั้นปีที่ 1
น้องๆจะเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปร่วมกับเพื่อนๆคณะอื่น เช่น คณิตศาสตร์ ภาษา สังคม เเละวิชาบทนําเข้าสู่สาขากายภาพบําบัด เเละวิชาอื่นๆของสาขากายภาพบําบัด
ชั้นปีที่ 2
เนื้อหาที่น้องๆต้องเรียนจะเข้มข้นขึ้น เเละเข้าสู่วิชาสาขามากขึ้นเเละอาจมีวิชาพื้นฐานทั่วไปอยู่บ้าง(ซึ่งเเต่ละมหาลัยอาจจะมีการจัดตารางวิชาเรียนที่เเตกต่างกัน ) เเต่ของพี่จะเรียนกายภาพบําบัดในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ (ผ่าร่างอาจารย์ใหญ่) กายภาพบําบัดในระบบประสาท วารีบําบัด (เป็นการรักษาผู้ป่วยในนํ้า)กายภาพบําบัดในระบบหายใจ ชีวกลศาสตร์(การเคลื่อนไหวร่างกายซึ่งมีเเรงเข้ามาเกี่ยวข้อง) วิชาเครื่องมือทางกายภาพบําบัด เเละวิชาสาขาอื่นๆ
ชั้นปีที่ 3
เนื้อหาที่น้องๆจะต้องเรียนจะเข้มข้นเเละลึกขึ้นกว่าชั้นปีที่2 โดยจะเน้นไปที่การตรวจประเมิน วิเคราะห์สาเหตุ เเละการรักษาโรคทั้งในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ ระบบหายใจ ระบบประสาท ระบบหัวใจเเละหลอดเลือด การรักษาผู้ป่วยในกลุ่มเฉพาะสภาวะ เช่น การออกกําลังกายในคนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เป็นต้น รวมถึงวิชาอื่นๆเเละฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล (ฝึกงาน1)
ชั้นปีที่ 4
เนื้อหาที่น้องๆต้องเรียนจะเกี่ยวข้องกับกายภาพบําบัดในนักกีฬา กายภาพบําบัดชุมชน (ลงชุมชน) เเละมีเรียนกายภาพบําบัดในเด็กเเละทํางานวิจัย รวมทั้งฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล (ฝึกงาน2)
เมื่อน้องเรียนจบ 4 ปีเเล้ว น้องๆจะต้องสอบวัดความรู้ทางกายภาพบําบัดเพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพ จากสภากายภาพบําบัดก่อน จึงจะสามารถทํางานได้ สําหรับวิชาชีพกายภาพบําบัด เมื่อน้องๆเรียนจบเเละมีใบประกอบวิชาชีพเเล้ว ก็สามารถทํางานเป็นนักกายภาพบําบัดในโรงพยาบาล เปิดคลินิกกายภาพ นักกายภาพในทีมกีฬา เซลขายเครื่องมือเเละอุปกรณ์การเเพทย์ เป็นต้น
น้องๆที่มีความฝันอยากเป็น"นักกายภาพบําบัด" ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเเค่น้องๆอดทน+ตั้งใจเเน่วเเน่ ความสําเร็จอยู่ไม่ไกลเเน่นอนครับ เหมือนที่อาจารย์ท่านหนึ่งบอกกับพี่ตอนอยู่ปี 1ว่า "ไม่มีอะไรที่เราทําไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจ จนถึงวันนี้พี่ยังจําประโยคนี้ได้ดีเสมอ
สําหรับน้องๆคนไหนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากเรียนอะไร "กายภาพบําบัด" เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พี่เเนะนําครับ น้องๆที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิชาชีพกายภาพบําบัด สามารถพิมพ์ไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ถึงน้องๆที่อยากเรียนกายภาพบําบัด อีกหนึ่งอาชีพที่มาเเรงในอนาคต
กายภาพบำบัด หมายถึง วิชาชีพที่ช่วยส่งเสริม ป้องกัน รักษาเเละฟื้นฟู ผู้ที่มีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือใกล้เคียงปกติ
กายภาพบําบัดสามารถเเบ่งออกเป็นหลายส่วน ดังนี้
-กายภาพบําบัดในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ
-กายภาพบําบัดในระบบทางเดินหายใจ
-กายภาพบําบัดในระบบประสาท
-กายภาพบําบัดในระบบหัวใจเเละหลอดเลือด
-กายภาพบําบัดในเด็ก
-กายภาพบําบัดทางด้านกีฬา
-กายภาพบําบัดชุมชน
สําหรับการศึกษาต่อในสาขากายภาพบําบัด น้องๆจะต้องจบมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทย์-คณิต เท่านั้น!!
การเรียน กายภาพบําบัดในมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเรียน 4 ปี
ชั้นปีที่ 1
น้องๆจะเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปร่วมกับเพื่อนๆคณะอื่น เช่น คณิตศาสตร์ ภาษา สังคม เเละวิชาบทนําเข้าสู่สาขากายภาพบําบัด เเละวิชาอื่นๆของสาขากายภาพบําบัด
ชั้นปีที่ 2
เนื้อหาที่น้องๆต้องเรียนจะเข้มข้นขึ้น เเละเข้าสู่วิชาสาขามากขึ้นเเละอาจมีวิชาพื้นฐานทั่วไปอยู่บ้าง(ซึ่งเเต่ละมหาลัยอาจจะมีการจัดตารางวิชาเรียนที่เเตกต่างกัน ) เเต่ของพี่จะเรียนกายภาพบําบัดในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ (ผ่าร่างอาจารย์ใหญ่) กายภาพบําบัดในระบบประสาท วารีบําบัด (เป็นการรักษาผู้ป่วยในนํ้า)กายภาพบําบัดในระบบหายใจ ชีวกลศาสตร์(การเคลื่อนไหวร่างกายซึ่งมีเเรงเข้ามาเกี่ยวข้อง) วิชาเครื่องมือทางกายภาพบําบัด เเละวิชาสาขาอื่นๆ
ชั้นปีที่ 3
เนื้อหาที่น้องๆจะต้องเรียนจะเข้มข้นเเละลึกขึ้นกว่าชั้นปีที่2 โดยจะเน้นไปที่การตรวจประเมิน วิเคราะห์สาเหตุ เเละการรักษาโรคทั้งในระบบกระดูกเเละกล้ามเนื้อ ระบบหายใจ ระบบประสาท ระบบหัวใจเเละหลอดเลือด การรักษาผู้ป่วยในกลุ่มเฉพาะสภาวะ เช่น การออกกําลังกายในคนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เป็นต้น รวมถึงวิชาอื่นๆเเละฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล (ฝึกงาน1)
ชั้นปีที่ 4
เนื้อหาที่น้องๆต้องเรียนจะเกี่ยวข้องกับกายภาพบําบัดในนักกีฬา กายภาพบําบัดชุมชน (ลงชุมชน) เเละมีเรียนกายภาพบําบัดในเด็กเเละทํางานวิจัย รวมทั้งฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล (ฝึกงาน2)
เมื่อน้องเรียนจบ 4 ปีเเล้ว น้องๆจะต้องสอบวัดความรู้ทางกายภาพบําบัดเพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพ จากสภากายภาพบําบัดก่อน จึงจะสามารถทํางานได้ สําหรับวิชาชีพกายภาพบําบัด เมื่อน้องๆเรียนจบเเละมีใบประกอบวิชาชีพเเล้ว ก็สามารถทํางานเป็นนักกายภาพบําบัดในโรงพยาบาล เปิดคลินิกกายภาพ นักกายภาพในทีมกีฬา เซลขายเครื่องมือเเละอุปกรณ์การเเพทย์ เป็นต้น
น้องๆที่มีความฝันอยากเป็น"นักกายภาพบําบัด" ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเเค่น้องๆอดทน+ตั้งใจเเน่วเเน่ ความสําเร็จอยู่ไม่ไกลเเน่นอนครับ เหมือนที่อาจารย์ท่านหนึ่งบอกกับพี่ตอนอยู่ปี 1ว่า "ไม่มีอะไรที่เราทําไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจ จนถึงวันนี้พี่ยังจําประโยคนี้ได้ดีเสมอ
สําหรับน้องๆคนไหนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากเรียนอะไร "กายภาพบําบัด" เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พี่เเนะนําครับ น้องๆที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิชาชีพกายภาพบําบัด สามารถพิมพ์ไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ