[CR] พระธาตุลับกลางเขื่อนศรี ดินแดนต้องห้ามของอิสตรี

สถานที่ต้องห้ามของสตรี เกาะศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กลางเกาะ หนึ่งในสถานที่ลึกลับที่จุดหมายไม่ใช้ทางผ่าน
แบบปกติ สถานที่ ๆ ต้องตั้งใจไปเท่านั้นถึงจะไปได้ สถานที่ ๆ ไม่ใช่จะเข้าไปได้โดยง่ายเพียงขับรถถึง... 

ปล. ขออนุญาตแก้ไข ที่นี่อยู่บริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ์ ไม่ใช่เขื่อศรีนครินทร์ (05/01/2567)

  จุดเริ่มต้น
          หลังจากออกจาก  น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ธารสวรรค์แห่งทองผาภูมิ มีอีกหนึ่งสถานที่มีตำนานกล่าวขานถึงความลึกลับที่ถูกเล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยที่เรามีเวลามากพอก่อนที่จะเข้าพักอีกคืน ณ ทองผาภูมิแห่งนี้ หัวหน้าทริปก็ยกหูติดต่อเจรจาการเดินทางไปยังที่หมายซึ่งสถานที่นั้นจำเป็นต้องเดินทางโดยเรือเท่านั้น !
           ความศรัทธาอันแรงกล้าบวกกับราคาที่หารกันแล้วพอรับได้ เรือเหมาลำสำหรับไป 2 หมุดหมาย คือ 1.เกาะศักดิ์สิทธิ์ที่หลักที่จะไป และ 2 เขาคลอรี่ สถานที่ที่ถูกปลดออกจากหมุด MAP GPS จบไปที่ราคา 2 ใบเทา 

           จุดเริ่มต้นทางน้ำจึงเริ่มขึ้นที่แพบุญเติน ส่วนตรงที่เราขึ้นเรือเขาเรียกว่าบ้านท่าแพ หรือจุดลงเรือไปแพมาลัย พร้อมกับกัปตันของเราคือ คุณโอ 087-007-4483 (เราไม่ได้ค่านายหน้าใด ๆ หากใครไปฝากบอกว่ามาจากเราเผื่อคราวหน้าเขาลดราคาให้เราบ้าง อิอิ)

ร่องเรือหาเกาะลับ
          เรือหางยาวแบบมีหลังคาถูกสตาร์ทเครื่องเสียงดังคำรามออกตัวแล่นแหวกม่านน้ำที่นิ่งสงบเกิดคลื่นแตกกระเซ็นเป็นฟองขาว หัวเรือพุ่งแหวกอากาศมุ่งตรงไปเบื้องหน้า ระยะเวลาของการเดินทางที่จะไปยังที่หมายใช้ประมาณ 45 นาที ตลอดทางผ่านหมู่เกาะน้อย ๆ กลางน้ำ สองฝากฝั่งเขียวชะอุ่มชุ่มชื่น (อาจเพราะปริมาณน้ำในเดือนนี้ค่อนข้างมาก) ท้องฟ้าใสแดดจัดแต่ไม่ถึงกับร้อนทำให้เราสามารถนั่งมองก้อนเมฆแล้วจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ ไว้ทายกันเป็นการฆ่าเวลา หนึ่งอึดใจที่เพลิดเพลินกับการนั่งเรือ "บางครั้งการรอคอยก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง" 


กาะลับ ณ เขื่อนศรี
           เมื่อถึงต้องเดินเท้าต่อไปตามทางดินอีกหน่อยก็จะพบกับจุดหมาย บ้านโบอ่อง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตำบลปิล๊อก บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ที่เราจะมามีชื่อว่า "เจดีย์พระธาตุโบอ่อง"  วัดที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งอีกทั้งเป็นศูนย์กลางรวบรวมจิตใจของหมู่บ้านชาวไทยพุทธ กะเหรี่ยงพุทธ และชาวมอญที่อาศัยอยู่ 

            สำหรับการจะเข้าไปกราบนมัสการพระธาตุ ฯ ทางเข้าเป็นสะพานปูน (เดิมเป็นสะพานไม้) ทอดยาวจากฝั่งข้ามไปยังเกาะกลางบึงบัวขนาดใหญ่ ที่ที่มีเจดีย์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดเขาหินปูนขนาดเล็ก ซึ่งจะต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขาตามบันไดชันน้อย ๆ เพื่อขึ้นสู่องค์พระธาตุ 

            องค์พระเจดีย์มีลักษณะเป็นทรงมอญสีขาว สูงประมาณ 6 เมตร ฐานกว้างประมาณ 3x3 เมตร  ด้านข้างมีระฆังแขวนอยู่ สันนิษฐานว่าเป็นระฆังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานไว้ให้แขวนคู่กัน บริเวณด้านบนสามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้าน อ่างเก็บน้ำ และเทือกเขาไกลสุดลูกหูลูกตา 

             เจดีย์พระธาตุแห่งนี้เป็นสถานที่เคารพนับถือของชาวบ้าน มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงเดินข้ามสะพานเพื่อขึ้นไปบนยอดเขา ต่อมาปรากฏว่าน้ำในบึงค่อย ๆ เหือดแห้งลง จึงเกิดเป็นความเชื่อของชาวบ้าน "ห้ามผู้หญิงเดินข้ามสะพาน หรือเดินลงไปในบึงเด็ดขาด" หากมีการฝ่าฝืน ผู้นั้นจะประสบกับเคราะห์กรรม 

             ชาวบ้านจึงสร้างเจดีย์จำลองไว้บริเวณด้านหน้าสะพานให้ให้เคารพสักการะแทน และยังมีความเชื่อในเรื่องของพญานาคที่ดูแลองค์พระธาตุอีกด้วย ในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 พุทธศาสนิกชนต่างพร้อมใจกันเดินทางมานมัสการเจดีย์พระธาตุโบอ่อง เป็นประจำทุกปี (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2023) นอกจากที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี

ขาลงก็จะเสียว ๆ หน่อย

          ออกเดินทางต่อจาก พระธาตุโบอ่อง สถานที่ต่อไปเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งอยู่อีกฝากกับจุดหมายแรก โดยเราจะย้อนกลับมาทางเดิม ตลอดข้างทางมีที่อยู่อาศัยของชาวบ้านที่อยู่บนแพเป็นหย่อม ๆ


ดอกไม้พิเศษ
              เมื่อเดินทางมาถึงกลางทางก่อนจะไปยังจุดหมายที่สอง กัปตันโอชะลอความเร็ว ชี้ให้ดูเกาะกลางน้ำขนาดเล็กด้านขวามือ บนเกาะมีต้นไม้และดอกไม้สีชมพูสดสวยงามขึ้นอยู่ เอียแกบอกว่าดอกไม้นี้จะขึ้นบนเกาะกลางน้ำนี้เท่านั้น และในหนึ่งปีจะบานชูช่อเผยความสวยงามเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่นี่เป็นอีกหนึ่งไอไลท์ เผื่อใครรู้ว่ามันคือดอกอะไรรบกวนบอกผมด้วยนะครับ


ตามหาคลอรี่ หุบเขาแห่งความลับ
                ความยาก ความท้าทาย คือขนม คือของหวานอันโอชะ อีโก้ที่พึงต้องการพิสูจน์ บอกว่าข้าแน่ ข้าเหนือกว่า ข้าไม่ธรรมดา สิ่งเหล่านั้นอาจทำให้ผู้คนบางกลุ่มเซาะหาเข้ามากางเต็นท์ แคมป์ปิ้ง เพราะความชิคคูลของหุบเขาแห่งนี้ (จากรีวิว) ที่เอารถยกสูง หรือมอเตอร์ไซค์เข้ามา (รถปกติเข้าไม่ได้) แต่ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประกาศไมอนุญาตให้เข้าไปกางเต็นท์พักแรมได้ ประกาศจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

                แต่ด้วยเรามาทางเรือเลยอยากเห็นสักหน่อยว่าเป้นอย่างไร แต่การหาเขาคลอรี่นี้ไม่เฟรนลี่อีกต่อไป ปริมาณน้ำที่มากท่วมสูงกว่าแผ่นดินคาดว่าทำให้เขาคลอรี่ ที่มีพื้นที่ที่เขากางเต็นท์นั้นน่าจะจมน้ำหายไป ทำให้เราอดเห็น แต่บริเวณใกล้ที่คิดว่าจะเป็นสถานที่ที่หมาย เราก็พบผ้าใบฟ้า ๆ และหมู่คนที่เขามาตั้งแคมป์ที่อยู่ริมตลิ่ง คิดว่าเขาคงขยับมากางแนวนั้นแทนด้วยน้ำเยอะ ความท้าทายและอันตรายคงเป็นความสุขของพวกเขา ส่วนของเราพอแหงนหน้าก็พบว่าฟ้านั้นครึ้ม ๆ ดูทรงละท่าจะไม่ดี มองหน้ากันในทีมเป็นอันตกลงกันว่าวนเรือกลับ และภาระกิจสุดท้ายการหาเขาคลอรี่กลับเจอเรนนี่แทน...หรือว่าฟ้ากำหนดมาให้เธอไม่มีใจ...


ซ้ำเติมและชดเชย

          ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ชีวิตหลังความเสียใจก็คงเป็นเหมือนกัน ร้องไห้มากแค่ไหนเดี๋ยวเราก็ยิ้มได้เหนื่อยเท่าไหร่เดี๋ยวมันก็เบาบางลง ไม่มีความเศร้าไหนที่ไม่ผ่านไปอยู่ที่ว่าจะผ่านไปได้ตอนไหน ในวันที่ฝนตกแค่อดทนรอเดี๋ยวมันก็สดใสอีกครั้ง วันที่เรื่องแย่ๆเข้ามาก็เหมือนกันอดทนหน่อยนะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป (เสียงที่ไม่ได้ยิน, 2018)



มีคลิปบรรยากาศตามลิงค์ด้านล่าง


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สวัสดี
- เสือซ่อนยิ้ม-  

ปล. ขออนุญาตแก้ไข ที่นี่อยู่บริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ์ ไม่ใช่เขื่อศรีนครินทร์ (05/01/2567)
ชื่อสินค้า:   เที่ยวพระธาตุโบอ่อง เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่