เรื่องราวมีอยู่ว่า คุณเเม่วานให้เราช่วยทำงานศิลปะให้น้อง (เป็นงานของที่โรงเรียน) ซึ่งเราก็ทำให้ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ รวมถึงงานก็ไม่ได้ยากมากอะไรถ้าเทียบกับฝีมือเราที่ทำมาเยอะเเล้ว เเต่ทีเนี่ยเราไม่ได้ทำให้เเค่1-2งานค่ะ ถ้านับรวมกันมาจนถึงตอนนี้ก็เรียกว่าน่าจะเกิน10กว่างานได้เเล้ว เพราะทำให้ทั้งน้องคนกลาง เเละคนเล็ก มาตลอดปี2ปีค่ะ ทีเนี่ยปัญหาคือตอนงานหลังเราเริ่มรู้สึกเเล้วว่า เหมือนเราโดนเอาเปรียบ เพราะงานทั้งหมดก็ไม่ใช่งานเรา เครดิตเราได้มั้ยก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเป็นชื่อน้อง คะเเนนก็ต้องเป็นของน้อง ถามว่าเราได้เงินมั้ยก็ไม่ได้อีก มินำซ้ำ งานตัวเองเเท้ๆ อยากได้เเบบนั้นเเบบนี้ เเต่ยังไม่ใส่ใจ ไม่คิดจะเตรียมของเองอะไรเอง บางงานก็ไม่ใส่ใจถึงขั้นว่ามาทำเอาตอนวันสุดท้าย(ไม่เสร็จด้วย ฉันต้องเสียเวลาทำให้ เเล้วเเม่ถึงค่อยวิ่งเเจ้นไปส่งให้ที่โรงเรียน เเสร้งว่าลืมงานไปส่ง เเต่จริงๆคือพี่สาวช่วยทำให้อยู่) คือเรามองว่า เราควรอยู่ในฐานะคนช่วยอะ ไม่ใช่คนที่ต้องมาคิดเเทนให้ทุกอย่าง อีกเรื่องนึงที่เป็นปัญหาคือ เวลาเราไม่ช่วยอะไรพี่น้อง คุณเเม่ก็จะชอบว่าเราว่าเเบบเห็นเเก่ตัว งานพี่น้องกันเองไม่คิดจะช่วย(เหตุผลที่เราช่วยเพราะขกเถียงกะเเม่เรื่องนี้ด้วย ก็เลยทนทำให้) เเต่ตอนนี้เรามองว่ามันมากเกินไปค่ะที่เราจะต้องช่วยน้องอีก เรามองว่าถ้าอยากสอนให้น้องรู้จักรับผิดชอบ คือต้องสอนให้เค้ายอมรับความผิดพลาด เเละจัดการมันด้วยตัวเองก่อนอะ ไม่ใช่เเก้ปัญหาด้วยการให้คนอื่นทำให้ จริงๆ ไม่เรียกการเเก้ปัญหาด้วย นี่เรียกว่าการสปอยเต็มๆเลย เเต่เราก็เเอบรู้สึกผิดค่ะที่ไม่ช่วย เพราะความเป็นพี่ เราโดนสอนให้เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ จะบอกว่าเพราะว่าเคยชินก็ไม่เชิงค่ะ ทั้งหมดที่เล่ามาคือ เราอยากรู้ว่ามันผิดมั้ย ที่เราเลือกที่จะไม่ช่วยเเล้ว ถ้าเทียบน้ำหนักระหว่าง ความเป็นพี่น้อง กับ ความเท่าเทียมที่ควรจะได้รับ ทุกคนว่ามุมมองไหนที่ถูกต้องคะ?
ถ้าเราไม่ช่วยงานศิลปะน้องชาย คือเราผิดมั้ยคะ