fatreview ขออนุญาตส่งท้ายปีเก่า ด้วยบทวิจารณ์ Netflix Series 8 ตอนจบที่ข้าพเจ้าชอบมาก ❤️


📌 Analog Squad ว่าด้วยเรื่องราวของ ปอนด์ (นพชัย ชัยนาม) ที่ว่าจ้าง ลิลลี่ ( น้ำฝน กุลณัฐ) ให้หานักแสดงชาย และ หญิง ในวัย 23 และ 25 ปี อีกอย่างละคน เพื่อมารับบทเป็นเมีย และลูก เพื่อเดินทางไปเยี่ยม ปู่เขียว(สุรสีห์ อิทธิกุล) พ่อของปอนด์ ที่ไม่เคยเจอกันเลยเป็นระยะเวลากว่า 20 ในวาระสุดท้าย ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 

หนังพูดกับคนดูง่ายๆ ว่า คนเราทุกคนล้วนมีปัญหา เคยมีปัญหา หรือ กำลังจะมีปัญหา - ที่บางทีเจ้าตัวก็แก้ไขได้บ้าง ไม่ได้บ้าง - ที่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และ move on เพราะไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน

📌 ชอบการออกแบบ plot ที่บอกเล่าเรื่องราวความไม่แน่นอนในชีวิต การตัดสินใจผิดพลาด ความขมขื่น อดทน การปรับตัว / ปล่อยเลยตามเลย จนท้ายที่สุด ปัญหาเดิมก็วนกลับมาให้แก้ไข และทำความเข้าใจ 

ไม่มีชีวิตของใครสมบูรณ์แบบ และบทภาพยนตร์ก็ได้วางความขาดตกบกพร่องเป็นปมต่างๆในชีวิต ให้กับตัวละครทุกตัวอย่างถ้วนหน้า  

📌 หลังจากได้ดูตอนแรกจบลง - สิ่งที่ชอบ คือ การเปิดพล็อต ที่ทำได้ดี ตัวละครมีแคแรคเตอร์ชัด ดูเป็นผู้เป็นคน มีตัวตนจริงๆ

มุมกล้อง ฉาก โลเคชั่น และ prop ต่างๆ ผ่านการออกแบบและคิดมาอย่างดี  มี gimmick แพรวพราว
โดยเฉพาะการเล่าเรื่องราวในห้วงเวลาของปี คศ. 1999 ก่อนการมาถึงของยุค Millennium และเลือกใช้ pager มาเป็นอุปกรณ์หลักในการเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นไอเดียที่ฉลาด สนุก และทำได้ดี

เพิ่มความน่าติดตาม ด้วยการวางเส้นเรื่องให้มี flash back ในจังหวะที่จำเป็น / มีความเป็น road movie เล็กๆ ใช้จังหวัดพังงาเป็น location หลัก ที่มีให้เลือกทั้งภูเขาหินปูน วิวพระอาทิตย์ตกริมทะเล หาดทรายแสนสะอาด  แม่น้ำ ลำคลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ่าวพังงา และ เกาะแก่งต่างๆ ที่สวยงาม

การเป็น series ความยาว 8 ตอน คือข้อได้เปรียบ ที่สามารถบรรจุรายละเอียดต่างๆ ให้สามารถทำงานกับความรู้สึกของคนดูได้อย่างสมบูรณ์แบบ  

📌 บทภาพยนตร์เล่าเรื่องราวการโกหกในชีวิตคนเราได้ทุกระดับ ทั้งเรื่องเล็กน้อย ไม่สลักสำคัญ ไปจนกระทั่งเรื่องใหญ่โต คอขาดบาดตาย  

ขณะเดียวกัน ก็ค่อยๆปลดปล่อยความรู้สึกต่างๆของตัวละครออกมาทีละน้อย - ว่าท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ทำให้เราสามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ คือ การพูดความจริง ยอมรับความผิดพลาด ปล่อยวาง และ ให้อภัย

ชอบความพอดีๆ ไม่ฟูมฟาย แทบไม่มีฉากไหนที่ตั้งใจขยี้เลย นอกจากบทไอ้เกมบอย หัวหน้าคนงาน ที่ขยี้จนคนดูนึกอยากเห็นมันโดนตื๊บ ตอน end credit 😄

ชอบคำพูดของปู่เขียว ว่า การโกหกมันมีน้ำหนัก ยิ่งถ้าไปแบก มันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ 
และ - ถ้าเปรียบเทียบกับความตาย ความโกรธ เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ❤️

+ + + + + + + + +

📌 มากกว่าบทภาพยนตร์ที่ดีงาม (ที่พบไม่ได้บ่อยๆในหนังไทย ) คือ casting และ ฝีไม้ลายมือของนักแสดงหลักทั้ง 6 ที่เล่นหนังได้เข้าขากันอย่างดีมาก ๆ 

ที่ต้องชมกันอย่างออกนอกหน้าเลย คือ น้ำฝน กุลณัฐ / พี่ตุ๊ก วิยะดา โกมารกุล ฯ และที่ surprise ที่สุด คือ พี่อ้อง สุรสีห์ อิทธิกุล ที่แทบไม่เคยเห็นในบทบาทนักแสดงมาก่อน แต่แกเล่นหนังเก่งจริงๆ 

ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม ในบทปอนด์ ที่แทบจะไม่มีรอยยัมเลยตั้งแต่ต้นจนจบ / เจเจ กฤษณภูมิ ในบท เก๊ก และ ปริมมี่ วิภาวีร์ ในบท บุ้ง - ลูกชายลูกสาวปลอมๆทั้งสองคน ก็เล่นหนังกันได้ดีทีเดียว ลงตัว  พอดีๆ มีชีวิตชีวาจริงๆ 

ที่ surprise อีกอย่าง คือ การกลับมารับงานแสดงของ โยโกะ ทาคาโนะ และ กษาปณ์ จำปาดิบ ที่ก็มี aura ไม่ได้น้อยไปกว่าพี่ตุ๊ก+พี่อ้อง
สองท่านนี้รับเป็นตัวละครใน plot รอง ทำให้เรื่องราวมีเหลี่ยมมุมให้ได้คิดเพิ่มขึ้น
แม้จะเป็นแค่ประเด็นที่ดูเหมือนจะตั้งใจให้คนดูคาดเดาได้ และเข้ามาตอนท้ายๆเรื่อง เพื่อให้คนดูมีโอกาสตั้งคำถามยากๆ กับตัวเอง 

แต่ไม่ว่าคำตอบของใครจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าเห็นด้วย กับคำตอบของเก๊ก 

+ + + + + + + + + 

สำหรับการดูหนังมาแล้วนับร้อยนับพันเรื่องในชีวิต มันจะมีแค่บางเรื่องเท่านั้น ที่พอดูจบแล้ว บอกตัวเองได้เลยว่า มันคงอยู่กับเราไปอีกนาน 
และ Analog Squad ก็เป็นหนึ่งในนั้น 
+ + + + + + + + + 

📌 ในวันสิ้นปี ถ้ายังไม่โปรแกรมอะไร แนะนำให้ดู Analog Squad กันครับ

#AnalogSquad #ทีมรักนักหลอก