สวัสดีค่ะ กระทู้นี้อยากได้ความคิดเห็น จากพี่ๆค่ะ จะมองว่าเป็นน้องสาวคนนึงก็ได้นะคะ
เมื่อเดือน พย.66 เราได้สมัครงานไปงานนึง แล้วพอดีว่าเขาโทรมานัดไปสัมภาษณ์ พอถึงวันก็ไปสัมภาษณ์ค่ะ
เข้าไปแล้วก็ รอ แต่ปรากฏ ว่า นัดสัมภาษณ์บ่ายโมงตรง เขามาเกือบบ่ายสาม เราก็มีคิดว่า ทำไมเสียมารยาทจัง (เขาพึ่งกลับมาจากข้างนอก)
ตอนสัมภาษณ์ เขาถามแค่ว่า สามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วทำไมถึงออกจากงานเก่า (เราก็บอกไปว่าอยากเปลี่ยนสายงาน) คือเราพึ่งเรียนจบปริญญาเมื่อกลางปีนะคะ
การสัมภาษณ์ผ่านไปโดย เขาไม่แจ้งไม่บอกกฏ การทำงานอะไรเลย พอจะถามคือ ไม่เว้นช่องให้ถามสักนิด เหมือนเขารีบไปธุระมั้งไม่แน่ใจ
ผ่านไปสองเขาโทรมานัดวันทำงาน โดยไม่แจ้งกฏหรือข้อปฏิบัติอะไรอีกพูดๆ แล้วรีบวางไป เราก็คิดว่าเดี๋ยวคงได้รู้ตอนไปเซ็นสัญญามั้ง (ไม่ลองงานนะคะ รับเลยที่เขาบอก)
*แล้วก็มีคำนึงที่เขาถามว่า ได้รับข่าวการสมัครงานจากไหน เราก็ตอบไปว่า จากเพจบริษัท....ทางเฟสบุ้คค่ะ (เขาถามย้ำอยู่สองรอบแต่ไม่ได้พูดอะไรแทรก เขายิ้มแล้วก็พยักหน้า)
.........>>> เริ่มงานวันแรก
ตอนเช้ามาเราก็มาพร้อมน้องอีกคนนึง เริ่มวันแรกเหมือนกัน เราก็เห็นพี่ๆเขาทำความสะอาด คือคนในออฟฟิต กวาดถูออฟฟิตเองหมด ล้างห้องน้ำชายหญิงด้วย ตอนแรกเรานึกว่าพี่เขาเป็นแม่บ้านซะอีก ก็พอแปดโมงตรงก็รอคนที่สัมภาษณ์เรามา (มาทราบตอนหลังว่าเป็นเจ้าของบริษัท)
พอเขามาปุ้บ เขาเรียกไปนั่งหน้าโต๊ะเขา (เขานั่งรวมกับพนักงานออฟฟิต แต่แยกโต๊ะเดียว ไม่มีห้องส่วนตัว)
มาถึงเขาก็แจกสมุดให้ 1 เล่ม เราเข้าใจไปว่าคงให้ทดจำ เป็นแบบ พนักงานใหม่ จดบันทึกความรู้ใหม่
เขาบอกว่าให้เขียนทุกวัน แล้วต้องเอามาส่งทุกเย็น (เราก็แบบ ส่งทุกวันเลยเหรอ คงแรกๆมั้ง ก็ไม่อะไร พยักหน้ายิ้มๆ)
พอผ่านไปสักแปป เราเห็น พี่พนักงานคนนึงอุ้มกล่องใสมา แล้วทุกคนในออฟฟิตก็เดินเอาโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ เพื่อให้พี่คนนั้นจัดเก็บใส่กล่องที่ถือมา
เรากับน้องอีกคน ก็หันมามองหน้ากันแบบ เก็บด้วยหรอจริงหรอ เราก็ถามน้องเขาว่า แกบอกอะไรไหม เรื่องเก็บมือถือ เรื่องอื่นๆ น้องเขาก็บอกว่า ไม่ได้บอกอะไร นัดมาทำงานเลยเหมือนกัน
..........>>>>>วันที่สองของการทำงาน
เราก็มาปกติแบบไม่ได้กะเวลาอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้มีการกฏข้อบังคับหรืออะไรเลย พี่ๆออฟฟิต ก็ทำความสะอาดกันแบบปกติ เราก็มีความเข้าใจว่า เขาคงช่วยกันทำ เราก็เลยไปช่วยกวาดพื้นออฟฟิต
พอถึงเวลา วันนี้เปลี่ยนคนหยิบกล่องเก็บโทรศัพท์มือถือ ทุกคนก็แบบเดิม เอาโทรศัพท์มือถือมาวางบนโต๊ะ ให้คนถือกล่องเก็บมือถือ แล้วเช็คชื่อในใบเก็บมือถือ เราก็แบบ เออ ยังไงก็มีแอปเปิ้ลวอช ช่างเถอะ ให้เขาเก็บไป
เราก็ทำงานไป จำพวก ออกใบเสนอราคา ทำลูกหนี้ ตั้งเบิก อะไรพวกนี้ ก็มีพี่คนนึงช่วยสอนแต่ปกติพี่คนนี้ไม่ได้ทำตำแหน่งนี้ พี่คนที่นั่งตำแหน่งนี้ก่อนเรา เขาไปแบบไม่บอก แบบอยู่ดีๆก็หายไป (เขาทำมา10ปี) ก็จบไป หนึ่งวัน
..........>>>>> วันที่สาม
เช้านี้ มีพี่เสมียนที่เขาทำห้องน้ำ ตั้งแต่วันที่เรามาวันแรก แกเดินมาหา แล้วก็บอกเราว่า ทุกคนมีจุดทำความสะอาดเฉพาะตำแหน่งนะ
วิแรกเรายัง งง อยู่ พี่ก็เลยบอกว่า จริงๆที่พี่เขาทำห้องน้ำเนี้ย จริงๆมันเป็นงานของเรานะ เพราะคนที่ออกไปอะ เขาทำห้องน้ำ เรานั่งตำแหน่งนี้ คือเราก็ต้องทำห้องน้ำ ละเราเลยถามว่า ทุกวันเลยหรอคะพี่ คำตอบคือ ทุกวัน. ทำความสะอาด เติมเจลหอม เติมทิชชู่ม้วน ทิชชู่เช็ดมือ ทำความสะอาดเคาท์เตอร์ห้องน้ำ อ่าง ส้วม พื้นห้องน้ำ ต้องทำหมด เป็นหน้าที่เรา และบริเวณ หน้าห้องน้ำด้วย เราก็เอ๋อไปเกือบนาที สุดท้ายก็ พยักหน้า (เราไม่ได้รังเกียจงานนะคะ แต่เราเลือกงานออฟฟิตแล้ว งานสบาย ไม่คิดว่าจะมาเจอแบบนี้ คือแค่ทำห้องน้ำตอนเช้า ก็รักแร้เปียกแล้วอะค่ะ)
เสร็จปุ๊บ ก็ฝากโทรศัพท์มือถืออีก (ตอนหลังได้ทราบว่าเวรคนเก็บโทรศัพท์เปลี้ยนคนทุกวัน และกล่องที่เก็บเป็นแค่กล่องร้าน20อ่ะค่ะ กล่องใหญ่ ความผลอดภัยไม่มีเลย ละโทรศัพท์เราก็ค่อนข้างมีราคา การเก็บก็เก็บโดยการใส่ซองใสเหมือนซองยาแล้ววางซ้อนๆทับๆกัน)
พอเราเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก็พบกับ สมุดที่เขาแจกให้เขียน ละมีโพสอิทจาก นายจ้างแปะไว้ว่า เมื่อวานไม่ได้ส่ง ให้ส่งทุกวัน ก่อนกลับบ้าน ให้เขียนว่าทำฃานอะไรบ้างในแต่ละวัน เราก็ไปถามพี่คนอื่น ว่า ต้องส่งทุกวันเลยหรอคะ เขาก็บอกว่าใช่ ไม่ส่ง หักวันละ 50 บาท แล้วก็ ถ้าไม่ฝากโทรศัพท์ ตรวจพบ หักครั้งละ 500 บาท และ หากมาสแกนนิ้วสาย หักครั้งละ 50 บาท เราก็ได้ถามเขาไป สายคือ สายกี่นาที ที่หักเงิน 50 บาท
พี่เขาบอกว่า ออฟฟิต ต้องมาตั้งแต่ก่อน 7:45 หลังจากนี้เท่ากับสาย (พี่เขาพาไปดูป้ายที่เขียนไว้) และตอนพักเที่ยง หากลืมสแกนนิ้วออก ไม่ว่าจะออกไปข้างนอก หรือไม่ออก ก็ต้องสแกน หากลืม ก็หัก ครั้งละ 50฿ และ ไม่ว่าจะออก หรือไม่ออกไปทานข้างนอก ก็ต้องสแกนนิ้ว ก่อน 12:50 ไม่เช่นนั้นก็โดนหักอีก 50฿ ไม่มีกรณี ไปขอ ไปบอกว่าลืม ห้ามลืมเด็ดขาด ลืมก็คือหัก แย้งอะไรไม่ได้
<น้องอีกคนที่มาทำงานพร้อมกันก็มีหน้าที่ประจำตำแหน่งเขา คือซักผ้าขี้ริ้ว คือผ้าที่พี่ๆใช้เช็ดกระจกเช็ดโต๊ะตอนเช้า ต้องซักตากทุกวัน และน้องก็ต้องเช็ดกระจกด้วย ประตูด้วย รวมทั้งคอยเก็บแก้วที่ลูกค้าและนายจ้างดื่มกาแฟหรือชาใดๆ นำไปล้างเก็บด้วย)
.......>>>>> รวมๆหลายวันหลังจากนั้น
มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เช่น ให้เคลียร์งานของคนเก่า (งานบัญชีทวงนี้ คือคนเก่าเขาทำหลายอย่างมากใน1 ตำแหน่ง) แล้วบางครั้ง นายจ้างไม่ได้ดูวันที่ ว่าใครทำผิดพลาดไว้ แล้วมาว่าเรา เราก็ งง มาว่าเราทำไม 25/10 เรายังไม่เจอกันเลยนะนายจ้าง🥹🥹 โดนว่าต่อหน้าทั้งพนักงานและลูกค้า (เขานั่งรวมกันกับพนักงาน ไม่มีห้องแยก ) ละว่าเสียงดังด้วยนะ 🥹
มีทั้งอยู่ๆวันหนึ่ง สามีนายจ้าง ถามว่าใครเป็นคนทำความสะอาดห้องน้ำ พี่อีกคนก็บอกว่า น้อง... คือเรา ละเขาก็มาถามว่าทำความสะอาดไปกี่โมง เราได้ทำรึเปล่าความสะอาดอะ เพราะห้องน้ำชายมันสกปรก เราก็บอกไปว่า ทำค่ะ ทำทุกวัน ทุกเช้า เขาถามว่า ทำตอนเช้าคือทำกี่โมง เราก็บอกว่า ก็ก่อนแปดโมงค่ะ เพราะแปดโมงต้องมานั่งทำงานในออฟฟิต เขาก็ถามอีก แล้วแปดโมง มันแปดโมงเท่าไหร่ เราก็บอกว่าไม่รู้ค่ะ (จะไปรู้ยังไงอะแค่ต้องรีบๆ ตอนเช้าๆทุกวันก็ไม่ทันทำอะไรแล้วนะ ) พูดไปพูดมาคือ มีคนอึ แล้วไม่กด เขาก็บอกให้เราไปดู (ไปดูอึ คือในใจ งง มาก เจอก็กดสิ เป็นอะไร ยากหรอ ที่คอนโดฉัน ฉันจ้างแม่บ้านทำให้นะยะ 🥹) ละพูดไปพูดมา เราเริ่มโมโหแล้ว เพราะมันไม่ควรเลยที่ต้องมาทำ กฏอะไรไม่แจ้งก่ินเลยสักอย่างให้มารู้เอาเองทั้งนั้น เรื่องหักเงินอะไรอีก ถ้าไม่ถามใคร โดนหักเท่าไหร่แล้วป่านนี้ สัญญาก็ไม่มีให้เห็น ไม่มีอะไรเลย ละก็มีคนมาบอกให้เขาไปดูกล้อง ว่าใครไม่กดอึ เราก็ไม่สนใจแล้วไปทำงานเราต่อ เขาก็ยังมาพูดอีก เรื่องห้องน้ำ (คือแบบ เห้อ มาก คือพยายามอดทน มาก กลัวถ้าออก จะโดนคนรอบตัวว่าอีกว่าคุณหนูไปมั้ย ไม่มีความอดทนเลย ก็กัดฟันมากแล้วนะ)
แล้วก็ให้ใส่คาดผมเขากวาง ทั้งอาทิตย์ เฮ ทั้งอาทิตย์ เทศกาลวันเดียวนะ ฮืออออออออออ พอไม่ใส่ เจ้านายชาย โกรธ ไม่พอใจ
ก็ใส่
ไปทั้งอาทิตย์ ลูกค้าแต่ละคน คืองง อยากบอกว่าหนูก็ งง ค่ะคุณพี่ 🤣
แล้วก็เราได้ทำงานหลากหลายมาก งานคนอื่นก็ต้องทำแทน
(ภายหลังมาได้ทราบว่า ตำแหน่งที่เรามาทำ มีคนมาสมัครทำก่อนแล้ว 3-5 คน คนละสองสามวันแล้วก็ลาออกกันไป มีเรานี่แหละ ที่ทนครบเดือน)
ละเหตุที่ทำให้ตัดสินใจว่าออกแน่ คือ นายจ้างถามว่า เราจะเข้าประกันสังคมเลยมั้ย ถ้าเข้าเลยก็หัก 750฿ ความที่เราสองจิตสองใจอยู่ว่าจะลาออกดีมั้ย
ก็เลยว่าแกว่า ค่อยเข้าเดือนหน้านะคะ แกก็โอเคนะ ไม่ได้แจ้งอะไรต่อ เราก็เข้าใจว่าข้อตกลงเหมือนเดิม คือ ได้เงินเดือนเต็มเดือน
สักพัก พี่ เฮชอา มาถามว่า ทำไมไม่เข้าประกันสังคม รู้มั้ยว่า ถ้าไม่เข้าประกันสังคม นายจ้างจะหักเราเป็นรายวันนะ คือโดนหัก วันหยุด แล้วก็วันพ่อที่เราได้หยุดไป รวม 2,500฿ เราก็เฮ้ย ไม่เห็นบอกเราก่อนเลย ละที่คุยกันไว้ไม่ใ่ชแบบนี้นะ
เราก็ไปบอกแก (ด้วยความที่แกไม่ได้นั่งแยกส่วนตัวนะ นายจ้าง ก็จะเป็นการพูดที่คนทั้งออฟฟิต ได้ยิน)
เราก็บอกไปว่า ที่บอกกันไม่ใช่แบบนี้นะ สายตาแกก็ไม่พอใจแล้วแหละ (เรื่องอะไร เราจะโดนหักได้ไง ก็ก่อนทำงานแกพูดเองเลย ว่าให้เต็มเดือน)
เราก็เลยคิดแล้วว่า เราออก มันไม่แน่ไม่นอนอะไรเลย แถมสัญญาก็ไม่มี จะโดนไล่วันไหน ไม่รู้เลย เลื่อนลอยมาก ไม่มีหลักฐานเลยว่าเรามาทำงานจริง ตรงที่สแกนนิ้วก็ไม่มีชื่อ มีแค่ตัวเลข ของเรา
โดยเราได้ทราบทีหลังว่า เรามาสัมภาษณ์ผิดที่ค่ะ คือทราบตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ทำงาน คือบริษัท มันอยู่ติดกันเลย ละเหมือนกันเลย แต่เราเข้าผิด เราผิดเอง
แต่ตอนสัมภาษณ์ ที่นายจ้างถามว่า เราได้ข่าวการสมัครงานจากไหน เราก็ได้แจ้งไปแล้ว ว่าเราได้มาจากไหน ชื่อบริษัทอะไร แต่นายจ้างไม่ท้วงอะไรเลย พูดตั้งสองรอบแล้วด้วย
<คืออาจจะเล่า งง ๆ บ้าง ขออภัยนะคะ)
พี่ๆมีความคิดเห็นยังไงคะ คือเราคิดว่าจะลาออก ที่บ้านก็อนุญาตค่ะ (เรายังมีเงินสำรองใช้อยู่นะคะ)
รบกวนพี่ๆลงความเห็นหน่อยค่ะ ว่าที่เราเจอนี่ มันปกติไหม
คือตอนนี้ ทนมาครบเดือน จนเหมือนชินชา 😂
ขอบคุณความเห็นต่างๆล่วงหน้านะคะ
ลาออกเลยดีไหมคะ ที่บ้านบอกว่า ปีหน้าจะได้พบเจอสิ่งดีๆ
เมื่อเดือน พย.66 เราได้สมัครงานไปงานนึง แล้วพอดีว่าเขาโทรมานัดไปสัมภาษณ์ พอถึงวันก็ไปสัมภาษณ์ค่ะ
เข้าไปแล้วก็ รอ แต่ปรากฏ ว่า นัดสัมภาษณ์บ่ายโมงตรง เขามาเกือบบ่ายสาม เราก็มีคิดว่า ทำไมเสียมารยาทจัง (เขาพึ่งกลับมาจากข้างนอก)
ตอนสัมภาษณ์ เขาถามแค่ว่า สามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วทำไมถึงออกจากงานเก่า (เราก็บอกไปว่าอยากเปลี่ยนสายงาน) คือเราพึ่งเรียนจบปริญญาเมื่อกลางปีนะคะ
การสัมภาษณ์ผ่านไปโดย เขาไม่แจ้งไม่บอกกฏ การทำงานอะไรเลย พอจะถามคือ ไม่เว้นช่องให้ถามสักนิด เหมือนเขารีบไปธุระมั้งไม่แน่ใจ
ผ่านไปสองเขาโทรมานัดวันทำงาน โดยไม่แจ้งกฏหรือข้อปฏิบัติอะไรอีกพูดๆ แล้วรีบวางไป เราก็คิดว่าเดี๋ยวคงได้รู้ตอนไปเซ็นสัญญามั้ง (ไม่ลองงานนะคะ รับเลยที่เขาบอก)
*แล้วก็มีคำนึงที่เขาถามว่า ได้รับข่าวการสมัครงานจากไหน เราก็ตอบไปว่า จากเพจบริษัท....ทางเฟสบุ้คค่ะ (เขาถามย้ำอยู่สองรอบแต่ไม่ได้พูดอะไรแทรก เขายิ้มแล้วก็พยักหน้า)
.........>>> เริ่มงานวันแรก
ตอนเช้ามาเราก็มาพร้อมน้องอีกคนนึง เริ่มวันแรกเหมือนกัน เราก็เห็นพี่ๆเขาทำความสะอาด คือคนในออฟฟิต กวาดถูออฟฟิตเองหมด ล้างห้องน้ำชายหญิงด้วย ตอนแรกเรานึกว่าพี่เขาเป็นแม่บ้านซะอีก ก็พอแปดโมงตรงก็รอคนที่สัมภาษณ์เรามา (มาทราบตอนหลังว่าเป็นเจ้าของบริษัท)
พอเขามาปุ้บ เขาเรียกไปนั่งหน้าโต๊ะเขา (เขานั่งรวมกับพนักงานออฟฟิต แต่แยกโต๊ะเดียว ไม่มีห้องส่วนตัว)
มาถึงเขาก็แจกสมุดให้ 1 เล่ม เราเข้าใจไปว่าคงให้ทดจำ เป็นแบบ พนักงานใหม่ จดบันทึกความรู้ใหม่
เขาบอกว่าให้เขียนทุกวัน แล้วต้องเอามาส่งทุกเย็น (เราก็แบบ ส่งทุกวันเลยเหรอ คงแรกๆมั้ง ก็ไม่อะไร พยักหน้ายิ้มๆ)
พอผ่านไปสักแปป เราเห็น พี่พนักงานคนนึงอุ้มกล่องใสมา แล้วทุกคนในออฟฟิตก็เดินเอาโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ เพื่อให้พี่คนนั้นจัดเก็บใส่กล่องที่ถือมา
เรากับน้องอีกคน ก็หันมามองหน้ากันแบบ เก็บด้วยหรอจริงหรอ เราก็ถามน้องเขาว่า แกบอกอะไรไหม เรื่องเก็บมือถือ เรื่องอื่นๆ น้องเขาก็บอกว่า ไม่ได้บอกอะไร นัดมาทำงานเลยเหมือนกัน
..........>>>>>วันที่สองของการทำงาน
เราก็มาปกติแบบไม่ได้กะเวลาอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้มีการกฏข้อบังคับหรืออะไรเลย พี่ๆออฟฟิต ก็ทำความสะอาดกันแบบปกติ เราก็มีความเข้าใจว่า เขาคงช่วยกันทำ เราก็เลยไปช่วยกวาดพื้นออฟฟิต
พอถึงเวลา วันนี้เปลี่ยนคนหยิบกล่องเก็บโทรศัพท์มือถือ ทุกคนก็แบบเดิม เอาโทรศัพท์มือถือมาวางบนโต๊ะ ให้คนถือกล่องเก็บมือถือ แล้วเช็คชื่อในใบเก็บมือถือ เราก็แบบ เออ ยังไงก็มีแอปเปิ้ลวอช ช่างเถอะ ให้เขาเก็บไป
เราก็ทำงานไป จำพวก ออกใบเสนอราคา ทำลูกหนี้ ตั้งเบิก อะไรพวกนี้ ก็มีพี่คนนึงช่วยสอนแต่ปกติพี่คนนี้ไม่ได้ทำตำแหน่งนี้ พี่คนที่นั่งตำแหน่งนี้ก่อนเรา เขาไปแบบไม่บอก แบบอยู่ดีๆก็หายไป (เขาทำมา10ปี) ก็จบไป หนึ่งวัน
..........>>>>> วันที่สาม
เช้านี้ มีพี่เสมียนที่เขาทำห้องน้ำ ตั้งแต่วันที่เรามาวันแรก แกเดินมาหา แล้วก็บอกเราว่า ทุกคนมีจุดทำความสะอาดเฉพาะตำแหน่งนะ
วิแรกเรายัง งง อยู่ พี่ก็เลยบอกว่า จริงๆที่พี่เขาทำห้องน้ำเนี้ย จริงๆมันเป็นงานของเรานะ เพราะคนที่ออกไปอะ เขาทำห้องน้ำ เรานั่งตำแหน่งนี้ คือเราก็ต้องทำห้องน้ำ ละเราเลยถามว่า ทุกวันเลยหรอคะพี่ คำตอบคือ ทุกวัน. ทำความสะอาด เติมเจลหอม เติมทิชชู่ม้วน ทิชชู่เช็ดมือ ทำความสะอาดเคาท์เตอร์ห้องน้ำ อ่าง ส้วม พื้นห้องน้ำ ต้องทำหมด เป็นหน้าที่เรา และบริเวณ หน้าห้องน้ำด้วย เราก็เอ๋อไปเกือบนาที สุดท้ายก็ พยักหน้า (เราไม่ได้รังเกียจงานนะคะ แต่เราเลือกงานออฟฟิตแล้ว งานสบาย ไม่คิดว่าจะมาเจอแบบนี้ คือแค่ทำห้องน้ำตอนเช้า ก็รักแร้เปียกแล้วอะค่ะ)
เสร็จปุ๊บ ก็ฝากโทรศัพท์มือถืออีก (ตอนหลังได้ทราบว่าเวรคนเก็บโทรศัพท์เปลี้ยนคนทุกวัน และกล่องที่เก็บเป็นแค่กล่องร้าน20อ่ะค่ะ กล่องใหญ่ ความผลอดภัยไม่มีเลย ละโทรศัพท์เราก็ค่อนข้างมีราคา การเก็บก็เก็บโดยการใส่ซองใสเหมือนซองยาแล้ววางซ้อนๆทับๆกัน)
พอเราเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก็พบกับ สมุดที่เขาแจกให้เขียน ละมีโพสอิทจาก นายจ้างแปะไว้ว่า เมื่อวานไม่ได้ส่ง ให้ส่งทุกวัน ก่อนกลับบ้าน ให้เขียนว่าทำฃานอะไรบ้างในแต่ละวัน เราก็ไปถามพี่คนอื่น ว่า ต้องส่งทุกวันเลยหรอคะ เขาก็บอกว่าใช่ ไม่ส่ง หักวันละ 50 บาท แล้วก็ ถ้าไม่ฝากโทรศัพท์ ตรวจพบ หักครั้งละ 500 บาท และ หากมาสแกนนิ้วสาย หักครั้งละ 50 บาท เราก็ได้ถามเขาไป สายคือ สายกี่นาที ที่หักเงิน 50 บาท
พี่เขาบอกว่า ออฟฟิต ต้องมาตั้งแต่ก่อน 7:45 หลังจากนี้เท่ากับสาย (พี่เขาพาไปดูป้ายที่เขียนไว้) และตอนพักเที่ยง หากลืมสแกนนิ้วออก ไม่ว่าจะออกไปข้างนอก หรือไม่ออก ก็ต้องสแกน หากลืม ก็หัก ครั้งละ 50฿ และ ไม่ว่าจะออก หรือไม่ออกไปทานข้างนอก ก็ต้องสแกนนิ้ว ก่อน 12:50 ไม่เช่นนั้นก็โดนหักอีก 50฿ ไม่มีกรณี ไปขอ ไปบอกว่าลืม ห้ามลืมเด็ดขาด ลืมก็คือหัก แย้งอะไรไม่ได้
<น้องอีกคนที่มาทำงานพร้อมกันก็มีหน้าที่ประจำตำแหน่งเขา คือซักผ้าขี้ริ้ว คือผ้าที่พี่ๆใช้เช็ดกระจกเช็ดโต๊ะตอนเช้า ต้องซักตากทุกวัน และน้องก็ต้องเช็ดกระจกด้วย ประตูด้วย รวมทั้งคอยเก็บแก้วที่ลูกค้าและนายจ้างดื่มกาแฟหรือชาใดๆ นำไปล้างเก็บด้วย)
.......>>>>> รวมๆหลายวันหลังจากนั้น
มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เช่น ให้เคลียร์งานของคนเก่า (งานบัญชีทวงนี้ คือคนเก่าเขาทำหลายอย่างมากใน1 ตำแหน่ง) แล้วบางครั้ง นายจ้างไม่ได้ดูวันที่ ว่าใครทำผิดพลาดไว้ แล้วมาว่าเรา เราก็ งง มาว่าเราทำไม 25/10 เรายังไม่เจอกันเลยนะนายจ้าง🥹🥹 โดนว่าต่อหน้าทั้งพนักงานและลูกค้า (เขานั่งรวมกันกับพนักงาน ไม่มีห้องแยก ) ละว่าเสียงดังด้วยนะ 🥹
มีทั้งอยู่ๆวันหนึ่ง สามีนายจ้าง ถามว่าใครเป็นคนทำความสะอาดห้องน้ำ พี่อีกคนก็บอกว่า น้อง... คือเรา ละเขาก็มาถามว่าทำความสะอาดไปกี่โมง เราได้ทำรึเปล่าความสะอาดอะ เพราะห้องน้ำชายมันสกปรก เราก็บอกไปว่า ทำค่ะ ทำทุกวัน ทุกเช้า เขาถามว่า ทำตอนเช้าคือทำกี่โมง เราก็บอกว่า ก็ก่อนแปดโมงค่ะ เพราะแปดโมงต้องมานั่งทำงานในออฟฟิต เขาก็ถามอีก แล้วแปดโมง มันแปดโมงเท่าไหร่ เราก็บอกว่าไม่รู้ค่ะ (จะไปรู้ยังไงอะแค่ต้องรีบๆ ตอนเช้าๆทุกวันก็ไม่ทันทำอะไรแล้วนะ ) พูดไปพูดมาคือ มีคนอึ แล้วไม่กด เขาก็บอกให้เราไปดู (ไปดูอึ คือในใจ งง มาก เจอก็กดสิ เป็นอะไร ยากหรอ ที่คอนโดฉัน ฉันจ้างแม่บ้านทำให้นะยะ 🥹) ละพูดไปพูดมา เราเริ่มโมโหแล้ว เพราะมันไม่ควรเลยที่ต้องมาทำ กฏอะไรไม่แจ้งก่ินเลยสักอย่างให้มารู้เอาเองทั้งนั้น เรื่องหักเงินอะไรอีก ถ้าไม่ถามใคร โดนหักเท่าไหร่แล้วป่านนี้ สัญญาก็ไม่มีให้เห็น ไม่มีอะไรเลย ละก็มีคนมาบอกให้เขาไปดูกล้อง ว่าใครไม่กดอึ เราก็ไม่สนใจแล้วไปทำงานเราต่อ เขาก็ยังมาพูดอีก เรื่องห้องน้ำ (คือแบบ เห้อ มาก คือพยายามอดทน มาก กลัวถ้าออก จะโดนคนรอบตัวว่าอีกว่าคุณหนูไปมั้ย ไม่มีความอดทนเลย ก็กัดฟันมากแล้วนะ)
แล้วก็ให้ใส่คาดผมเขากวาง ทั้งอาทิตย์ เฮ ทั้งอาทิตย์ เทศกาลวันเดียวนะ ฮืออออออออออ พอไม่ใส่ เจ้านายชาย โกรธ ไม่พอใจ
ก็ใส่ไปทั้งอาทิตย์ ลูกค้าแต่ละคน คืองง อยากบอกว่าหนูก็ งง ค่ะคุณพี่ 🤣
แล้วก็เราได้ทำงานหลากหลายมาก งานคนอื่นก็ต้องทำแทน
(ภายหลังมาได้ทราบว่า ตำแหน่งที่เรามาทำ มีคนมาสมัครทำก่อนแล้ว 3-5 คน คนละสองสามวันแล้วก็ลาออกกันไป มีเรานี่แหละ ที่ทนครบเดือน)
ละเหตุที่ทำให้ตัดสินใจว่าออกแน่ คือ นายจ้างถามว่า เราจะเข้าประกันสังคมเลยมั้ย ถ้าเข้าเลยก็หัก 750฿ ความที่เราสองจิตสองใจอยู่ว่าจะลาออกดีมั้ย
ก็เลยว่าแกว่า ค่อยเข้าเดือนหน้านะคะ แกก็โอเคนะ ไม่ได้แจ้งอะไรต่อ เราก็เข้าใจว่าข้อตกลงเหมือนเดิม คือ ได้เงินเดือนเต็มเดือน
สักพัก พี่ เฮชอา มาถามว่า ทำไมไม่เข้าประกันสังคม รู้มั้ยว่า ถ้าไม่เข้าประกันสังคม นายจ้างจะหักเราเป็นรายวันนะ คือโดนหัก วันหยุด แล้วก็วันพ่อที่เราได้หยุดไป รวม 2,500฿ เราก็เฮ้ย ไม่เห็นบอกเราก่อนเลย ละที่คุยกันไว้ไม่ใ่ชแบบนี้นะ
เราก็ไปบอกแก (ด้วยความที่แกไม่ได้นั่งแยกส่วนตัวนะ นายจ้าง ก็จะเป็นการพูดที่คนทั้งออฟฟิต ได้ยิน)
เราก็บอกไปว่า ที่บอกกันไม่ใช่แบบนี้นะ สายตาแกก็ไม่พอใจแล้วแหละ (เรื่องอะไร เราจะโดนหักได้ไง ก็ก่อนทำงานแกพูดเองเลย ว่าให้เต็มเดือน)
เราก็เลยคิดแล้วว่า เราออก มันไม่แน่ไม่นอนอะไรเลย แถมสัญญาก็ไม่มี จะโดนไล่วันไหน ไม่รู้เลย เลื่อนลอยมาก ไม่มีหลักฐานเลยว่าเรามาทำงานจริง ตรงที่สแกนนิ้วก็ไม่มีชื่อ มีแค่ตัวเลข ของเรา
โดยเราได้ทราบทีหลังว่า เรามาสัมภาษณ์ผิดที่ค่ะ คือทราบตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ทำงาน คือบริษัท มันอยู่ติดกันเลย ละเหมือนกันเลย แต่เราเข้าผิด เราผิดเอง
แต่ตอนสัมภาษณ์ ที่นายจ้างถามว่า เราได้ข่าวการสมัครงานจากไหน เราก็ได้แจ้งไปแล้ว ว่าเราได้มาจากไหน ชื่อบริษัทอะไร แต่นายจ้างไม่ท้วงอะไรเลย พูดตั้งสองรอบแล้วด้วย
<คืออาจจะเล่า งง ๆ บ้าง ขออภัยนะคะ)
พี่ๆมีความคิดเห็นยังไงคะ คือเราคิดว่าจะลาออก ที่บ้านก็อนุญาตค่ะ (เรายังมีเงินสำรองใช้อยู่นะคะ)
รบกวนพี่ๆลงความเห็นหน่อยค่ะ ว่าที่เราเจอนี่ มันปกติไหม
คือตอนนี้ ทนมาครบเดือน จนเหมือนชินชา 😂
ขอบคุณความเห็นต่างๆล่วงหน้านะคะ