แมวเป็นโรค Fate หรือ ลิ่มเลือดอุดตัน 2 ขาหลังเดินไม่ได้

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เริ่มจาก เราเลี้ยงแมว2 ตัว เป็นแมวจร อายุ 4 ขวบครึ่ง เพศเมีย ชื่อ " ริชชี่ " และ บริชติช ช๊อตแฮร์ อายุ 2 ขวบครึ่ง เพศผู้  ชื่อ "โซอี้ " 
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธค. 2566 เวลา 14.00น. เราเล่นกับแมวปกติ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมา เราเห็นว่า โซอี้ มีอาการ ขาหลังทั้ง 2 ข้าง เดินไม่ได้ ขาหลังลากพื้น เราตกใจมาก เพราะคิดว่า แมว 2 ตัวเล่นกันแล้วเกิดพลาดท่าตกบันได
เราจึงรีบพาโซอี้ ไปคลินิคใกล้ๆ บ้าน เมื่อพบคุณหมอ แจ้งว่า ขาหลังทั้ง 2 ข้าง ไม่มีการตอบสนอง อาจจะกระดูกสันหลังหัก ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลสัตว์โดยด่วน ตอนนั้นเราตกใจมาก รีบขับรถไปตามโรงพยาบาล ที่คุณหมอคลินิคแจ้ง เมื่อไปถึง น้องก็เข้าห้องตรวจเลย เพราะว่าประวัติน้องถูกส่งมาด้วย เบื้องต้น คุณหมอให้ ออกซิเจนแก่น้อง ทำการเจาะเลือด  และ เอ็กซเรย์ ไปตรวจหาสาเหตุ ผลตรวจเบื้องต้นออกมาว่า ไม่พบชีพจรขาหลังทั้ง 2 ข้าง ความดันขาหน้าและขาหลังไม่เท่ากัน หัวใจโตไปทางขวา ชิดปอด  คุณหมอได้ส่งบทความ การวินิจฉัยว่า น้องเข้าข่าย เป็น FATE  หรือ ลิ่มเลือดอุดตันฉับพลัน https://ghost.vetbuddyexpert.com/orkhthaangrabbhawaicchaelahl-deluue-dthiisamkhayainaemw/ ( บทความเกี่ยวกับโรคที่ทางโรงพยาบาลส่งให้ ) จึงต้องให้น้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 4-5 วันเพื่อติดตามอาการ และ การรักษาเบื้องต้น ทางรพ. ได้ฉีดยาสลายลิ่มเลือดให้ ต้องรอดูอาการหลังฉีดยาสลายลิ่มเลือด ทางรพ. มีการส่งคลิปอัปเดตอาการน้องมาให้ตลอดทั้งคืน 
ช่วงแรก น้องมีอาการตื่นกลัว หายใจแรง แต่เมื่อได้ฉีดยา น้องเริ่มมีอาการสงบลง และ ร่าเริงขึ้น กินข้าวได้ปกติ ค่ะ 
เช้าวันที่ 27 ธค. 2566  ขาหลังน้องมีความรู้สึก แต่ก็ยังไม่พบชีพจร และยังต้องฉีดยาสลายลิ่มเลือดทุกๆ 6 ชั่วโมง 
จนช่วง เย็น วันที่ 27 ธค. 2566 น้องเริ่มมีการกระดิกหางได้แล้ว ไม่มีไข้ และได้หยุดยาระงับปวด 
เช้าวันที่ 28 ธค. 2566 น้องสามารถกลับมาลุกนั่งด้วยตัวเองได้ และพยายามจะเดินหลายครั้ง แต่ยังมีอาการอ่อนแรง เซล้มอยู่บ้าง 
เช้าวันที่ 29 เราก็ได้ข่าวดีว่า น้องสามารถเดินและพยุงตัวด้วย2 ขาหลังได้ เราดีใจมากๆ เพราะตามอ่านศึกษาข้อมูล มาหลายเคส ว่า FATE มีโอกาสตัดขาเพื่อรักษาชีวิต หรือ อาจจะเสียชีวิตได้ ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มันคือความทรมาน ทั้งสงสาร ทั้งกลัว ทั้งคิดถึงลูกมาก ทุกครั้งที่เรากลับบ้านมาเขาจะมาอ้อนมาหา แต่ พอกลับบ้านไปกลับเจอแค่ริชชี่ คนเดียว มันทำให้เราเครียดไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร และเศร้ามาก ริชชี่เองก็ร้องไม่หยุด เหมือนว่า น้องชายหายไป แต่ อย่างน้อย เราก็เชื่อใจคุณหมอ และ มันยังมีข่าวดี ให้เราได้ชื่นใจขึ้นมาบ้าง 
แต่... ข่าวดีก็อยู่กับเราไม่นาน 
เย็นวันที่ 29 ธค. 2566 คุณหมอตรวจพบ ต่อมน้ำเหลืองโตที่ท้องหลายต่อม จึงตรวจหาไวรัส ปรากฎว่า น้องตรวจพบ ลูคิเมีย และ พบพยาธิในเม็ดเลือด ชื่อว่า " Mycoplasma" 
ตอนนี้คุณหมอแนะนำ ให้เราพา ริชชี่ ซึ่งเป็นแมวที่เลี้ยงด้วยกัน ไปตรวจด้วย เนื่องจาก เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ 

จนตอนนี้ เราก็อยากจะมาเป็นกำลังใจให้สำหรับแมวใคร ที่เป็น FATE  ถ้าเราสังเกตุอาการน้อง และพารักษาได้ทันเวลา น้องก็มีโอกาสกลับมาเดินได้ ปกติ แต่ ก็ไม่ใช่โรคที่หายขาดถาวร เพราะ ลิ่มเลือดอุดตันสามารถเกิดซ้ำได้ค่ะ แล้วเราจะมาอัพเดตอาการของ โซอี้ และ ริชชี่ ให้อีกนะคะ ยังไง ฝากเป็นกำลังใจให้ ลูกชายและ ลูกสาวเราด้วยนะคะ หรือถ้า แมวใครที่มีอาการคล้ายๆกัน หรือ เคยเป็นแล้ว มีวิธีการดูแลหลังรักษายังไงมาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ 


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่