[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*ขอเกริ่นก่อนนะคะเราเป็นเด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามากลางคันซึ่งเราได้เจอกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งค่อนข้างคุยด้วยแล้วสนุกคุยง่ายเป็นกันเองมากๆเป็นสีสันแล้วดูจะเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ในกลุ่มมี6คนรวมเราด้วยค่ะ เราสนิทกับBมากๆBค่อนข้างเป็นคนตลกอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อน เรากับBบ้านอยู่ใกล้กันBอยู่กับพ่อมักมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในบางวัน เรามีเราก็ช่วยเขาวันไหนเขาทะเลาะกับที่บ้านก็ให้มานอนห้องเราได้ ไม่มีข้าวกินหรืออยากกินไรเราก็พร้อมช่วยออกพร้อมซื้อให้ตลอด
*หลังจากนี้เราจะค่อยๆเล่าตั้งแต่แรกเลยนะคะ คือมีครั้งนึง เราแซวเพื่อนไปว่า แหมเดินกันไม่รอเราเลยนะ รอบ้างก็ด๊าย (เป็นน้ำเสียงคุยเล่นๆแซวๆ) เพื่อนBคนนึงก็ตอบกลับมาว่า มาทีหลังอย่าหวังที่1 ไอตอนนั้นเราได้แค่ยิ้มๆขำๆเจื่อนๆแหละค่ะแต่เอาเข้าจริงคำนี้ยังติดหัวมาถึงทุกวันนี้อยู่เลยค่ะ มีเพื่อนคนนึงอยู่ๆเขาก็หลุดไปคบหาเพื่อนอีกกลุ่มทำให้กลุ่มเราแบนคนนี้ไปได้สักพักหนึ่ง แต่เรายังคุยกับเขาแค่คนเดียวนะคะเพราะเรามีอคติว่าเราจะไม่ทำตัวตามใครเกลียดใครมันควรจะมีเหตุผลไม่ใช่เกลียดตามปัญหาใครปัญหามันเราไม่มีปัญหากับคนนี้ เลยทำให้ในกลุ่มมี 5คนรวมเราค่ะ แล้วตอนนั้นเป็นปิดเทอมใหญ่ซึ่งเราต้องกลับบ้านตจว. เรากลับอยู่พักหนึ่งกลับมาอีกทีด้วยความที่ว่าเรากับBอยู่ใกล้ๆกันเราจึงไปหาBเพื่อให้รู้ว่ากลับมาแล้ว เหตุการณ์มันก็ยังปกติอยู่ค่ะ
ซึ่งตอนนั้นเป็นเปิดเทอมแรกเราก็ตั้งใจทำงานพยายามไม่ให้มีงานค้างโดยปกติกลุ่มเราจะนั่งคุยพูดคนถึงคนนั้นทีคนนี้ทีตามกลุ่มที่ชอบตั้งวงเม้ากัน ด้วยความที่เราเป็นคนทำงานในบางทีมันแยกประสาทในการรับฟังไม่ค่อยได้ เลยอาจมีถามๆบ้างว่าคนไหนนะ อะไรนะจนเหมือนทำให้เพื่อนหงุดหงิดค่ะ แล้วหลังๆเราพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเวลาพูดไรไปก็เหมือนกับจะเล่นมุกแต่มันดันแป๊กเพื่อนไม่เข้าใจประมาณนี้ค่ะ ทำให้Bเริ่มถอยห่างเราไปคบกับเพื่อนCอีกคนนึงอยู่ๆทั้ง2ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นจนเหมือนจะกลายเป็นคู่หูดูโอ้ (ขอพูดตรงส่วนนี้นะคะ Cกับเราค่อนข้างที่จะไม่ค่อยพูดคุยกันค่ะเราพยายามสนิทด้วยแต่บางทีเขาก็ชอบเมินเราค่ะ) แล้วเมื่อทั้ง2ไปสนิทกันเรายิ่งเหมือนโดนเขี่ยทิ้งเลยค่ะ เราเลยปรึกษาเพื่อนใน กลุ่มทำไมมันเป็นแบบนี้ทำไมอยูๆBถึงไม่ค่อยพูดกับเรา เพื่อนก็บอกตามที่เราเคยบอกไปก่อนที่Bจะถอยห่างค่ะ ด้วยความที่เหมือนC จะไม่ค่อยชอบเราอยู่แล้วเลยออกห่างไปเรื่อยๆเริ่มเมินกัน เราเลยทนไม่ไหวตั้งใจจะเปิดใจคุยกันเราเลยทักเขาไปอีกทีว่า ทำไมถึงเมินกันอะไรประมาณนี้ ไม่ชอบอะไรตรงไหนนางก็ให้เหตุผลมาว่า เราคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง เวลาเพื่อนพูดไรไม่ค่อยตามทัน เราทำไรไม่ได้ด้วยความที่เห็นเป็นเพื่อนเราก็ยอมๆขอโทษไป จากใจจริง นางก็พูดมาว่าไม่เข้าใจทำไมต้องใส่ใจกับแค่นาง2คน จริงๆมันก็ใช่แหละค่ะแต่ด้วยความที่มันจะจบอยู่แล้วไม่อยากมีเรื่องแตกคอกันก็เลยอยากเปิดอกเปิดใจคุยกัน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยไรค่ะในเมื่อต่อให้พูดสักแค่ไหน. ถ้าคนไม่พร้อมที่จะรับฟังเราแม้กระทั่งคำขอโทษ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีวันนึงที่จะต้องเป็นเงินค่าห้อง Cเป็นคนเก็บเงิน แล้วต้องมาเก็บเราซึ่งC ให้คนอื่นมาบอกแทนที่จะเป็นคนมาเก็บเอง สรุปเราก็จ่ายให้อีกคนเก็บให้ เราก็มีการพูดประมาณว่า แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกหน่อย Cก็ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องมาสอน หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ยุ่งกันเลยค่ะเวลาเราจะพูดอะไร เราพูดในพื้นที่ของเรา ไม่เคยไปยุ่งหรือทำอะไรพวกนั้น จนกระทั่งวันนึงเป็นกิจกรรมที่โรงเรียน ซึ่งเรานั่งแต่งหน้ากับกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เพื่อนคนนี้เราของใช้เครื่องสำอางด้วย แบบคือหยิบใช้อันไหนก็ได้โดยไม่ต้องถามทีละชิ้นว่าใช้ได้ไหมๆ แล้วอายไลเนอร์อีกอันของเพื่อนเราไม่ค่อยติดแต่นางมีเยอะเลยถามว่ามีอายไลเนอร์อีกมั้ย เพื่อนคนนึงที่เรายืมเครื่องสำอาง ยื่นมาให้ เราก็ใช้ไปเพราะไม่เอะใจว่าของใครมันเพราะมันอยู่บนโต๊ะนี้ อยู่ๆBกับCถามหาอายไลเนอร์ เราเห็นว่ามันอันเดียวกันเราเลยหยิบคืนให้ ทางBกับCก็มีการพูดแซะมาว่า เออเอาไปทิ้งเลยดีกว่า สกปรก ซึ่งตอนนั้นเราก็เงียบๆค่ะเข้าใจคนมันเกลียด แต่พอเงียบเหมือนยิ่งเหลิงไม่ยอมหยุดพูดเรา เลยมีการด่าตอบกลับเพราะมันถึงขีดจำกัดของเราที่ต้องยอม
หลังจากจบกิจกรรมในวันนั้น วันถัดมานางก็ยังไม่หยุดแซะ เป็นแบบนี้มา2-3วันซึ่งเรา ก็ได้พิมพ์ระบายในไอจีของเราส่วนตัวซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเรานาง2คนไม่เห็นแต่จะมีเพื่อนคนอื่นเห็น หลังจากนั้นเราไม่แน่ใจนะ ว่าพวกนั้นเอาไรไปพูดถึงเราบ้าง แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็มาแซะเราด้วยเราจึงทักถามว่าเออเนี่ยมันทะเลาะกันอยู่แค่เนี้ยคนอื่นๆเกี่ยวอะไร (เราลืมเล่าตรงส่วนนี้นะคะหลังจากไม่เล่นกับBและCเราคบกับอีกกลุ่มนึงค่ะ มีอะไรเราช่วนตลอดโครงงานอยู่คนละกลุ่มเรายังลงทุนช่วนเรื่องหาข้อมมูลต่างๆ มีอะไรอยากได้เราพร้อมช่วยจ่ายมีอะไรช่วยได้ก็ช่วย งานก็ให้ลอกตลอดไม่เคยบ่น) แล้วอยู่ๆเพื่อนที่เราคบด้วยในปัจจุบันก็อยู่ๆ มานั่งนินทาเราด้วย อยู่ๆกลายเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีเฉยเลย
ทุกวันนี้ในเกือบทุกคนในห้องแทบจะไม่คุยกับ เราทำให้เราไม่อยากไปโรงเรียน เลยค่ะ อยากปรึกษาพี่ๆ ทุกๆคนหน่อยค่ะว่าควรทำไงดีเรารู้สึกแย่กับเพื่อนแบบนี้เพื่อนที่ เราตั้งใจทำดีคุยดีคิดว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ กลับเปลี่ยนสีนั่งนินทาเรา แบบนี้เราควรจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงดี ควรจัดการความรู้สึกไงดีควรทำยังไงต่อไปดีคะ อีกไม่กี่เดือนจะจบแล้วก็จริงแต่มันเหมือนยาวนานมากๆเลยค่ะ😭
ประสบการณ์เพื่อนในห้องเกลีบด
หลังจากจบกิจกรรมในวันนั้น วันถัดมานางก็ยังไม่หยุดแซะ เป็นแบบนี้มา2-3วันซึ่งเรา ก็ได้พิมพ์ระบายในไอจีของเราส่วนตัวซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเรานาง2คนไม่เห็นแต่จะมีเพื่อนคนอื่นเห็น หลังจากนั้นเราไม่แน่ใจนะ ว่าพวกนั้นเอาไรไปพูดถึงเราบ้าง แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็มาแซะเราด้วยเราจึงทักถามว่าเออเนี่ยมันทะเลาะกันอยู่แค่เนี้ยคนอื่นๆเกี่ยวอะไร (เราลืมเล่าตรงส่วนนี้นะคะหลังจากไม่เล่นกับBและCเราคบกับอีกกลุ่มนึงค่ะ มีอะไรเราช่วนตลอดโครงงานอยู่คนละกลุ่มเรายังลงทุนช่วนเรื่องหาข้อมมูลต่างๆ มีอะไรอยากได้เราพร้อมช่วยจ่ายมีอะไรช่วยได้ก็ช่วย งานก็ให้ลอกตลอดไม่เคยบ่น) แล้วอยู่ๆเพื่อนที่เราคบด้วยในปัจจุบันก็อยู่ๆ มานั่งนินทาเราด้วย อยู่ๆกลายเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีเฉยเลย
ทุกวันนี้ในเกือบทุกคนในห้องแทบจะไม่คุยกับ เราทำให้เราไม่อยากไปโรงเรียน เลยค่ะ อยากปรึกษาพี่ๆ ทุกๆคนหน่อยค่ะว่าควรทำไงดีเรารู้สึกแย่กับเพื่อนแบบนี้เพื่อนที่ เราตั้งใจทำดีคุยดีคิดว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ กลับเปลี่ยนสีนั่งนินทาเรา แบบนี้เราควรจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงดี ควรจัดการความรู้สึกไงดีควรทำยังไงต่อไปดีคะ อีกไม่กี่เดือนจะจบแล้วก็จริงแต่มันเหมือนยาวนานมากๆเลยค่ะ😭