เงาอาฆาต .......

กระทู้สนทนา
จู่ๆมีแฟนรูมแมท มาที่บ้านพร้อมเอการ บอกว่าถ่ายเอกสารไว้แล้วหนึ่งใบ   มาถึงนั่งกลางบ้านพูดต่อหน้าเราและแม่  บอกพบจดหมายของพ่อเราอ่านแล้วเราทิ้งไว้ รูมแมทเราเค้าเห็นว่า มีชื่อเค้า จึงขึ้นหยิบมาอ่าน ข้อความ ด่าว่าตำหนิเค้ารุนแรง (อันนี้จริง) และเราคงเป็นคนฟ้อง พ่อเราถึงได้เขียนจดหมายมาแบบนั้น (ไม่จริงไม่เคยฟ้อง) เค้าบอกว่าจะเอาเรื่องไปแจ้งความหมิ่นประมาทก็ได้ แต่เค้าไม่ทำ เค้าสั่งให้เราย้ายออกจากห้องทันที (เค้ามาอยู่ก่อน) เราได้แต่เงียบไม่เถียงไม่โต้ตอบ ตอนนั้นเด็กมากๆ ได้แต่คิดนรกลงหัวกูละ สิ่งที่กลัวเกิดขึ้นจริงๆ ได้แต่โทษตัวเองทำไมไม่ทิ้งจดหมายฉบับนั้น ทำไมเอาไปซ่อนไว้ในประมวลกฏหมาย เอาหนังสือทับไว้แล้วเอาไปซุกในตู้อีกที่ ตอนอ่านยังใจสั่นเกิดอะไรขึ้นพ่อไปว่าเค้าทำไมเค้าก็ดีกับเรามากๆ ความผิดคือเอาจดหมายไปซ่อนทำไมไม่ทิ้ง แล้วทำไม มันมาโผล่ในมือเขาได้อย่างไร ?
                  มันเกิดจาก ตัวเราต้องเข้ามาเรียน กรุงเทพฯเหมือนเด็กทั่วไป สอบเข้ามหาวิทยาลัยปิดไม่ได้ต้องมุ่งหน้ามา มหาวิทยาลัย รามคำแหง (เปลวเทียนให้แสง รามคำแหง ให้ทาง) ครั้งแรกจะไปอยู่กับญาติพี่ๆสองคน พี่ๆดีใจกันมากจะไปเตรียมห้องให้เราเก็บกวาดเช็ดถูเอง 555555 จะทำอะไรได้ เราก็อยากอยู่กับพี่ๆเรามาก แต่ปัญหาคือพี่ทั้งสองคน เป็นกระเทย แม่เป็นห่วงกลัวว่า พี่ๆชอบหนุ่มๆ กลัวว่าพี่ไม่อยู่แล้วหนุ่มๆจะเข้าห้องผิด  เรื่องนี้แม่เราบอกตรงๆไปเลยพี่กระเทยโวยวายแต่ หัวเราะกัน ก็เลยเป็นเหตุให้มาอยู่กับคนนี้พอดีเค้าไม่มีรูมเมท เค้าก็ดีกับเรามาก พาไปด้วยทุกที่ พอเกิดเรื่องขึ้นเค้าโกรธมาก เราก็ได้แต่เงียบและเสียใจพูดออกมาไม่ได้ เราก็ใจสลายนะ ตอนนั้นคือแทบไม่อยากเดินผ่านบ้านเพื่อนสนิทซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านรูมแมทเลย ครอบครัวเราเป็นคนพื้นเพที่นั่น แต่ครอบครัวเค้ามาเช่าอยู่นานแล้ว ไม่ปรากฏอาชีพของผู้เป็นพ่อ แต่มีฐานะกว่าเรา แม่เค้าก็ไปวัด แต่ไม่มีคนทักทายมากมายเค้าเงียบๆแต่เรานี่เสียงญาติพี่น้องเรียกระงม คือเจ้าถิ่น นี่อาจเป็นเหตุให้เค้าไม่เอาเรื่องเรารึเปล่า ตอนแรกแม่เหมือนทำโทษจะไม่ให้ไปเรียนต่อ แต่มีน้าและพี่ๆ ช่วยกันพูด เราก็เลยได้เรียนแต่ย้ายห้องและต่อมาก็ย้ายหอออกไป ไม่ได้ติดต่อกันอีก เวลากลับบ้านพยายามไม่ผ่านไปทางนั้น เรื่องควรจะจบแค่ตรงนั้น
                   แต่ไม่ใช่แบบนั้น ตามกาลเวลา เราก็เรียนจบทำงาน มีครอบครัว ทั้งครอบครัวเราและครอบครัวรูมแมทก็ต่างย้ายออกจากชุมชน ไม่ได้ข่าวกันอีก เราก็ลืมได้ตามกลาลเวลา ช่วงที่เรียนมีเพื่อนคนหนึ่งช่วงเรียนมัธยมจะเดินกลับบ้านด้วยกันบ่อยๆเค้าเดินมาต่อรถที่ตลาดกลับต่างอำเภอ แต่เราเดินกลับบ้านทางเดียวกัน แต่พอมาเรียน รามฯเพื่อคนนี้ไม่พูดกับเราไม่มาใกล้แต่ตัวเราไม่สังเกตุว่าเพื่อนรังเกียจ แค่คิดว่าเพื่อนหลายคนก็ไม่ว่างคุยกับเรามั๊งคือไม่เฉลียวใจอะไรเลย แต่เค้าขายประกันมาให้เราช่วยซื้อเราก็ช่วยซื้อ ก่อนหน้านั้นแทบไม่มองหน้าเรา เพิ่งมารู้ผ่านไปยี่สิบสามสิบปี ว่าตอนเรียนเพื่อน ขอเรียกว่า   ฉ นะค่ะ หลังจากที่เราย้ายออกจากห้องที่เกิดปัญหานั้น รูมแมทคนนั้นมาชวนเพื่อน ฉ ไปอยู่แล้วดูแลรักใคร่อย่างดีตลอดจนเรียนจบ ทั้งๆที่เค้าไม่รู้จักกันมาก่อนถ้ารู้จักเราต้องเป็นคนแนะนำมั๊ย เค้าแอบด่าแอบสืบแอบส่องเราผ่าน ทาง ฉ ซึ่ง เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย และ ฉ ไปอยู่ตรงกลางที่มีปัญหาของเราได้อย่างไร เค้าฝังความเกลียดให้ ฉ มาแสดงกับเรา แต่ไม่สำเร็จ เพราะ เราแข็งกว่า เราคนสู้คนกว่า  ฉ ได้แต่แอบเกลียดเรา คงมีนินทาลับหลัง ด่าแช่ง ตอนนี้ยังไม่เลิก ขนาดคนฆ่าคนตาย ศาลยังลดโทษ ถ้าสารภาพ นี่เรื่องเจ็บใจ อาฆาตขนาดสร้างตัวตนเพื่อนมาแฝงในกลุ่ม  อยากรู้ความเป็นไปของเราตั้งแต่มีเรื่องไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเพื่อนที่เรียนเลย จนเพื่อนที่เรียนมาถามเมื่อไม่นานมานี่เอง จึงหาข้อสรุปได้ว่า เรามี...เงาอาฆาต....ใกล้ตัวมาจะสามสิบปีเหรอเนี่ย ไม่โกรธ ฉ เลย แต่สงสาร ฉ เค้าทำอะไรกับเพื่อนเรา ถ้าเขามาอ่านรู้ไว้ เรามูฟออนนานแล้วแทบลืมเค้าไปแล้วไม่เคยพูดถึงเลย กลับไปบ้านมีความสุขดี ครอบครัวก็สบายดีไม่ได้ล่มจม ตามคำแช่ง เธอทำอะไรชั้นไม่ได้พึงสังวรณ์ และชั้นรู้นะครอบครัวเธอทำบาปอะไรไว้ ดูละครมากไปป่ะ วางแผนเป็นเรื่องเป็นราว โว๊ะ!!!!!!
อ่อนละมัย.................ผู้เล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่