สวัสดีค่ะ 

ก่อนอื่นต้องขอแจ้งให้ทราบเบื้องต้นว่า เมื่อ 2 ปีก่อนแม่เราไปเอาลูกหมาตัวหนึ่งมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน เลี้ยงตั้งแต่มันยังเล็ก ๆ มันเป็นหมาจรค่ะ แม่หมาจรแถวบ้านมาคลอดลูกไว้ แม่เราเห็นแล้วก็สงสารเลยไปเอามาช่วยเลี้ยงตัวหนึ่ง ตอนเด็ก ๆ มันก็โอเคนะคะ เราก็เลี้ยงกันแบบปกติเลย แต่พอมันเริ่มโตขึ้นพฤติกรรมมันก็แย่ลงเรื่อย ๆ เลยค่ะ มันเห่าเก่งมาก ๆ ดุก็แล้ว ตีก็แล้ว สอนก็ทำแล้ว แต่มันก็ยังเห่าไม่เลิก เห่าไม่หยุด คือเห่าแม้กระทั่งกับคนในบ้าน ยิ่งคนนอกบ้านที่มาหาใครสักคนในบ้านเรา มันจะเห่าแบบเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ เห่ากรรโชกแบบว่า ถ้าเราไม่ล่ามไว้มันต้องกระโดดกัดคอเขาแน่ ๆ 

นอกจากเรื่องเห่ายังมีเรื่องที่มันชอบขู่ด้วยค่ะ ขู่แบบทำท่าจะกัด ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่เราที่เป็นคนเอามันมาเลี้ยง แต่แม่เราก็ตีนะคะเวลามันทำท่าจะขู่ แต่สิ่งที่ทำให้ลำบากใจมาก ๆ อีกข้อหนึ่งก็คือ เวลาที่คนในบ้านจะออกจากบ้านแต่ละที แม่เราจะต้องเป็นคนออกไปล่ามมันทุกทีเลยค่ะ คนในครอบครัวต้องเรียกให้แม่ไปล่ามมันไว้ เพราะถ้าไม่ล่ามใครเดินไปเดินมาไม่ได้เลย มันทำท่าจะกัดค่ะ และแม่เราก็เป็นคนเดียวที่ยังพอจะล่ามมันได้ ถ้าคนอื่นแทบจะจับมันไม่ได้เลย แม่เราแกก็แก่มาก ๆ แล้วค่ะ อายุปีนี้ก็ 66 ย่างเข้า 67 แล้ว แกก็เริ่มจะรับน้ำหนักและสู้แรงหมาตัวนี้ไม่ไหวแล้ว แกก็เครียดและโทษตัวเองทุกวันว่าไม่น่าไปเอามันมาเลี้ยงเลย จากที่จะได้บุญกลับต้องได้รับความเดือดร้อนแทน ทุกข์สาหัส ทั้งเกรงใจเพื่อนบ้านที่มันชอบเห่า ทั้งต้องมานั่งระวังว่ามันจะกัดคนในบ้าน 

ก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อน คนในบ้านเราทนไม่ไหวบอกให้เอามันไปปล่อยเถอะ แต่เรากับแม่เป็นคนขี้สงสารมาก ยิ่งเรายิ่งคิดมากถ้าจะเอามันไปปล่อย เราสงสารมันนะคะ เราจึงหาสถานที่รับเลี้ยงหมาที่แบบจ่ายรายเดือน ฝากเลี้ยงประจำ ก็ได้ที่หนึ่งที่เพื่อนแนะนำมา เราก็ไปฝากเลี้ยงกับเขา จ่ายเงินแรกเข้าเบ็ดเสร็จรวมทุกอย่าง 9,000 บาท ค่าเลี้ยงมัดจำ 1 เดือน ค่าฉีดยา ตรวจร่างกาย ค่ารถมารับ บลา ๆ เราก็เออ สบายใจละ ถึงจะตังค์ไม่ค่อยมีแต่ก็สบายใจที่ไม่ต้องเอามันไปปล่อย อย่างน้อยมันก็มีที่ให้นอน แต่ว่า... ทางสถานที่รับเลี้ยง เลี้ยงมันได้แค่เดือนเดียวค่ะ เขาเอามันมาคืนเพราะว่า พี่เลี้ยงคนที่จับมันได้ ดูแลมันได้มีแค่คนเดียว คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้มัน คนที่เข้าใกล้มันได้เขาก็รับมือไม่ไหว หมาหลายตัว เขาเลยส่งมันกลับคืน เพราะเขาเองก็ไม่เคยเจอหมาที่มีพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้ เขาก็รับมือไม่ไหวค่ะ เงินที่เราเสียไปก็ศูนย์เปล่า เราก็เครียดมาก นี่ก็เข้า 6-7 แล้วที่มันกลับมา พฤติกรรมยังแย่เหมือนเดิมทุกอย่าง 

ทีนี้... เราก็ติดต่อไปที่สถานที่ฝากเลี้ยงอีกที่หนึ่งที่เจอในเฟซบุ๊ก เราก็คุยกับทางเพจเสร็จสรรพ์แล้ว ปรากฏว่า กรณีหมาที่มีพฤติกรรมแบบหมาของเรา ทางสถานที่รับเลี้ยงของเขารับดูแล และไม่ติดที่หมาดุ หมานิสัยดื้อ เพราะเขาก็มีหมาที่ดุกว่านี้ด้วยซ้ำที่เจ้าของเอามาฝากเลี้ยง เขามีทีมฝึกหมาดูแลหมาที่ไว้ใจได้ แต่ค่าเลี้ยงดูต่อเดือนแพงใช้ได้เลยค่ะ 8,500 บาท/เดือน ซึ่งเราเข้าใจเขานะคะว่ามันก็คงต้องราคานี้แหละ ค่าแรกเข้าทั้งหมดรวมแล้ว 17,000 บาท เรานี่นั่งน้ำตาคลอเลยค่ะ มันแพงมากสำหรับเราที่บ้านไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย แถมยังมีค่าใช้จ่ายมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แม่ที่ป่วยอีก เงินจำนวนเท่านี้เราสามารถเอามาต่อยอดเป็นค่าหยูกยาให้แม่ หรือค่ารถพาแม่ไปพบหมอได้อีกหลายเดือนเลย T_T 

เราก็คิดหนักมากค่ะ เพราะถ้าเราส่งหมาไปให้เขาดูแล เราต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเงิน 8,500 บาททุกเดือน ซึ่งมันเยอะมากสำหรับเรา บางทีเราก็อดคิดไม่ได้ว่า เงิน 8,500 ทุกเดือนที่ต้องจ่าย ถ้าเราเก็บไว้เป็นค่ายา ค่าหมอ ให้แม่และพ่อในอนาคต มันก็คงช่วยพ่อแม่เราได้มากเลยนะ ยิ่งตอนนี้แม่เราก็ป่วยอยู่ รักษาตัวต่อเนื่องเพราะเป็นโรคมะเร็ง เราก็เลยยิ่งคิดมากไปใหญ่ว่า เออ เงินตรงนี้เราจะเลือกจ่ายให้หมา 1 ตัว หรือเลือกจ่ายให้ แม่ ที่เรารักมาก ๆ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ T_T 

จนปัญญาแล้วจริง ๆ ค่ะ ขอคำปรึกษาทีค่ะ ว่าจะแก้ยังไงดี เพราะเราไม่รู้ว่าจะเอาหมาไปไว้ที่ไหนที่ราคาถูกกว่านี้ ที่ ๆ เขารับเลี้ยงแล้วไม่ส่งคืนภายหลัง ที่ ๆ ราคาไม่แพงมากจนเกินไป ขอคำปรึกษาทีค่ะ ถือว่าเอาบุญ 

ขอบคุณค่ะ