ปี 2566 เป็นปีที่ช่องมวยรองย่านวิภาวดีอย่าง Thai PBS สร้างผลงานละครได้โดดเด่น มีกระแสไวรัลออนไลน์มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
แม้จะเริ่มต้นอย่างทุลักทุเลกับ The Interns หมอมือใหม่ ที่เกิดกระแสตีกลับ ถูกวิจารณ์ถึงเนื้อหาความถูกต้องทางการแพทย์
แต่ต้องยกความดีความชอบให้กับทางช่องที่รับมือวิกฤตได้เป็นอย่างดี จนผู้คนเริ่มเปิดใจ รับรู้มากขึ้นว่าทีวีสาธารณะช่องนี้ ก็มีละครดีๆ อยู่ด้วย
แถมยังสร้างวลีเด็ด "เธอมันเริ่ด ตัวแม่ ตัวปัง" "ตัวมารดา" "ตัวสูตินรี" จากรีแอคชั่นสุดฮาจากอดีตหมออินเทิร์น AERTHA Channel

ส่งไม้ต่อให้ Sweet Sensory เรื่องรักหลากรส มินิซีรีส์ว่าด้วยเชฟหนุ่มและสาวตาบอด แม้ช่วงออนแอร์จะมาอย่างเงียบๆ แต่ก็เป็นไวรัลทันทีหลังปล่อย Trailer ยิ่งช่วงท้ายปีพระเอกหนุ่ม "จี๋ สุทธิรักษ์" เริ่มมีผลงานโดดเด่นจาก 4 Kings 2 และเกมรักทรยศ เป็นอานิสงส์ให้กลุ่มแฟนคลับตามมาดูความละมุนของ "เชฟคราม" กันอย่างไม่ขาดสายในเวลานี้ ส่งต่อให้การมาของ ซีซั่น 2 น่าติดตามมากขึ้น

เข้าสู่ช่วงกลางปีด้วย สืบสวนสำนวนรัก ที่ได้ "อีกี้ ธาตุทองซาวด์" หรือ "หลิน มชณต" มาสวมมาดทนายสาวตัวแม่ รับจบทุกเคสคดีความที่ไม่เป็นธรรม พร้อมพระเอกฉ่ำๆ 3 คนให้ลุ้นว่าใครจะเป็นพ่อของลูก (ในเรื่อง) นำโดย "ท็อป จรณ" ที่เพิ่งหมดสัญญาจากวิกพระราม 4, "ดีเจเทมส์" ที่ร่วมงานกับช่องเป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก 'มอม' และนักแสดงหนุ่มที่กำลังเป็นที่อิจฉาของชาวเน็ตช่วงนี้อย่าง "ต้นน้ำ เปี่ยมชล" กระแสตอบรับค่อนข้างดี มีฐานแฟนให้ความสนใจถกเถียงประเด็นจากละครผ่านโซเชียล แว่วๆ มาว่าอาจมีภาคต่อ ต้องลุ้นกันต่อไป

มาถึงละครความหวังของช่อง บุษบาลุยไฟ ที่ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 3 ปี ด้วยอุปสรรคจากสถานการณ์โรคระบาด แต่สุดท้ายก็ฝ่าฟันจนพร้อมออนแอร์ ได้รับความสนใจจากคอละครพีเรียดที่กำลังอินกับความงดงามในยุค ร.3 ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นนางเอก "เฌอปราง อารีย์กุล" ที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าปลอมเป็นชายได้เนียนที่สุดในบรรดาละครไทยทุกเรื่อง โดยโครงหน้าและการแต่งกายที่เข้ากับค่านิยมในสมัยนั้น แถมยังสร้างชื่อให้ "ครูบัว ภัทรสุดา" นักแสดงสายละครเวที แจ้งเกิดผ่านจอแก้วในบทบาท "คุณพุ่ม บุษบาท่าเรือจ้าง" ด้วยลีลาการแสดงสุดจึ้ง ยืนหนึ่งความจัดจ้านในพระนคร ผ่านบทกลอนที่แหลมคมถูกใจแฟนๆ

แต่ความปังไม่อาจส่งไม้ต่อให้กับ It's OK To be 30 สามสิบกำลังดี ด้วยการโปรโมทที่ค่อนข้างน้อย และพลังการเรียกฐานแฟนคลับของนักแสดงนำ "ต้นน้ำ เปี่ยมชล" ที่กระโดดขึ้นแท่นพระเอกนำเดี่ยวครั้งแรก อาจไม่พอที่จะทำให้คนดูปันใจกดรีโมทเข้ามา แม้ในด้านโปรดักชั่นและบทจะทำออกมาดี ประเด็นร่วมสมัยถูกใจคนวัยทำงาน จนบางฉากถูกนำมาแชร์ใน Facebook เป็นหลักหมื่น แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการหาสูตรที่ลงตัวของละครแนวปัจจุบัน ที่แม้ตอนนี้จะยังเข้าไปในใจผู้ชมได้ยากกว่าละครพีเรียดที่หลายคนยอมรับโดยถ้วนหน้า

มาแบบเหนือเมฆ เหนือคาด กับ นางฟ้าไร้นาม มินิซีรีส์ที่สร้างจากชีวประวัติของ หมอเพียร เวชบุล แพทย์หญิงคนที่ 2 ของไทย และเป็นคนไทยคนแรกที่บุกเบิกการรักษากามโรค ผลักดันการตระหนักรู้เรื่องเพศ ทั้งยังช่วยเหลือเหล่าหญิงค้าประเวณีและเด็กกำพร้าให้มีชีวิตใหม่ สวมบทบาทโดย "เนสท์ นิศาชล" เพียงปล่อยโปสเตอร์และ Trailer ก็เกิดกระแสถล่มทลาย ยอดรับชมพุ่งไปกว่า 7 ล้านวิวในทุกแพลตฟอร์ม แถมยังตกแฟนๆ ขาจร แฟนละครช่องอื่นๆ มาร่วมชมกันแบบไม่กระพริบตา ขึ้นแท่นละครแห่งปีอีก 1 เรื่อง สมมงทีมผู้จัดปลายจวัก

ปิดท้ายปีด้วยละครฟีลกู๊ด Hello Happy สวัสดีความสุข กับการจับคู่ 2 หมองตัวตึง "หมอติณห์" (เต้ ดาวิชญ์) และ "รินลดา" (พรอยมน ปกวรรณ์ฉัตร) มาปะฉะดะกัน ท่ามกลางท้องทุ่ง สวนตาล และฟาร์มกวางใน จ.เพชรบุรี เสริมทัพด้วยอดีตไอดอล "น้ำใส พิชญาภา" และนางเอก MV เพลงดัง นะหน้าทอง "เจน เจติยา" แม้กระแสออนไลน์อาจไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็มีฐานผู้ชมหน้าจอให้การติดตามเหนียวแน่น ดูสดพร้อมกันทางแอป VIPA และ Facebook Live ไม่ต่ำกว่า 800 Views

กระทู้นี้ขอไม่นับสารพัดหนังสั้น ที่เป็นสนามทดลองของบรรดาคนทำหนัง-ละคร ให้ได้ปล่อยของ โชว์ความสร้างสรรค์แบบไม่กั๊ก ไม่ต้องแคร์เรื่องสปอนเซอร์
แล้วชาวพันทิปคิดเห็นยังไงกับละคร 7 เรื่องในปีนี้ของทีวีสาธารณะแห่งนี้ ลองคอมเม้นต์หรือกดโหวตเล่นๆ กันได้เลย

ปีหน้าฟ้าใหม่ ประเดิมเรื่องแรกด้วย หมอตลอดกาล ที่หมายมั่นตั้งใจลบคำครหาจาก The Interns ด้วยการจับมือกับทีมสร้างมืออาชีพ จะเป็นยังไงต้องติดตาม ยังไม่รวม Line Up สารพัดละครที่ยังซุ่มเงียบปิดข่าวจำนวนมาก แต่จากที่ จขกท ได้ข้อมูลมา บอกเลยว่า...