จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าศาสนาพุทธโดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งตอนนี้มีนิกายหลักที่คนนับถือมากที่สุดคือ เถรวาท ซึ่งแนวทางการปฏิบัติ หรือธรรมเนียมต่างๆ ค่อนข้างเน้นพิธีกรรมเยอะ สิ่งปลูกสร้างในวัดก็ดูอลังการ ประณีต มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โต นักบวชอย่าง้ช่นพระหรือแม่ชีก็ต้องแต่งตัวอยู่ในเครื่องแบบตลอดเวลา ส่วนกิจกรรมหลักที่ญาติโยมทำเมื่อเข้ามาในวัดส่วนใหญ่ก็สวดมนต์ ไหว้พระ ไหว้พระพุทธรูป เจดีย์ รูปเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ คนพุทธนิกายนี้หลายๆ คนก็เน้นธรรมเนียมพิธีกรรม มากกว่าการให้ความสำคัญกับการศึกษาแก่นแท้ของหลักศาสนา ทำให้ผมนึกถึงศาสนาคริสต์นิกายคอทอลิกที่อาคารภายในโบสถ์จะดูอลังการณ์ ประณีตงดงาม มีรูปเคารพของพระเยซู พระแม่มารีย์ เพียงแต่ไม่มีการกราบไหว้บูชา กิจกรรมหลักๆสำหรับคนที่ไปเข้าคือ ทำพิธีมิสซา แล้วก็จะมีกลุ่มเรียนพระคัมภีร์ นักบวชอย่างเช่นบาทหลวง แม่ชีก็ต้องแต่งตัวในเครื่องแบบตลอดเวลาช่นกัน แต่พอไปดูของศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ ซึ่งเป็นนิกายนึงที่เป็นเวอร์ชั่นปฏิรูป เน้นความเรียบง่าย ไม่เน้นพิธีกรรมเยอะ เน้นการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นหลัก เน้นศึกษาพระคัมภีร์ โบสถ์ก็สร้างมาแบบเรียบง่าย หลายๆที่บางทีดูภายนอกก็เหมือนบ้าน เหมือนอาคารธรรมดาๆอาคารนึง ถ้าไม่มีสัญลักษณ์ไม่กางเขนนี่คือดูไม่ออกว่าเป็นโบสถ์ ไม่มีนักบวชในโบสถ์ มีแต่ศิษยาภิบาล หรือคนที่มีตำแหน่งรับใช้พระเจ้ามาทำงานในโบสถ์ คอยเทศนาสอนหลักคำสอน กิจกรรมเท่าที่เคยไปมา ก็มีอธิษฐาน รองเพลงนมัสการ ฟังคำเทศนา ทานข้าวเที่ยง นั่งพูดคุยทำความรู้จักกัน มีกิจกรรมให้เด็กเล่นเกมส์ สร้างความสนุดสนุกสนาน แถมมีครูสอนภาษามาประจำที่โบสถ์ด้วย หรือคงเป็นเพราะตามที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นที่ทำให้นิกายโปรเตสแตนท์ได้รับความนิยมมากกว่าคาทอลิก ถ้าศาสนาพุทธมีสักนิกายนึงที่เป็นเหมือนโปรเตสแตนท์ของศาสนาคริสต์ ผมคิดว่าคงจะมีคนอยากมาเข้านิกายนี้กันเยอะมากๆ ถ้ายิ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เน้นความเรียบง่าย อยากเน้นศึกษาหลักคำสอนศาสนาพุทธ ขัดเกลาจิตใจ ยกระดับศีลธรรม มีการเปิดรับคนที่จะมาช่วยเผยแผ่ศาสนา โดยที่คนนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นนักบวช ไม่ต้องแต่งตัวตามเครื่องแบบ ไม่จ้องบวช ไม่ต้องโดนผม คงจะยิ่งชอบมากๆ ทุกคนมีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ