ประสบการณ์ที่อึดอัด

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ในวัยมัธยมที่อึดอัดของเราจะบอกไว้ตรงนี้ก่อนว่าเนื้อหาทั้งหมดอาจจะไม่ครบตามที่เราได้เจอในชีวิตวัยมัธยมนี้เราจะเล่าตามความที่เราสรุปไว้ได้ เนื้อหาตรงไหนที่ฟังแล้วไม่ขึ้นต้องขอโทษด้วยนะคะแล้วก็ฝากเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปด้วยนะคะ

คือเรื่องมันเริ่มตอนที่พิธีอะไรสักอย่างซึ่งมันเป็นพิธีไหว้ครูมั้งเราจำไม่ได้แต่ในพิธีจะมีมวยไทยมาประสมประสานด้วย จะตัดมาตอนที่กำลังทำพิธีในขณะทำพิธีนั้นก็มีเพื่ผู้ชายคนนึงเรียกเราแต่ตอนนั้นเราไม่ได้ยินคือเราเห็นแหละแต่เราคิดว่าเรียกคนอื่นเพราะในพิธีเขาจะมีเด็กม.ต้นมาร่วมพิธีและก็จะมีการนั่งแต่ละห้องและนั่งเป็นหญิงและชายซึ่งข้างเราฝั่งขวาก็จะเป็นเพื่อนห้อง4 เราคิดว่าเพื่อนผู้ชายคนั้นจะเรียกคนอื่นซะอีก แล้วพอเขาเรียกเราอีกครั้งเราก็รู้และว่าเขาพยายามเรียกเราแล้วพอเรารู้ตัวเขาก็ขอเฟซบุ๊กเราซึ่งเราคิดว่าจะมาขอแค่คนเดียวแต่มีเพื่อนของคนคนนั้นมาขออีก2คน * ลักษณะของคนที่เรียกเราก็คือสูงปานกลางผิวเข้มหน่อยๆ เราจะเรียกคนนี้ว่านายบี ส่วนอีกคนจะมีลักษณะเตี้ยๆหน่อยขอเรียกว่านายเอ และอีกคนจะเป็นหนุ่มแว่นสูง ผิวคล้ำหน่อยขอเรียกว่านายซี * ต่อ แล้วพอพวกเขาขอเฟซบุ๊กของเราเสร็จแล้วตัดมาตอนเลิกเรียนเรากำลังนั่งรถกลับบ้านซักพักนายเอก็ทักเรามา * คนที่ตัวเตี้ย * เขาทักมาหาเราชวนเราคุยปกติแล้วเราก็คุยกับเขาไปคือตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วพอซักพักเขาก็ขอเราเป็นแฟนโดยที่ไม่สืบประวัติเรามาก่อน ซึ่งที่เล่าไปแบบนั้นเพราะว่า เราเป็นคนที่ค่อนข้างอึดอัดง่ายพอใครที่มาบอกชอบเราก่อนเราจะอึดอัดแบบฝังใจมากถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเราแล้ว แล้วอีกอย่างคือสเปคเราอ่ะค่อนข้างสูงหรือจะเรียกง่ายๆว่าเรื่องมากนั่นแหละ แล้วอีกอย่างที่เราอยากจะบอกคือเราชอบผู้หญิง การที่นายเอมาขอเราเป็นแฟนแบบนี้เราก็อึดอัดแน่นมาก ตัดมาที่วันต่อมาเราก็เรียนตามปกติแล้วทีนี้นายเอก็เริ่มมองเราแบบคือเราไม่สามารถเล่าเป็นคลิปเสียงได้เราเลยต้องฝืนพิมพ์ไปอันที่จริงเรื่องมันยาวกว่านี้ ต่อ...แล้วทีนี้เขาก็เริ่มเสียงดังเรียกร้องความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เรารำคาญ แล้วก็อึดอัดขึ้นเรื่อยๆจนตอนที่เราพักกลางวันหรือไปรับประทานอาหารนั่นเองจู่ๆ นายเอแล้วเพื่อนของเขาก็เดินมาทำเป็นเสียงดังเรียกร้องความสนใจ เราไม่รู้หรอกนะว่าเขาพยายามเรียกร้องความสนใจจากใครแต่ที่แน่ๆคือเขาเรียกร้องความสนใจจากเราแน่นอนเหมือนเขามาแซะมาแซวอ่ะเราก็ยิ่งอึดอัดแบบอยากย้ายโรงเรียนหนีอ่ะอีกอย่างมีวันนึงที่พวกมันขอเรียกว่าพวกมันเลย คือพวกมันอ่ะลามปามใหญ่ละพวกมันมานั่งโต๊ะเดียวกับเราซึ่งเข้าใจมั้ยว่าโต๊ะกินข้าวโรงเรียนเรามันจะเป็นแนวยาวมากแล้วคือมันมานั่งโต๊ะเดียวกับเรา แต่มันนั่งคนละฝั่งพวกมันจะนั่งใกลกว่า แต่เข้าใจมั้ยว่ามันก็คือโต๊ะเดียวกันอ่ะ *แล้วพอมันเห็นหน้าเรามันก็เรียกร้องความสนใจใหญ่เลยแล้วมันก็มองมาที่เราบางครั้ง* แล้วทีนี้มันเรียกร้องความสนใจจนครูที่ปรึกษาเกลียดพวกเราหมดห้องไปเลยเพราะมันคนเดียวคือมันต้องการอะไรอ่ะ *ขอสรุปหน่อยเดี๋ยวมันยาวเกิน*
ตัดมาที่วันต่อมาเรื่อยๆวันหนึ่งมันอ่ะนายเอมันทักมาหาเราทางไลน์เพราะว่าในแมสเสจและในเฟซบุ๊กเราบล็อกมันไปแล้ว มันทักมาประมาณว่าเรื่องทั้งหมดให้ลืมไปซะอะไรประมาณนี้ แล้วเราก็เข้าใจพอซักพักไปมันก็เรียกร้องความสนใจอีกละโอ้ยคือแบบอยากพูดหยาบมากตอนนั้นคือเราไม่ไหวแล้วอ่ะแต่ต้องเก็บอาการไว้ แล้วมันจะมีอยู่วันนึงที่พวกเราไปดูหนังที่โรงหนังหลังโรงเรียนเราตอนนั้นเรากำลังดูเพลินๆเลยแต่ทันใดนั้นไอพวกโรคจิตก็เข้ามา แล้วทีนี้มันทำไรรู้มั้ยพวกนั้นมันมองหากลุ่มพวกเราใหญ่เลยแล้วจู่ๆมันก็ทักมาที่ทางเราแล้วอีนายบี มันก็พูดกับนายเอขึ้นว่านั้นแฟนmึงๆ แล้วคือรู้มั้ยเรานั่งอยู่ตรงนั้นอ่ะคืออึดอัดมากคืออยากจะแหกปากลั่นโรงหนังเลยว่าหยุดได้มั้ยโรคจิตguอึดอัดแต่ก็ทำไม่ได้นะคะเพราะเป็นเขตสาธารณะห้ามเสียงดัง แล้วตัดมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันเราไม่รู้ว่ามันยังชอบเราอยู่มั้ยแต่เห็นหน้าเราแล้วเรียกร้องความสนใจแบบนั้นก็ยังชอบอยู่แหละเกลียดจนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้วค่ะ เราก็ยังอึดอัดอยู่เหมือนเดิมก็ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะคะบางทีเราอยากจะเพิ่มหยาบเข้าไปด้วยแต่ทำไม่ได้จริงๆ นี่ก็เป็นประสบการณ์ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าพวกโรคจิตนั่นจนถึงปัจจุบัน ถ้ามีตรงไหนที่มันฟังแล้วแปลกๆเราต้องขอโทษด้วยนะคะคือเราอยากอัดเป็นคลิปเสียงมากแต่เราพึ่งสมัครตั้งกระทู้ครั้งแรก คือขอบคุณกำลังใจจากทุกคนนะคะหวังว่าใครที่เป็นเหมือนเราก็ขอให้มันผ่านไปได้นะคะถึงแม้ว่าเราต้องรออีกหลายปีก็ตาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่