อีลิธ ฮาเว่นส์ (Elite Havens) ผู้บริหารวิลลล่าระดับลักซ์ชูรีตลอด 25 ปี ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มดุสิตธานี ในฐานะผู้นำตลาดวิลล่าหรูของทวีปเอเชีย เปิดข้อมูลสุดอินไซต์ ที่บ่งบอกถึง 9 เทรนด์สำคัญของตลาดท่องเที่ยวในอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยน เผยนักเดินทางนิยมใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยสำคัญในการท่องเที่ยว เน้นการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่ทำให้การพักผ่อนมีคุณภาพ และตลาดเอเชียคือผู้ขับเคลื่อนสินค้าลักซ์ชูรี ในขณะที่ที่พักในรูปแบบ “วิลล่า” ยังมาแรง
มายา ริกก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีลิธ ฮาเว่นส์ (Elite Havens) บริษัทบริหารวิลล่าระดับลักซ์ชูรีที่มีต้นกำเนิดมาจากความต้องการของผู้บริโภค ที่มีประสบการณ์ยาวนาน 25 ปี เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่บ่งบอกถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวที่กำลังจะเปลี่ยนไปว่า ประกอบด้วย 9 เทรนด์สำคัญ ประกอบด้วย
1.TravelTech ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยสำคัญในการเที่ยว
2.นักรีวิวสมัครเล่นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
3.ความนิยมในวิลล่าส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น
4.การท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์จะเติบโตขึ้น
5.นักท่องเที่ยวจะเน้นการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์
6.โซเชียลมีเดียและอินฟูลเอนเซอร์ จะมีบทบาทมากขึ้น
7.นักท่องเที่ยวจะจัดสรรวันพักผ่อนพิเศษด้วยตัวเองมากขึ้น
8.ตลาดเอเชียคือผู้ขับเคลื่อนสินค้าลักซ์ชูรีที่สำคัญ และ
9.การทำงานออนไลน์ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้มากขึ้น
“จากประสบการณ์ 25 ปีที่เราเก็บข้อมูลของนักเดินทางและนักท่องเที่ยว เราพบการเปลี่ยนแปลง 9 เทรนด์สำคัญดังกล่าว ซึ่งจะทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวใช้สมาร์ทโฟนเพียงแค่เครื่องเดียวก็สามารถจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก รวมถึงเสิร์ชหาสถานที่สำคัญๆ และสามารถสั่งอาหารและเรียกรถรับ-ส่งได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การจองออนไลน์จะมีมูลค่าสูงถึง 666 พันล้านเหรียญในปี 2567 เพิ่มขึ้นถึง 25% จากปี 2562 นั่นทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยววต้องเร่งปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะการอัพโหลดข้อมูลที่น่าสนใจในโซเชียลมีเดีย ซึ่งจุดนี้จะทำให้โซเชียลมีเดียและอินฟูลเอนเซอร์ มีบทบาทมากขึ้นในตลาดท่องเที่ยว และทำให้เกิดนักรีวิวสมัครเล่นเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น” ซีอีโอ อีลิธ ฮาเว่นส์ กล่าว
ขณะเดียวกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเทรนด์การทำงานออนไลน์ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีเวลาเดินทางมากขึ้น และสามารถจัดสรรช่วงเวลาพิเศษสำหรับพักผ่อนได้ด้วยตัวเอง ตลอดจนเทรนด์การพักผ่อนอย่างมีคุณภาพแบบสโลว์ไลฟ์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ที่พักในรูปแบบวิลล่าส่วนตัวยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
“การอยู่ในวิลล่าสร้างความรู้สึกที่แตกต่างจากโรงแรมจริงๆ เป็นสิ่งที่ลูกค้าประจำของอีลิธ ฮาเว่นส์ สื่อสารกับเรา นั่นตอกย้ำให้เห็นถึงนิยามของคำว่า ‘ลักซ์ชูรี’ ที่ไม่ได้แค่หมายถึงห้องพักเท่านั้น แต่รวมไปถึงสถานที่ ความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถปรับให้เหมาะสมได้ตามความต้องการ มากไปกว่านั้น อินเตอร์เน็ตยังทำให้นักเดินทางเลือกรูปแบบวิลล่าได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะวิลล่าที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ก็จะยิ่งเพิ่มประสบการณ์ไม่เหมือนใครให้กับผู้เข้าพักได้มากขึ้น ซึ่งการที่อีลิธ ฮาเว่นส์ รับรู้ความต้องการของผู้เข้าพักอย่างละเอียดทำให้สามารถเลือกวิลล่าที่ตรงใจได้อย่าง่ายดาย จากวิลล่ามากกว่า 300 หลังในจุดหมายปลายทางแต่ละแห่ง ทำให้การพักผ่อนเป็นโอกาสพิเศษที่ถูกใจผู้เข้าพักทุกคน” มายา ริกก์ กล่าว
ซีอีโอ อีลิธ ฮาเว่นส์ ยังกล่าวด้วยว่า แนวโน้มที่น่าสนใจอีกประการ คือ นักท่องเที่ยวชาวเอเชียกลายเป็นกำลังสำคัญในตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่โดดเด่นในการบริโภคสินค้าลักซ์ชูรี ส่งผลให้การท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ปรากฏการณ์นี้ได้กระตุ้นให้เกิดการเติบโตในภาคส่วนต่างๆ ของอุตสาหกรรม เช่น ที่พักสุดหรู แบรนด์ระดับลักซ์ชูรี และร้านอาหารชื่อดัง นอกจากนี้ ยังทำให้จุดหมายปลายทางต่างๆ ปรับตัวให้เข้ากับความชอบและความต้องการของนักเดินทางชาวเอเชีย ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ก็เป็นกลุ่มที่สนใจในสินค้าลักซ์ชูรีเช่นกัน ในอีกด้านหนึ่ง นักเดินทางชาวอินเดียกำลังนิยมเดินทางออกจากประเทศตัวเองมากยิ่งขึ้นเพื่อแสวงหาประสบการณอันแปลกใหม่ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้เตรียมพร้อมรองรับตลาดอินเดียด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและอาหารมังสวิรัติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ประสบการณ์ที่สร้างความอบอุ่นใจก็ยังเกิดจากการบริการที่น่าประทับใจ ซึ่ง “อีลิธ ฮาเว่นส์” ยังมุ่งมั่นที่จะให้บริการระดับลักซ์ชูรีให้กับนักเดินทาง ควบคู่ไปกับสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน และไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพื่อตอบโจทย์และสอดรับกับทิศทางการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
‘อีลิธ ฮาเว่นส์’ เปิด 9 เทรนด์พลิกโฉมการเดินทางแบบลักซ์ชูรี
1.TravelTech ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยสำคัญในการเที่ยว
2.นักรีวิวสมัครเล่นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
3.ความนิยมในวิลล่าส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น
4.การท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์จะเติบโตขึ้น
5.นักท่องเที่ยวจะเน้นการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์
6.โซเชียลมีเดียและอินฟูลเอนเซอร์ จะมีบทบาทมากขึ้น
7.นักท่องเที่ยวจะจัดสรรวันพักผ่อนพิเศษด้วยตัวเองมากขึ้น
8.ตลาดเอเชียคือผู้ขับเคลื่อนสินค้าลักซ์ชูรีที่สำคัญ และ
9.การทำงานออนไลน์ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้มากขึ้น