สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้ามองแบบกระเป๋าใครกระเป๋ามัน
คุณเป็นเจ้าของพื้นที่ เจ้าของร้าน มีคนมาใช้พื้นที่ขายของก็ต้องคิดค่าเช่า
ค่าเช่าพื้นที่เหมารวมค่าน้ำ ค่าไฟ ก็แล้วแต่ หรือสินค้าเขาใช้น้ำใช้ไฟเยอะก็คิดแยก
ถ้าเขามองว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมมาคิดค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย แต่ถ้ามองอีกด้านคือ จะมาใช้พื้นที่ขายของจะไม่ลงทุนอะไรเลยเหรอ
เรื่องแบบนี้ตอบยาก เพราะมันอยู่ที่การตกลงกัน แต่ละคู่ย่อมไม่เหมือนกัน จะใช้วิธีการของคู่หนึ่ง มาตัดสินอีกคู่หนึ่งไม่ได้
คุณเป็นเจ้าของพื้นที่ เจ้าของร้าน มีคนมาใช้พื้นที่ขายของก็ต้องคิดค่าเช่า
ค่าเช่าพื้นที่เหมารวมค่าน้ำ ค่าไฟ ก็แล้วแต่ หรือสินค้าเขาใช้น้ำใช้ไฟเยอะก็คิดแยก
ถ้าเขามองว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมมาคิดค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย แต่ถ้ามองอีกด้านคือ จะมาใช้พื้นที่ขายของจะไม่ลงทุนอะไรเลยเหรอ
เรื่องแบบนี้ตอบยาก เพราะมันอยู่ที่การตกลงกัน แต่ละคู่ย่อมไม่เหมือนกัน จะใช้วิธีการของคู่หนึ่ง มาตัดสินอีกคู่หนึ่งไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 8
ตัดเรื่องสถานะแฟนออกไปและมองแบบธุรกิจ กรณีนี้ position ของคุณคือ ผู้ให้เช่า พื้นที่ขายของ
ให้คิด 'ค่าเช่าที่' ส่วนจะคิดค่า % การขายหรือไม่ก็แล้วแต่ ทั้งสองกรณีนี้ไม่ใช่ทัศนคติเห็นฝ่ายชายเป็นลูกน้องแต่คุณอาจจะสื่อสารไม่ชัดเจน เช่น
- 'ขอ 30% ได้ไหม' คุณเป็นเจ้าของพื้นที่อย่าใช้คำว่า 'ขอได้ไหม' ให้ประกาศเงื่อนไขอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา อีกฝ่ายเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา หรือไม่ไหวก็อาจจะต่อรองต่อไป
- 'จะได้คืนค่ารีโนเวทมาเร็วหน่อย' การที่คุณไปชวนเขามาเองแล้วพูดประโยคนี้ออกไป เป็นการเปิดช่องให่เขาสวนกลับว่าที่แท้ก็จะเอาเขามาช่วยจ่ายค่าบ้าน ...
ซึ่งถามว่ามันเป็นข้อเท็จจริงไหม ก็เป็นข้อเท็จจริง แต่คุณไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คิดก็ได้ครับ คุณควรโฟกัสการพูดคุยในประเด็นหลัก คือ ข้อตกลงในธุรกิจ
เอาเป็นว่าจากที่เล่ามาถ้าดีลต่อก็ขอเดาว่าจะมีแต่เรื่องน่าปวดหัว เพราะตอนนี้ทั้ง 2 ท่านดูคล้ายจะทรีทเรื่องนี้เป็นเรื่อง personal ไปเสียแล้ว
ให้คิด 'ค่าเช่าที่' ส่วนจะคิดค่า % การขายหรือไม่ก็แล้วแต่ ทั้งสองกรณีนี้ไม่ใช่ทัศนคติเห็นฝ่ายชายเป็นลูกน้องแต่คุณอาจจะสื่อสารไม่ชัดเจน เช่น
- 'ขอ 30% ได้ไหม' คุณเป็นเจ้าของพื้นที่อย่าใช้คำว่า 'ขอได้ไหม' ให้ประกาศเงื่อนไขอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา อีกฝ่ายเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา หรือไม่ไหวก็อาจจะต่อรองต่อไป
- 'จะได้คืนค่ารีโนเวทมาเร็วหน่อย' การที่คุณไปชวนเขามาเองแล้วพูดประโยคนี้ออกไป เป็นการเปิดช่องให่เขาสวนกลับว่าที่แท้ก็จะเอาเขามาช่วยจ่ายค่าบ้าน ...
ซึ่งถามว่ามันเป็นข้อเท็จจริงไหม ก็เป็นข้อเท็จจริง แต่คุณไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คิดก็ได้ครับ คุณควรโฟกัสการพูดคุยในประเด็นหลัก คือ ข้อตกลงในธุรกิจ
เอาเป็นว่าจากที่เล่ามาถ้าดีลต่อก็ขอเดาว่าจะมีแต่เรื่องน่าปวดหัว เพราะตอนนี้ทั้ง 2 ท่านดูคล้ายจะทรีทเรื่องนี้เป็นเรื่อง personal ไปเสียแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ทำงานร่วมกันแฟน เราลงทุนทั้งหมด ควรแบ่งผลประโยชน์ยังไง
ชวนแฟนมาทำด้วยกัน เขาก็จะมาขายของเขาด้วย โดยที่จะเอารายได้ส่วนของเขาทั้งหมดไป แต่จะช่วยออกค่าไฟบ้าง
เราก็ขอว่าไม่เอาค่าไฟ แต่ขอส่วนแบ่งสัก 30% ได้ไหม จะได้คืนค่ารีโนเวทมาเร็วหน่อย (เขาน่าจะทำอยู่หลายปี ถึงจะได้ครึ่งหนึ่งของค่ารีโนเวท)
แฟนปฏิเสธทันที บอกว่าเรามองเขาเป็นลูกน้อง นึกว่าจะมาเปิดแบบเท่าเทียมกัน
จะให้เขาลงทุนหลักล้านบาทด้วยเขาไม่เอาหรอก โฉนดก็ไม่ได้แบ่งให้เขา เขาไปเปิดเองดีกว่า
อยากขอความเห็นเพื่อนๆหน่อย ว่าเราควรไปต่อยังไงดี มืดแปดด้านเลย (เรื่องชีวิตคู่นะ ส่วนเรื่องลงทุน ยังไงเราก็ทำต่อเหมือนเดิม)
ขอบคุณค่ะ