สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิป ปกติเคยแต่หาอ่านเก็บข้อมูลและความบันเทิง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการตั้งกระทู้ …เรื่องราวยาวหน่อยนะคะ เราไม่รู้จะปรึกษาหรือคุยกับใคร อยากให้คนภายนอกช่วยตอกย้ำหรือให้กำลังใจก็ได้ค่ะ เราสับสนว่าจะบอกตัวเองยังไงดี… เรื่องนี้เป็นเรื่องสัญญาการเช่าคอนโดนะคะ เราโดนบอกเลิกสัญญาเช่าและให้ออกกะทันหันใน3วัน เหตุเพราะเราผิดสัญญา….. ขอสรุปเป็นข้อๆเพื่อความเข้าใจง่ายค่ะ (หากผิดพลาดหรือพิมไม่เคลียร์ตรงไหนขออภัยนะคะ)
1. เราได้ทำสัญญาเช่าคอนโด วันที่ 1 กันยา 66 โดยคิดค่าเช่าล่วงหน้า8000บาทและเงินประกันทรัพย์สิน 16,000บาท
2. เดือนที่ 1,2,3 อยู่ไปไม่มีปัญหาอะไรค่ะ จนมาถึงเดือนธันวาคม เราได้ชำระค่าห้อง 8000฿ ในวันที่15 เวลาประมาณ 19.25 ส่งสลิปแจ้งเจ้าของห้องประมาณ 20.12 และแจ้งขอจ่ายค่าปรับตามหลังนะคะ (ปกติจ่ายวันที่1-5 หากเกินนั้นค่าปรับวันละ250฿ และให้ชำระให้แล้วเสร็จวันที่15) สรุปค่าปรับของเราคือ 2500บาทค่ะ
3. เช้าวันที่ 16 เวลาประมาณ9โมง เราเห็นไลน์จากเจ้าของแจ้งกลับมาตอน 23.33 ว่า ‘รบกวนจ่ายให้เสร็จตามเวลาครับ’
4. เราทำการโทรไปหาเจ้าของห้อง ว่าเพิ่งเห็นไลน์ค่ะ หนูขอจ่ายค่าปรับภายในวันนี้(16/12/66)นะคะ… เขาเหมือนจะไม่ยอมค่ะ แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่า ‘เอางี้ละกัน ถ้าโอนมาตอนนี้เขาจะยืดยุ่นให้อยู่ต่อ ให้เวลา5นาที’ ตอนนั้นเวลา09.51น แน่นอนค่ะเราหาไม่ทัน
5. เวลา 10.06น เราส่งขอความไปว่า’หนูขอยืดยุ่นจ่สยภายในวันนี้นะคะ และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก🥹’
6. เวลา 10.25 น เอเจ้นโทรมาแจ้งว่าเจ้าของยกเลิกสัญญานะคะเนื่องจากเราผิดสัญญา เขาคุยให้แล้วแต่เจ้าของไม่ยอม(คุยจริงรึเปล่าเราไม่ทราบ) ขอนัดคืนห้องวันที่20 นี้ (ซึ่งกระทันหันมาก)
7. เวลา 10.34เราส่งข้อความหาเจ้าของห้องว่า ‘ย้ายออกอย่างเดียวหรอคะ’ (เอาจริงตอนนั้นก้อคิดว่า มันเกินไปมั้ย เราคงคิดเข้าข้างตัวเองไป😅)
8. เวลา 10.58 ได้รับโทรศัพท์จากนายหน้าว่า ‘ที่แจ้งนัดคืนห้องวันที่20 อ่าค่ะ ไม่สะดวกแล้วนะคะ ขอเลื่อนเป็นวันที่19 เจ้าของจะให้ลูกเขาไปแทน (ตอนนั้นคือ เอ่อไปเลยค่ะ ความผิดมันร้านแรงถึงขั้นต้องให้ออกภายใน3วันเลยหรอ) และเอเจ้นบอกว่าเจ้าของห้องยืดยุ่นให้แล้วเป็นห่วงว่าเราจะขนย้ายไม่ทัน (เราจะขอบคุณความใจดีของเขาดีไหม😭) วันนั้นเราอยู่ตจว.เสียด้วย เครียดไมเกรนขึ้นทั้งวันค่ะ
9. และตอนนั้นเรารู้สึกว่ายิ่งขอเหมือนยิ่งโดนเร่งให้ออก เลยนิ่งเพื่อตั้งสติ+บวกกับกำลังเดินทางด้วยค่ะ
10. ในช่วงบ่ายเรามีเงินพอที่จะจ่ายค่าปรับ2500฿แล้วค่ะ แต่เนื่องจากเจ้าของห้องอ่านแล้วไม่ตอบและโดนแจ้งให้ย้ายออก เราจึงไม่กล้าโอนค่ะ กลัวว่าโอนไปแล้วเขายังไม่ยอมจะยกเลิกสัญญาให้ได้ กลายเป็นว่าเงินไปอยู่กับเขาหมด
11. เรารวบรวมสติโทรไปหาเจ้าของห้องอีกครั้งในเวลา 16.27น. 2ครั้ง ไม่รับสาย แต่โทรไปอีกครั้ง 17.01น. ‘แจ้งว่า หนูโทรมาขอจ่ายค่าปรับค่ะ’ เขาบอกว่า ‘เลยเวลาแล้ว ที่เหลือก็ตามเอเจ้นแจ้ง’ ‘หนูคุยกับเอเจ้นแล้วแต่เขาบอกว่าเจ้าของห้องไม่ยอมค่ะ หนูเลยโทรมาขอจ่าย’ ‘เลยเวลาแล้ว ก็ตามนั้นนะตามเอเจ้นเลย’ 🥹
12. คำที่เราได้ยินบ่อยคือ ผิดสัญญา ดูในสัญญา ซึ่งเรายอมรับในข้อนี้นะคะว่าเราผิดสัญญา แต่ตัวเราก้อได้ชำระค่าห้องในระยะเวลาตามสัญญา ค่าปรับ2500฿ที่ขอจ่ายในวันถัดไป มันจะเป็นสาระสำคัญที่จะให้ย้ายออกใน3วันเลยหรอคะ ตามกฏหมายบอกให้เวลาย้ายน้อย15วันเลย แต่ของเรา3จะหาที่อยู่ไหนได้ทัน…ความรู้สึกว้าวุ่นในตอนนั้น😊
13. เราโทรหาเอเจ้น เจรจาขออยุ่ต่อ (เขาสนิทกันค่ะ เพราะเอเจ้นบอกนับถือเจ้าของเหมือนพ่อ) แต่ไม่ผล เราถามไปนะคะว่า ‘ค่าห้องจ่ายไปแล้ว แต่ทำไมยังมาบอกเลิกสัญญาเหมือนยังไม่จ่าย ถ้าผลมันเหมือนกันเราจะจ่ายทำไม’ และได้ถามถึงเงินประกันห้องจำนวน 16000฿ ว่าจะคืนไหม เขาบอกให้อ่านสัญญานะคะว่าจะมีการคืนก้อต่อเมื่ออยุ่ครบ12เดือนเท่านั้นและเราก็ยังอยู่ไม่ครบ ตอนนั้นเราก้อหงุดหงิดนะคะ รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมากๆ ค่าเช่าก็จ่าย ประกันก็ริบ😣
14. พี่ที่เราสนิทขอเป็นคนกลางเจรจาให้เรา เพราะพี่เขามองว่าเกินไป เขาทำอพาทเม้นให้เช่าอยู่ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย เขามองว่าค่าปรับมันยืดยุ่นได้และเราก้อขอจ่าย แต่เขาเลือกที่จะไม่รับ…เขาโทรไปหาเจ้าของแต่ได้คำตอบแบบเดิมคือเลยเวลาและตามเอเจ้นแจ้ง เขาไม่ว่าง พี่ที่เรารู้จักเลยส่งข้อความไปให้เขาตามรูปข้างล่าง
14. ทางเจ้าของก๊อปข้อความมาให้ดิฉันและตอบกลับมาประมาณว่า ‘เขาติดธุระไม่สะดวกคุยเรื่องเราต่อหน้าคนอื่น และเขาให้เวลาเรา5นาทีแล้วแต่ก้อไม่มีความสามารถที่จะโอน ไม่คุย มาคุยเอาเวลาสุดท้ายที่เขาติดธุระ คุยไม่คุยหายไปเลยทั้งวัน’ ประมาณนี้ค่ะ แต่เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้หาย เราติดต่อแต่เขาไม่ตอบและยังให้เอเจ้นมาแจ้งย้ายออกอีก ….ในเวลา20.46 ส่งข้อความเผื่อเขาจะใจอ่อนไป ‘หนูขอโทษจริงๆนะคะ ที่รบกวนเวลาคุยธุระ แต่ขอโอกาสอีกครั้งนะคะ ถือว่าสุดท้ายแล้วกันนะคะ เพราะถ้าจะให้ย้ายออกช่วงนี้ โดยที่มัดจำก็ไม่มี หนูทำไม่ได้จริงๆค่ะ ขอร้องอีกครั้งละกันนะคะ แล้วหนูสัญญาจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ ถือว่าช่วยหนูสักครั้งนะคะ’ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมาค่ะ😭
15. บทสรุปในวันนั้นคือ เราต้องออกในวันที่ 19/12/66 และจะคืนเงินทอนค่าเช่าโดยเฉลี่ยเป็นรายวันคิด18วัน แต่ยังไม่นัดเวลา
16. หาความรู้จากเรื่องนี้ได้ยากมากค่ะ ถามทนายก็บอกว่าดูในสัญญาเลย เพื่อนบอกจะแจ้งความก็เป็นคดีแพ้ง ตำรวจเขางานเยอะอยุาแล้วไม่รับแจ้งหรอก ..เราไปทั้งโพตสอบถามในเฟสบุ๊ค มีคอมเม้นแนะนำให้เขาไป สคบ.เลย เขารับจบเรื่องแบบนี้ และเรื่องเกิดขึ้นเสา-ทิต เราเหมือนนรกทั้งเป็น ว้าวุ่นไปหมด ไหนจะเงินที่ต้องหาที่พักใหม่ ไหนจะที่พักหาก้อไม่ง่าย จะปรึกษาสคบ.ก็ต้องรอเวลาทำการ🥹
17. วันจันทร์ที่ 18 เราโทรหาสคบ.สายด่วน ตอน08.30เลย(เริ่มทำการ) ได้รับข้อมูลเรื่องเอกสารที่จะเตรียมและคำแนะนำต่างๆดีมากค่ะ เราจะรวบรวมข้อมูลและไปสคบในเวลาบ่ายนั้นเลย(สคบ.จะรับเอกสารที่เป็นสำเนาเท่านั้นนะคะ) ทั้งสัญญาหลักฐานการโทรและแชทเอาไปหมดเลยค่ะ
18. เราไปปรึกษาและถามในเรื่องของสัญญาที่สวนทางกับกฎหมายด้วยว่าถ้าเป็นแบบนี้ จะยังไงต่อได้บ้างเพราะถ้าตามสัญญาแน่นอนเราผิด และเขาระบุว่าจะไม่คืนค่าประกันทุกกรณีจนกว่าจะครบ12เดือนตามสัญญาเราไม่มีทางเรียกร้องได้เลย แต่พนง.สคบบอกว่าสัญญาไม่สูงสุดใครจะเขียนยังไงก็ได้ ยังมีกฏหมายและประกาศฯอีก แค่ค่าปรับก็ผิดกม.แล้ว แล้วเงินประกันยังไงก็ต้องคืน ให้เขาออกกระทันหัน3วัน7วัน เขาไม่คิดหรอว่ามันจะทัน (เราไม่แน่ใจว่าเขาปลอบใจเราอยู่ไหม เพราะเราไปแบบเป็นทุกข์มากจริงๆ)
19. พนง.ให้คำแนะนำมาว่าถ้าเขาให้ออก ก็ออกหาที่อยุ่กับใครไปก่อน แล้ววันคืนห้องถามหาเงินประกัน ถ้าเขาไม่คืนให้ไปลงรายงานที่สน.และนำใบรายงานมายื่นเรื่องที่สคบอีกที เพราะในวันนั้นพนง.บอกว่าเรื่องยังไม่เกิดเขาก็ไม่รู้จะช่วยยังไง จะเรียกร้องอยู่ต่อจนครบเราเองคงไม่สะดวกใจแล้ว
20. วันที่ต้องคืนห้องก็มาถึง เขานัด9โมง แต่บอกไปว่าไม่สะดวก ยืดได้สุดมาที่10โมงค่ะ ตรวจสอบห้องพักแล้วเรียบร้อยไม่เสียหายและไม่คืนเงินประกัน แถมมาคิดค่าทำความสะอาดจากเงินที่ต้องทอนคืนเราอีก😆 หักค่าน้ำไฟเสร็จสรรพ รับเงินคืน2,0**฿ ตอนแรกสงสัยทำไมให้รีบออกขนาดนี้มาถึงบางอ้อว่า อ่อ จะได้มีเงินเหลือหักนีาเอง (ตอนคิดค่าใช้จ่ายเอเจ้นบอกว่าเจ้าของห้องยืดยุ่นให้นะคะไม่คิดค่าล้างแอร์ 1,400฿ ถือว่าช่วยๆกัน ย้ำอยู่3-4ครั้งตรงนี้ไม่คิดนะคะ😆 เราต้องซึ้งใจแล้วแหละ)
21. ก่อนจะแยกย้ายไป เอเจ้นบอกว่า คุณพ่อฝากมาบอกนะคะว่าท่านก็มีค่าใช้จ่ายทั้งค่านายหน้าและค่าส่วนกลางดูแลห้องค่ะ….😌
22. หลังจากนั้นเราก็ไปสน.เพื่อลงใบรายงานค่ะ และณ วันนี้21/12/66 เรายื่นเรื่องที่ สคบ.เรียบร้อย กำลังอยุ่ในระหว่างดำเนินการ
ปล.ในความรู้สึกบางทีเราก็คิดว่าก็เราผิด แต่ในอีกมุมก็รู้สึกว่าเขากระทำกับเราเกินไป🥹 เราไม่รู้ควรจะรู้สึกอย่างไรดี
****อัพเดตนะคะ 24/02/67****
เมื่อวันทีา20 ก.พ ที่ผ่านมา สคบ.นัดไกล่เกลี่ยครั้งที่1 และได้รับเงินประกันคืนมา12000฿ โดยที่ตอนแรกทางนุ้นเสนอมา8000หรือครึ่งนึงนั่นเอง แต่เราไม่รับเงินประกันเราควรได้คืนทั้งหมดหากทรัพย์สินของเขาไม่เสียหาย หรือจะหักค่าอะไรที่ลงไปในสัญญาก็ว่าไป นาทีนั้นนอกจากเรื่องเงิน เรื่องที่เราซีเรียสมากกว่าคือความไม่เป็นธรรมที่เขาทำกับเรามันเกินไปมากๆ เราบอกเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าดำเนินการจนถึงที่สุดแล้วสุดท้ายไม่ได้คืนสักบาทก็ไม่เป็นไร แต่เราก็จะได้รู้ว่าเราทำที่สุดแล้ว..จนท.ก็ให้เราเลือกว่าจะดำเนินการต่อไปยังไง
1.ไปดำเนินการที่ศาลเลย โดยสามารถมาปรึกษาจนท.ของหน่อยงานได้(ผู้ร้องไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ถูกร้องมีค่าใช้จ่ายประเป็นกิจการประมาณนั้นมั้งคะ)
หรือ2.จะทำการไกล่เกลี่ยครั้งต่อไปที่สคบ.โดยครั้งหน้าที่คุยก็จะเป็นจนท.อีกกลุ่มนึงอาจจะมีนักกฎหมายด้วย (ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าไกล่เกลี่ยตรงนี้ไม่ได้ก็จะนำเรื่องสู่ศาลค่ะ)
เราเลือกวิธีที่2 เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องที่ศาลมาเลย
สักครู่จนท.ก็มาแจ้งว่าทางนุ้นยอมจ่ายให้ค่ะ12000฿(หักค่าใดๆจาก16000แล้ว) เราก็โอเค เรื่องจบลงแค่วันนั้นโดยเซ็นเอกสารยุติเรื่องเรียบร้อย
**เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบการทำงานของสคบ.หรือกลัวที่จะร้องทุกข์ เดี๋ยวว่างๆจะเขียนเรื่องการร้องทุกข์ สคบ.เพื่อเป็นความรู้
***ในเรื่องของสัญญาที่เซ็นมันไม่ใช่บทสรุปเดียวนะคะ ยังมีคำประกาศและกฏหมายรองรับอีก คนไม่ทราบยอมถูกเอาเปรียบมีอีกเยอะค่ะ
โดนบอกเลิกสัญญาเช่าห้องและให้ออกกะทันหัน
1. เราได้ทำสัญญาเช่าคอนโด วันที่ 1 กันยา 66 โดยคิดค่าเช่าล่วงหน้า8000บาทและเงินประกันทรัพย์สิน 16,000บาท
2. เดือนที่ 1,2,3 อยู่ไปไม่มีปัญหาอะไรค่ะ จนมาถึงเดือนธันวาคม เราได้ชำระค่าห้อง 8000฿ ในวันที่15 เวลาประมาณ 19.25 ส่งสลิปแจ้งเจ้าของห้องประมาณ 20.12 และแจ้งขอจ่ายค่าปรับตามหลังนะคะ (ปกติจ่ายวันที่1-5 หากเกินนั้นค่าปรับวันละ250฿ และให้ชำระให้แล้วเสร็จวันที่15) สรุปค่าปรับของเราคือ 2500บาทค่ะ
3. เช้าวันที่ 16 เวลาประมาณ9โมง เราเห็นไลน์จากเจ้าของแจ้งกลับมาตอน 23.33 ว่า ‘รบกวนจ่ายให้เสร็จตามเวลาครับ’
4. เราทำการโทรไปหาเจ้าของห้อง ว่าเพิ่งเห็นไลน์ค่ะ หนูขอจ่ายค่าปรับภายในวันนี้(16/12/66)นะคะ… เขาเหมือนจะไม่ยอมค่ะ แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่า ‘เอางี้ละกัน ถ้าโอนมาตอนนี้เขาจะยืดยุ่นให้อยู่ต่อ ให้เวลา5นาที’ ตอนนั้นเวลา09.51น แน่นอนค่ะเราหาไม่ทัน
5. เวลา 10.06น เราส่งขอความไปว่า’หนูขอยืดยุ่นจ่สยภายในวันนี้นะคะ และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก🥹’
6. เวลา 10.25 น เอเจ้นโทรมาแจ้งว่าเจ้าของยกเลิกสัญญานะคะเนื่องจากเราผิดสัญญา เขาคุยให้แล้วแต่เจ้าของไม่ยอม(คุยจริงรึเปล่าเราไม่ทราบ) ขอนัดคืนห้องวันที่20 นี้ (ซึ่งกระทันหันมาก)
7. เวลา 10.34เราส่งข้อความหาเจ้าของห้องว่า ‘ย้ายออกอย่างเดียวหรอคะ’ (เอาจริงตอนนั้นก้อคิดว่า มันเกินไปมั้ย เราคงคิดเข้าข้างตัวเองไป😅)
8. เวลา 10.58 ได้รับโทรศัพท์จากนายหน้าว่า ‘ที่แจ้งนัดคืนห้องวันที่20 อ่าค่ะ ไม่สะดวกแล้วนะคะ ขอเลื่อนเป็นวันที่19 เจ้าของจะให้ลูกเขาไปแทน (ตอนนั้นคือ เอ่อไปเลยค่ะ ความผิดมันร้านแรงถึงขั้นต้องให้ออกภายใน3วันเลยหรอ) และเอเจ้นบอกว่าเจ้าของห้องยืดยุ่นให้แล้วเป็นห่วงว่าเราจะขนย้ายไม่ทัน (เราจะขอบคุณความใจดีของเขาดีไหม😭) วันนั้นเราอยู่ตจว.เสียด้วย เครียดไมเกรนขึ้นทั้งวันค่ะ
9. และตอนนั้นเรารู้สึกว่ายิ่งขอเหมือนยิ่งโดนเร่งให้ออก เลยนิ่งเพื่อตั้งสติ+บวกกับกำลังเดินทางด้วยค่ะ
10. ในช่วงบ่ายเรามีเงินพอที่จะจ่ายค่าปรับ2500฿แล้วค่ะ แต่เนื่องจากเจ้าของห้องอ่านแล้วไม่ตอบและโดนแจ้งให้ย้ายออก เราจึงไม่กล้าโอนค่ะ กลัวว่าโอนไปแล้วเขายังไม่ยอมจะยกเลิกสัญญาให้ได้ กลายเป็นว่าเงินไปอยู่กับเขาหมด
11. เรารวบรวมสติโทรไปหาเจ้าของห้องอีกครั้งในเวลา 16.27น. 2ครั้ง ไม่รับสาย แต่โทรไปอีกครั้ง 17.01น. ‘แจ้งว่า หนูโทรมาขอจ่ายค่าปรับค่ะ’ เขาบอกว่า ‘เลยเวลาแล้ว ที่เหลือก็ตามเอเจ้นแจ้ง’ ‘หนูคุยกับเอเจ้นแล้วแต่เขาบอกว่าเจ้าของห้องไม่ยอมค่ะ หนูเลยโทรมาขอจ่าย’ ‘เลยเวลาแล้ว ก็ตามนั้นนะตามเอเจ้นเลย’ 🥹
12. คำที่เราได้ยินบ่อยคือ ผิดสัญญา ดูในสัญญา ซึ่งเรายอมรับในข้อนี้นะคะว่าเราผิดสัญญา แต่ตัวเราก้อได้ชำระค่าห้องในระยะเวลาตามสัญญา ค่าปรับ2500฿ที่ขอจ่ายในวันถัดไป มันจะเป็นสาระสำคัญที่จะให้ย้ายออกใน3วันเลยหรอคะ ตามกฏหมายบอกให้เวลาย้ายน้อย15วันเลย แต่ของเรา3จะหาที่อยู่ไหนได้ทัน…ความรู้สึกว้าวุ่นในตอนนั้น😊
13. เราโทรหาเอเจ้น เจรจาขออยุ่ต่อ (เขาสนิทกันค่ะ เพราะเอเจ้นบอกนับถือเจ้าของเหมือนพ่อ) แต่ไม่ผล เราถามไปนะคะว่า ‘ค่าห้องจ่ายไปแล้ว แต่ทำไมยังมาบอกเลิกสัญญาเหมือนยังไม่จ่าย ถ้าผลมันเหมือนกันเราจะจ่ายทำไม’ และได้ถามถึงเงินประกันห้องจำนวน 16000฿ ว่าจะคืนไหม เขาบอกให้อ่านสัญญานะคะว่าจะมีการคืนก้อต่อเมื่ออยุ่ครบ12เดือนเท่านั้นและเราก็ยังอยู่ไม่ครบ ตอนนั้นเราก้อหงุดหงิดนะคะ รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมากๆ ค่าเช่าก็จ่าย ประกันก็ริบ😣
14. พี่ที่เราสนิทขอเป็นคนกลางเจรจาให้เรา เพราะพี่เขามองว่าเกินไป เขาทำอพาทเม้นให้เช่าอยู่ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย เขามองว่าค่าปรับมันยืดยุ่นได้และเราก้อขอจ่าย แต่เขาเลือกที่จะไม่รับ…เขาโทรไปหาเจ้าของแต่ได้คำตอบแบบเดิมคือเลยเวลาและตามเอเจ้นแจ้ง เขาไม่ว่าง พี่ที่เรารู้จักเลยส่งข้อความไปให้เขาตามรูปข้างล่าง
14. ทางเจ้าของก๊อปข้อความมาให้ดิฉันและตอบกลับมาประมาณว่า ‘เขาติดธุระไม่สะดวกคุยเรื่องเราต่อหน้าคนอื่น และเขาให้เวลาเรา5นาทีแล้วแต่ก้อไม่มีความสามารถที่จะโอน ไม่คุย มาคุยเอาเวลาสุดท้ายที่เขาติดธุระ คุยไม่คุยหายไปเลยทั้งวัน’ ประมาณนี้ค่ะ แต่เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้หาย เราติดต่อแต่เขาไม่ตอบและยังให้เอเจ้นมาแจ้งย้ายออกอีก ….ในเวลา20.46 ส่งข้อความเผื่อเขาจะใจอ่อนไป ‘หนูขอโทษจริงๆนะคะ ที่รบกวนเวลาคุยธุระ แต่ขอโอกาสอีกครั้งนะคะ ถือว่าสุดท้ายแล้วกันนะคะ เพราะถ้าจะให้ย้ายออกช่วงนี้ โดยที่มัดจำก็ไม่มี หนูทำไม่ได้จริงๆค่ะ ขอร้องอีกครั้งละกันนะคะ แล้วหนูสัญญาจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ ถือว่าช่วยหนูสักครั้งนะคะ’ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมาค่ะ😭
15. บทสรุปในวันนั้นคือ เราต้องออกในวันที่ 19/12/66 และจะคืนเงินทอนค่าเช่าโดยเฉลี่ยเป็นรายวันคิด18วัน แต่ยังไม่นัดเวลา
16. หาความรู้จากเรื่องนี้ได้ยากมากค่ะ ถามทนายก็บอกว่าดูในสัญญาเลย เพื่อนบอกจะแจ้งความก็เป็นคดีแพ้ง ตำรวจเขางานเยอะอยุาแล้วไม่รับแจ้งหรอก ..เราไปทั้งโพตสอบถามในเฟสบุ๊ค มีคอมเม้นแนะนำให้เขาไป สคบ.เลย เขารับจบเรื่องแบบนี้ และเรื่องเกิดขึ้นเสา-ทิต เราเหมือนนรกทั้งเป็น ว้าวุ่นไปหมด ไหนจะเงินที่ต้องหาที่พักใหม่ ไหนจะที่พักหาก้อไม่ง่าย จะปรึกษาสคบ.ก็ต้องรอเวลาทำการ🥹
17. วันจันทร์ที่ 18 เราโทรหาสคบ.สายด่วน ตอน08.30เลย(เริ่มทำการ) ได้รับข้อมูลเรื่องเอกสารที่จะเตรียมและคำแนะนำต่างๆดีมากค่ะ เราจะรวบรวมข้อมูลและไปสคบในเวลาบ่ายนั้นเลย(สคบ.จะรับเอกสารที่เป็นสำเนาเท่านั้นนะคะ) ทั้งสัญญาหลักฐานการโทรและแชทเอาไปหมดเลยค่ะ
18. เราไปปรึกษาและถามในเรื่องของสัญญาที่สวนทางกับกฎหมายด้วยว่าถ้าเป็นแบบนี้ จะยังไงต่อได้บ้างเพราะถ้าตามสัญญาแน่นอนเราผิด และเขาระบุว่าจะไม่คืนค่าประกันทุกกรณีจนกว่าจะครบ12เดือนตามสัญญาเราไม่มีทางเรียกร้องได้เลย แต่พนง.สคบบอกว่าสัญญาไม่สูงสุดใครจะเขียนยังไงก็ได้ ยังมีกฏหมายและประกาศฯอีก แค่ค่าปรับก็ผิดกม.แล้ว แล้วเงินประกันยังไงก็ต้องคืน ให้เขาออกกระทันหัน3วัน7วัน เขาไม่คิดหรอว่ามันจะทัน (เราไม่แน่ใจว่าเขาปลอบใจเราอยู่ไหม เพราะเราไปแบบเป็นทุกข์มากจริงๆ)
19. พนง.ให้คำแนะนำมาว่าถ้าเขาให้ออก ก็ออกหาที่อยุ่กับใครไปก่อน แล้ววันคืนห้องถามหาเงินประกัน ถ้าเขาไม่คืนให้ไปลงรายงานที่สน.และนำใบรายงานมายื่นเรื่องที่สคบอีกที เพราะในวันนั้นพนง.บอกว่าเรื่องยังไม่เกิดเขาก็ไม่รู้จะช่วยยังไง จะเรียกร้องอยู่ต่อจนครบเราเองคงไม่สะดวกใจแล้ว
20. วันที่ต้องคืนห้องก็มาถึง เขานัด9โมง แต่บอกไปว่าไม่สะดวก ยืดได้สุดมาที่10โมงค่ะ ตรวจสอบห้องพักแล้วเรียบร้อยไม่เสียหายและไม่คืนเงินประกัน แถมมาคิดค่าทำความสะอาดจากเงินที่ต้องทอนคืนเราอีก😆 หักค่าน้ำไฟเสร็จสรรพ รับเงินคืน2,0**฿ ตอนแรกสงสัยทำไมให้รีบออกขนาดนี้มาถึงบางอ้อว่า อ่อ จะได้มีเงินเหลือหักนีาเอง (ตอนคิดค่าใช้จ่ายเอเจ้นบอกว่าเจ้าของห้องยืดยุ่นให้นะคะไม่คิดค่าล้างแอร์ 1,400฿ ถือว่าช่วยๆกัน ย้ำอยู่3-4ครั้งตรงนี้ไม่คิดนะคะ😆 เราต้องซึ้งใจแล้วแหละ)
21. ก่อนจะแยกย้ายไป เอเจ้นบอกว่า คุณพ่อฝากมาบอกนะคะว่าท่านก็มีค่าใช้จ่ายทั้งค่านายหน้าและค่าส่วนกลางดูแลห้องค่ะ….😌
22. หลังจากนั้นเราก็ไปสน.เพื่อลงใบรายงานค่ะ และณ วันนี้21/12/66 เรายื่นเรื่องที่ สคบ.เรียบร้อย กำลังอยุ่ในระหว่างดำเนินการ
ปล.ในความรู้สึกบางทีเราก็คิดว่าก็เราผิด แต่ในอีกมุมก็รู้สึกว่าเขากระทำกับเราเกินไป🥹 เราไม่รู้ควรจะรู้สึกอย่างไรดี
****อัพเดตนะคะ 24/02/67****
เมื่อวันทีา20 ก.พ ที่ผ่านมา สคบ.นัดไกล่เกลี่ยครั้งที่1 และได้รับเงินประกันคืนมา12000฿ โดยที่ตอนแรกทางนุ้นเสนอมา8000หรือครึ่งนึงนั่นเอง แต่เราไม่รับเงินประกันเราควรได้คืนทั้งหมดหากทรัพย์สินของเขาไม่เสียหาย หรือจะหักค่าอะไรที่ลงไปในสัญญาก็ว่าไป นาทีนั้นนอกจากเรื่องเงิน เรื่องที่เราซีเรียสมากกว่าคือความไม่เป็นธรรมที่เขาทำกับเรามันเกินไปมากๆ เราบอกเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าดำเนินการจนถึงที่สุดแล้วสุดท้ายไม่ได้คืนสักบาทก็ไม่เป็นไร แต่เราก็จะได้รู้ว่าเราทำที่สุดแล้ว..จนท.ก็ให้เราเลือกว่าจะดำเนินการต่อไปยังไง
1.ไปดำเนินการที่ศาลเลย โดยสามารถมาปรึกษาจนท.ของหน่อยงานได้(ผู้ร้องไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ถูกร้องมีค่าใช้จ่ายประเป็นกิจการประมาณนั้นมั้งคะ)
หรือ2.จะทำการไกล่เกลี่ยครั้งต่อไปที่สคบ.โดยครั้งหน้าที่คุยก็จะเป็นจนท.อีกกลุ่มนึงอาจจะมีนักกฎหมายด้วย (ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าไกล่เกลี่ยตรงนี้ไม่ได้ก็จะนำเรื่องสู่ศาลค่ะ)
เราเลือกวิธีที่2 เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องที่ศาลมาเลย
สักครู่จนท.ก็มาแจ้งว่าทางนุ้นยอมจ่ายให้ค่ะ12000฿(หักค่าใดๆจาก16000แล้ว) เราก็โอเค เรื่องจบลงแค่วันนั้นโดยเซ็นเอกสารยุติเรื่องเรียบร้อย
**เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบการทำงานของสคบ.หรือกลัวที่จะร้องทุกข์ เดี๋ยวว่างๆจะเขียนเรื่องการร้องทุกข์ สคบ.เพื่อเป็นความรู้
***ในเรื่องของสัญญาที่เซ็นมันไม่ใช่บทสรุปเดียวนะคะ ยังมีคำประกาศและกฏหมายรองรับอีก คนไม่ทราบยอมถูกเอาเปรียบมีอีกเยอะค่ะ